“เย่เทียน ให้ฉันเห็นหน่อยเถอะว่านายมีความสามารถอะไร!”
มองเห็นข่งเทียนหยินถอยออกมาแล้ว กัวหมิงเลี่ยงก็ไม่มัวไร้สาระกับเย่เทียนต่อไปอีกโดยสิ้นเชิง ส่งเสียงพึมพำแบบเย็นชาออกมาจากในปาก รีบกวัดแกว่งกระบี่ยาวในมือทันที คมกระบี่ดุเดือดฟันเข้าไปยังเย่เทียนแบบก้าวรุดไปข้างหน้าโดยไม่หวาดหวั่น
“คิดจริงเหรอว่าฉันจะกลัวนาย?”
เรื่องราวบานปลายมาถึงขั้นนี้ เย่เทียนยังกลัวหัวหดได้ที่ไหน ขยับเท้าต่อเนื่อง โฉบเข้าไปทางกัวหมิงเลี่ยงอย่างห้าวหาญ
ฟึบๆ!
กระบี่ยาวราวกับสามารถแทงทะลุที่ว่างกลางอากาศได้ ส่งเสียงคำรามดังเป็นระลอก แรงกระบี่เย็นยะเยือกนั้นเหมือนว่าเกาะตัวกลายเป็นของแข็ง ทำให้เย่เทียนรู้สึกเพียงบริเวณหน้าอกมีความรู้สึกเจ็บจี๊ดลอยมารางๆ
“แรงกระบี่ก่อตัวขึ้น?”
ชั่วขณะนั้นสีหน้าเย่เทียนดูแย่ระดับหนึ่ง ถ้าไม่เคยตั้งใจศึกษาค้นคว้ากีฬาเคนโด้ ย่อมไม่อาจเป็นเช่นนี้ได้เด็ดขาด แค่อาศัยเพียงจุดนี้ พอจะอธิบายได้แล้วว่ากัวหมิงเลี่ยงไม่ใช่มีแค่ชื่อเสียงและไม่มีความสามารถนะ!
นึกถึงตรงนี้ ในใจเย่เทียนกลัดกลุ้มถึงขีดสุด นี่ยังไม่ทันใช้งานพลังภายใน กัวหมิงเลี่ยงก็แสดงความสามารถที่ดูถูกไม่ได้ออกมาแล้ว ถ้าใช้พลังภายในขึ้นมา นั่นยังไม่ลอยขึ้นฟ้าไปอยู่เคียงข้างพระอาทิตย์เลยหรือไง?(แสดงถึงความเก่งกาจมาก)
เปรียบเทียบขึ้นมา ปัจจุบันนี้ถึงบอกว่ามีเหล้าปีศาจคลี่คลายพลังงานสองส่วนในร่างกายของเขาอยู่ แต่ถ้าสิ้นเปลืองเกินเหตุ ถึงตอนนั้นเข้าสู่การแข่งชิงสิทธิ์แล้วจะทำอย่างไร? ใครกล้ารับรองว่าข่งเทียนหยินยังมีเหล้าปีศาจอีก?
แต่เรื่องราวมาถึงตอนนี้ เย่เทียนไม่สนใจอะไรมากขนาดนั้นแล้ว คนอื่นเขาถือกระบี่มาฆ่า แม้ว่าเขาไม่อยากปะทะฝีมือเท่าไรก็ไม่อาจยืนรอความตายได้กระมัง?
เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง คัมภีร์หวงภายในร่างกายหมุนโคจรด้วยความเร็วสูง ชี่ทิพย์อันทรงพลังรวบรวมอยู่บนหมัดขวาทันที ต่อยเข้าไปอย่างรุนแรง
ตึง!
หมัดนี้ต่อยบนตัวกระบี่อย่างแรง เสี้ยววินาทีที่สัมผัสโดน เย่เทียนสามารถสัมผัสได้ว่ามีแรงกระบี่ดุเดือดส่วนหนึ่งพลอยลอยมาด้วย ทำให้มือขวาของเขามีความเจ็บปวดแบบเลือนราง
“ไสหัวออกไปให้ฉัน!”
เย่เทียนขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ในปากส่งเสียงตะโกนต่ำๆ หมัดขวาออกแรงฉับพลัน ดึงกระบี่ยาวไปด้านข้าง
“นายคิดว่าจะเป็นแบบนั้นเหรอ?”
มุมปากกัวหมิงเลี่ยงวาดรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้น ขยับเท้าซ้ายเบาๆ เขย่งเท้าขวา ถือโอกาสหมุนตัวสักครึ่งรอบ กระบี่ยาวที่ถูกดึงออกกรีดเข้าไปยังเย่เทียนอีกครั้ง
เพียงแต่ ถ้าสังเกตดูอย่างละเอียดแล้วละก็ ต้องเห็นได้เลยว่าแขนขวาของกัวหมิงเลี่ยงสั่นเทาเล็กน้อยสักครู่หนึ่ง จากจุดนี้มองออกได้ไม่ยาก เขาไม่อาจได้เปรียบต่อหมัดเมื่อสักครู่นั้นของเย่เทียน
ฟู่ๆ!
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร กระบี่ยาวกรีดเข้าไปยังส่วนเอวของเย่เทียนอีกครั้งแล้ว ตรงที่คมกระบี่กรีดผ่าน ปรากฏระลอกคลื่นผิดปกติในอากาศยิ่งกว่าเดิม คล้ายว่าแม้แต่อากาศที่ว่างเปล่ายังรับคมกระบี่ดุเดือดอันนี้ไม่ไหว
“เอ๋?”
เย่เทียนสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงน้อยนิดนี้เข้า กลับไม่กล้าฝืนรับ ขยับเท้าติดต่อกัน หลบออกมาแบบไม่ชัดเจน
แต่ เย่เทียนหลบเข้าไปแล้ว และโต๊ะเก้าอี้ด้านข้างของเขากลับไม่โชคดีขนาดนั้น ภายใต้แรงกระบี่อันดุเดือด โดนหักเป็นสองท่อนโดยตรง
โครม!
ทันใดนั้น โต๊ะเก้าที่ถูกฟันเป็นสองท่อนค่อยๆ หักร่วงลงพื้น ทำให้ห้องโถงที่เงียบงันกลับสู่ความวุ่นวายอีกระดับหนึ่ง
ข่งเทียนหยินมองจนหางตากระตุกหนักๆ บนหน้ายิ่งเผยลักษณะอันขมขื่นออกมา
ที่นี่เป็นโรงเตี๊ยมของเขา ข้าวของส่วนใหญ่ในที่นี้ล้วนเป็นเขาทำขึ้นมาด้วยตนเองทั้งสิ้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมูลค่าของโต๊ะเก้าอี้พวกนี้เลย เขาไม่ปวดใจได้เหรอ?
“หลานชายทั้งสอง ถ้าไม่อย่างนั้นพวกนายออกไปสู้ข้างนอกดีกว่าไหม? โรงเตี๊ยมเล็กๆ นี้ของฉันอาจทนพวกนายทรมานไม่ไหว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่