ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 679

"อย่า อย่าฆ่าผมเลยนะครับ! ผมยังไม่อยากตาย!"

เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันแสนเย็นชาของเย่เทียน พนักงานเสิร์ฟคนนั้นก็ตระหนักถึงความอันตรายและพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวว่า "ผมทำงานให้กับพี่ปืนใหญ่ครับ พี่ปืนใหญ่เป็นคนสั่งให้ผมมา……"

"ปืนใหญ่?"

เย่เทียนครุ่นคิดอยู่สักพัก และคิดว่าไม่เคยรู้จักคนที่ว่ามาก่อนเลย เขาจึงขมวดคิ้วแล้วถามอย่างสงสัยว่า "เป็นไอ้บ้าที่ไหนอีกล่ะ?"

แต่ผู้จัดการที่เพิ่งมาถึงกลับตรงกันข้าม จู่ๆ เขาก็ตัวสั่นขึ้นมาแล้วพูดอย่างประหม่าว่า "คุณผู้ชายครับ คุณอย่าหาว่าผมยุ่งเรื่องคุณเลยนะครับ ผมว่าให้เรื่องนี้จบแค่นี้ดีกว่านะครับ? ไอ้หมอนี่มันทำงานให้กับปืนใหญ่ และคนที่มีเรื่องกับปืนใหญ่ไม่มีใครจบสวยเลยสักคนนะครับ!"

เย่เทียนถึงกับขำออกมา ไม่คิดเลยว่าผู้จัดการร้านจะกลัวไอ้คนที่ชื่อว่าปืนใหญ่ขนาดนั้น ดวงตาสีเข้มของเขาก็ประกายความเย็นเยือกออกมา

เมื่อนึกถึงจุดนี้ เย่เทียนก็ดึงเก้าอี้มาแล้วนั่งลงพร้อมกับมองไปที่พนักงานเสิร์ฟด้วยสีหน้าเฉยเมย "เท่าที่ผมรู้ ผมไม่เคยมีเรื่องกับลูกพี่คุณเลยนะ แล้วทำไมเขาต้องใช้คุณมาลอบสังหารผมด้วย?"

"ผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ! ผมก็แค่ทำตามคำสั่ง!"

น่าเสียดายที่พนักงานเสิร์ฟคนนี้เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง แล้วจะไปรู้เรื่องวงในได้อย่างไงกัน?

"ใช่เหรอ?"

เย่เทียนอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา เพราะเขาก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเขาเคยมีเรื่องกับคนที่ชื่อปืนใหญ่คนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!

และในขณะนั้นเอง เซวหมานจื่อที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็ให้หยุนเหมิงหยานเข็นเข้าไปหาและส่ายหัวพูดว่า "เย่เทียน สองวันก่อนหน้านี้ผมได้ยินน้องชายบอกว่าปืนใหญ่คนนี้เป็นนักเลงขาใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองจิน ที่ผ่านมาเขามีแต่ไต่เต้าสถานะตำแหน่งให้สูงขึ้น และช่วงนี้เขาพยายามจะเอาชนะบ้านตระกูลเย่ ผมเกรงว่า…..."

เมื่อเย่เทียนได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้าทันที ถึงแม้เซวหมานจื่อไม่ได้พูดต่อ แต่เขาก็พอรู้ความหมายที่เซวหมานจื่อกำลังจะสื่อ

จนกระทั่งตอนนี้ ตระกูลเย่กับเขาก็ยังคงไม่ถูกกัน โดยเฉพาะสองพี่น้องเย่หย่งหง ดังนั้นเซวหมานจื่อพยายามจะบอกว่าปืนใหญ่คนนี้เป็นที่ถูกส่งมาจากสองพี่น้องของเย่หย่งหงอีกที

แต่เย่เทียนคิดอยู่สักพักก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะใช่ว่าสองพี่น้องเย่หย่งหงจะไม่รู้ความแข็งแกร่งของเขา ถ้าอยากฆ่าเขาจริงๆ ทำไมถึงส่งคนธรรมดามาด้วยล่ะ?

"แม่งเอ้ย! กูคงเนื้อหอมมากเลยสินะ ใครๆ ก็ยากลอบกัดกูแบบนี้?"

ในเมื่อคิดไม่ออก เย่เทียนก็ไม่อยากคิดอะไรให้มากกว่านี้ เขาได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง และยังคงลังเลในใจว่าเขาต้องไปหาปืนใหญ่คนนี้เพื่อถามให้ชัดเจนไหม

เพราะสุดท้ายแล้ว เขาไม่ใช่พ่อพระอะไรที่ไหน เมื่อเผชิญกับเรื่องแบบนี้เขาก็ต้องโมโหเป็นธรรมดา จากนั้นเขาก็หยิบมือถือออกมาแล้วกดเบอร์ของเหลยเหลาหู่ต่อหน้าทุกคน

หลังจากเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ ในเจียงหนัน เย่เทียนก็ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า "เหลาหู่ หาคนที่มีฝีมือดีๆ แล้วพามาที่เมืองจินให้ที!"

แม้ว่าเหลยเหลาหู่จะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่าเย่เทียนโมโหมากแล้ว เขาจึงพยักหน้าตอบโดยไม่ลังเล "ได้ครับ! คุณชายเย่ ช้าสุดเราจะไปถึงที่นั่นคืนพรุ่งนี้ครับ!”

เมื่อวางสายเย่เทียนก็หรี่ตาลง เขาครุ่นคิดไปมาอย่างถี่ถ้วน และคิดว่าปืนใหญ่ไม่ได้มาจากสองพี่น้องตระกูลเย่แน่นอน มันต้องเป็นการกระทำส่วนตัวล้วนๆ เพราะอยากใช้โอกาสนี้ในการเอาชนะบ้านตระกูลเย่

คงอธิบายได้แค่นี้ เพราะคนสองคนที่ส่งมาต่างเป็นแค่คนธรรมดาๆ

ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้ เย่เทียนคิดว่าคงต้องไปสั่งสอนสักหน่อยแล้ว ในเมื่อปืนใหญ่ต้องการเอาชนะตระกูลเย่เพื่อจะไต่เต้าให้สูงขึ้น งั้นให้เหลยเหลาหู่เป็นตัวแทนก็แล้วกัน!

จะปล่อยให้คนทะเยอทะยานเล่นงานตระกูลเย่โดยผ่านตัวเขาแบบนี้ ต้องไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่นอน!

……

"อะไรนะ? ไม่สำเร็จงั้นเหรอ?"

ปืนใหญ่ที่นั่งอยู่บนโซฟานุ่มๆ ได้แต่แสดงสีหน้าตกใจ

หลังจากที่รับปากกับเย่ย่งเล่อเมื่อวาน เขาก็สั่งคนให้จับตาดูความเคลื่อนไหวของเย่เทียนทุกฝีก้าว เมื่อรู้ว่าเย่เทียนและพรรคพวกกำลังจะไปไหน เขาก็รีบส่งคนไปจัดการทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่