ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 928

ป้ง!

หมัดนี้ชกเข้าไปที่ดั้งของจีเสว่ หลังจากที่หมัดของเข่เทียนชกส่ เสียงกระดูกแตกหักที่ดังสั่หนั่นก็ตามมา ใบหน้าของจีเสว่ถูกอาบไปด้วยเลือดอย่างรวดเร็ว ส่วนจมูกก็มีเลือดพุ่งออกมาไม่ยอมหยุดราวกับก็อกน้ำที่ถูกเปิด ทำยังไงเลือดก็ไม่ยอมหยุด

แต่ยังไม่ทันที่เย่เทียนจะชกหมัดที่สามออกไป จีเสว่ก็ตั้งสติได้ อดทนต่อความมึนที่เกิดขึ้นในหัว ขับเคลื่อนกำลังภายในทั่วตัว ไปรวมอยู่ที่ขาขวา จากนั้นก็ถีบไปที่หน้าอกของเย่เทียนอย่างแรง

“ต้านไม่ไหวแล้วเหรอ?” พอเห็นอย่างนั้น เย่เทียนก็ยิ้มอย่างแปลกประหลาดออกมาที่มุมปาก แล้วปล่อยมือขวาที่หยุดจีเสว่ไว้ ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว จนทิ้งระยะห่างออกไปได้

“เย่เทียน ฉันจะฆ่าแก!” จีเสว่เงยหน้าขึ้นมา จ้องมองเย่เทียนด้วยสายตาที่เหี้ยมโหด ใบหน้าที่บิดเบี้ยวเต็มไปด้วยคราบเลือด ทำให้ยิ่งดูน่ากลัวเข้าไปอีก

“คำนี้คุณพูดไปหลายรอบแล้ว” เย่เทียนยักไหล่ ทำหน้าไม่ใส่ใจ โดยมองข้ามความเจ็บปวดที่ส่งมาจากแขนและหน้าอก

“เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม!” จีเสว่โกรธจนยิ้มออกมาพูดคำว่าเยี่ยมออกมาสามครั้ง เร่งไอแท้ให้เร็วขึ้น รังสีอันรุนแรงที่มีเพียงแดนระดับฟ้าถึงจะมีได้เอ่อล้นออกจากร่างเธออย่างรวดเร็ว ราวกับปีศาจที่ปีนขึ้นมาจากเหวลึก น่าสะพรึงกลัวมาก

เมื่อสัมผัสถึงรังสีที่เปลี่ยนไปของจีเสว่ ผู้ชมด้านล่างที่แข็งแกร่งไม่พอก็ตกใจจนขาสั่นทันที

แดนระดับฟ้าไม่ใช่อะไรที่คนมีพรแสวงกับพรสวรรค์ทั่วไปจะสามารถเทียบได้ ถ้าพรแสวงคือกระสุน พรสวรรค์ก็คือธนูไฟ ส่วนแดนระดับฟ้าก็เปรียบดั่งระเบิดปรมาณุนั่นเอง! มันอยู่คนละระดับกันเลย!

“เย่เทียน ในเมื่อแกอยากรีบไปตายขนาดนี้ งั้นก็อย่าโทษฉันเลย ฉันจะเลิกเล่นกับแกแล้ว!” จีเสว่ขำออกมาอย่างชั่วร้าย

“บอกว่าคุณปัญญาอ่อนแล้วคุณก็ปัญญาอ่อนจริงๆ ซะด้วย นึกว่าคุณจะจัดการผมได้จริงๆ แล้วเหรอ?” เย่เทียนขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ และไม่กั๊กอีกต่อไป ระหว่างที่ไอแท้ในร่างไหลเวียน รังสีที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าจีเสว่ได้ทะลักออกมาจากตัวเขา ราวกับเทพแห่งสงครามองค์หนึ่งที่กำลังยืนสูงเสียดฟ้า!

“แดนระดับฟ้า?” คนแรกที่สัมผัสถึงออร่าของเย่เทียนเป็นคนแรกไม่ใช่จีเสว่ แต่เป็นเหล่าเจ้าสำนักที่อยู่บนเวทีสูง เพราะะดับฝีมือของพวกเขาล้ำลึกยิ่งกว่า หลู่ซูหางยิ่งตกใจเขาไปใหญ่ พร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง การเปลี่ยนแปลงของเย่เทียนทำให้เขาดีใจอย่างถึงที่สุด ต้องรู้ก่อนว่า ตอนนี้เย่เทียนถือเป็นผู้สมัครที่จะท้าชิงตำแหน่งผู้นำยุทธภพ และเมื่อก้าวเข้าสู่แดนระดับฟ้า งั้นเขาก็คือผู้นำยุทธภพแล้ว! และด้วยความสัมพันธ์ที่มีกับหลู่ซีซาน อำนาจของตระกูลหลู่ต้องเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าแน่นอน!

พอได้ยินเสียงอุทานของหลู่ซูหาง สีหน้าที่เป็นกังวลของหลู่ซีซานก็ดีขึ้นมาก แววตามีแต่ความตื่นเต้น แดนระดับฟ้าเลยนะ นั่นมันเป็นแดนที่คนมากมายพยายามทั้งชีวิตยังไม่สามารถไปถึงได้!

สีหน้าของกัวซิ้วเจี๋ยกลับดูบึ้งตึงขึ้นมามาก ถึงกัวหมิงเลี่ยงจะอยู่แดนระดับดินสูงสุด แต่พูดกันตามตรง เขาประมาณการอย่างระมัดระวัง ลูกชายของเขาอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาอีกสามปีจึงจะสามารถบรรลุถึงแดนระดับฟ้าไป ตอนนี้ให้มาเทียบกับเย่เทียน ทั้งสองก็ไม่มีอะไรที่จะมาเทียบกันได้เลย!

เหล่าเจ้าสำนักทุกคนต่างจ้องมองไปยังเย่เทียนที่อยู่บนสังเวียนด้วยสายตาที่เคร่งขรึม มันช่างน่าตกใจจริงๆ ต้องรู้ก่อนว่า ตอนนี้เย่เทียนอายุยังไม่สามสิบเลยด้วยซ้ำ ก็สามารถบรรลุถึงแดนระดับฟ้าแล้ว งั้นความสำเร็จของเขาในวันข้างหน้า ก็คาดเดาได้ยากยิ่งกว่าเดิม!

ส่วนเหล่าผู้มีความสามารถอายุน้อยที่ยืนอยู่ด้านหลังพวกเจ้าสำนักนั้น ต่างก็จ้องมองเย่เทียนด้วยสายตาที่เคร่งขรึมเหมือนกัน ก่อนที่เย่เทียนจะปรากฏตัว พวกเขาต่างก็ถือเป็นคนที่น่าจับตาที่สุดในโลกบู๊เลย เป็นผู้ที่ภาคภูมิใจมากขนาดไหน

จากการปรากฏตัวของเย่เทียน หลังจากที่ทำการประลองมาหลายวัน ถึงพวกเขาจะยอมรับฝีมือของเย่เทียนแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะยอมแพ้ไปทั้งอย่างนี้ แต่ในตอนนี้ ในใจของพวกเขากลับรู้สึกท้อขึ้นมาบ้างแล้ว ในกลุ่มคนเหล่านั้น น่าจะมีแค่จิ่วเจี้ยกับเสวียนเฉิงเท่านั้นที่ยังใจเย็นอยู่ได้ ความสัมพันธ์ของพวกเขากับเย่เทียนถือว่าไม่เลว มีเพียงความรู้สึกยินดีที่เพื่อนเเข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น และไม่มีความรู้สึกอื่นเลย

จิ่วเจี้ยนั้นยิ่งคิดอย่างชั่วๆ แล้วว่า จะพาเย่เทียนไปอยู่ที่สำนักซวนซวงอีกสักรอบดีมั้ย….

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่