ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 106

เฉินเสียนกล่าวว่า "เพื่อเห็นแก่ท่านที่ไม่พูดกลับกลอก ข้าจะไว้หน้าท่าน"

นางยกมือขึ้นเพื่อหยุดองครักษ์

เฉินเสียนก้าวออกไปถึงด้านหน้าของหลิ่วเหมยอู่อย่างช้าๆ เหลือบมองไปที่นาง แล้วค่อยๆ งอตัวยื่นมือออกไปคว้ากรามเล็กๆ ของหลิ่วเหมยอู่ไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วใช้นิ้วมือออกแรงบีบที่ใบหน้าของนางไว้ และบังคับให้นางหันมามองตัวเอง

ในดวงตาของเฉินเสียนนิ่งเงียบ แสงจันทร์ทำให้ดวงตาของเธอยิ่งลึกล้ำ นิ่งเงียบจนไร้ขอบเขต

นางมองไปที่หลิ่วเหมยอู่ และพูดว่า "เหมยอู่ เจ้าพูดให้ชัดเจนหน่อย ใครกันแน่ที่ใจดำอำมหิต และใครที่กล้าทำให้ฉินหรูเหลียงกลายเป็นแบบนี้?"

รูม่านตาของหลิ่วเหมยอู่ได้ขยายตัวกว้าง ราวกับจมอยู่ในแอ่งน้ำ ที่เต็มไปด้วยน้ำตาและความหวาดกลัว

เฉินเสียนพูดอย่างเรียบเฉย "ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้าอยากทำร้ายข้า เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้เยี่ยงไร? เจ้าคิดว่าที่แม่ทัพฉินถูกลงโทษนั้นเป็นเพราะข้าหรือ?"

เป็นเพราะเจ้า แท้จริงควรเป็นเจ้าที่ต้องถูกโบยสามสิบไม้แต่ตัวเขาแบกรับมันไว้กลายเป็นหกสิบไม้ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นบ้าเข้ามาแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ หกสิบไม้นี้ก็ไม่ควรจะเป็นเขาที่รับมัน องค์จักรพรรดิก็อาจไม่ได้เรียกเขาให้เข้าเฝ้าที่วังหลวง บางทีการเฆี่ยนด้วยแส้ห้าสิบทีก็อาจหลีกเลี่ยงได้"

เฉินเสียนบีบคางของหลิ่วเหมยอู่อย่างแรง บังคับให้เธอมองไปด้านข้าง ที่ฉินหรูเหลียงกำลังกัดฟันเพื่อได้รับโทษถูกแส้เฆี่ยน

ทุกครั้งที่แส้เฆี่ยนลง บนร่างกายของเขาก็สามารถเห็นรอยเลือดปูดออกมา

หลิ่วเหมยอู่ไม่อาจจะทนดูต่อไปได้ รีบหันหน้าหนีอย่างสุดกำลัง แต่ก็ไม่อาจจะหลุดพ้นจากการผูกมัดของเฉินเสียนได้

เฉินเสียนกล่าวโดยไม่แยแส "เหมยอู่ เจ้ากล้าดีมาจากไหนที่กล้าเอาความผิดมาลงที่ตัวข้า? เจ้ารักแม่ทัพฉินมากขนาดนั้น ทำไมยังทำใจให้แม่ทัพฉินแบกรับมันไว้แทนเจ้าได้ ทั้งที่เจ้าก็สามารถแบกรับมันไว้เองได้

ทำความผิดแล้วก็ควรจะรับผลที่จะตามมา เจ้าแบกไม่ได้แล้วทำไมยังต้องทำเยี่ยงนั้นล่ะ? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร คิดว่าทุกคนจะต้องรักเจ้าเอาใจเจ้างั้นหรือ?"

นางคลายนิ้วมือ จากนั้นก็มองหลิ่วเหมยอู่อย่างดูถูก และพูดอีกครั้ง "ตอนนี้ เจ้าควรจะชื่นชมกับผลงานที่ตัวเจ้าเองได้ทำมันออกมา"

เธอได้ยิ้มที่มุมปากอย่างเยือกเย็น และเยาะเย้ย "เห็นได้ว่า แม่ทัพฉินรักเจ้ามากจริงๆ ส่วนเจ้าก็รักเขาไปจนวันที่เขาตาย ความรักของพวกเจ้านี้ เหลือให้พวกเจ้าสองคนค่อยๆ กัดกินมันเถอะ ข้าองค์หญิงไม่อยู่ด้วยแล้ว"

หลังจากที่พูดจบ เฉินเสียนก็ไม่ได้สนใจหันกลับไปมอง หันหลังกลับไปโดยที่อวี้เยี่ยนใช้มือประคองเดินออกจากประตูวังไปทีละก้าว

ฉินหรูเหลียงเงยหน้าขึ้นกับเลือดที่ไหลโทรมกาย เส้นผมที่หน้าผากเปียกโชกเต็มไปด้วยเหงื่อ มองเห็นด้านหลังของเฉินเสียนเป็นรางๆ ที่เต็มไปด้วยความสูงศักดิ์และเย่อหยิ่ง

หลังจากที่เฉินเสียนจากไป ฉินหรูเหลียงก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ

ปล่อยหลิ่วเหมยอู่ให้นั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ สะท้านไปทั้งแผ่นดิน

เซียงหลิงถูกปล่อยเข้าไปในพระราชวัง เมื่อมาถึงหน้าประตูหานอู่เพื่อรับหลิ่วเหมยอู่ ก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจกับสถานการณ์นี้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

แส้เฆี่ยนห้าสิบทีก็ได้หยุดลง ด้านหลังของฉินหรูเหลียงก็เต็มไปด้วยเลือด ช่างน่าเวทนาจนไม่อาจจะมองดูได้

เขาคุกเข่าอยู่ที่พื้นโดยไม่ได้รีบร้อนที่จะลุกขึ้นมา ลมกลางคืนพัดเอาความรู้สึกร้อนในเลือดของเขาออกไป และความเจ็บปวดก็ค่อยๆ จางหายไป

ฉินหรูเหลียงสงบสติอารมณ์อีกครั้ง และใบหน้าที่ซีดขาว

องครักษ์ปล่อยหลิ่วเหมยอู่ หลิ่วเหมยอู่รีบคลานไปข้างๆฉินหรูเหลียง อยากจะจับงตัวเขาแต่ไม่รู้ควรจะจับลงที่ใดก่อน นางได้ร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง "ท่านแม่ทัพ......ท่านเป็นเยี่ยงไรบ้าง?"

ฉินหรูเหลียงไม่ได้มองนางและพยุงตัวลุกขึ้น จากนั้นก็สวมใส่ผ้าทีล่ะตัวๆ แล้วกลับไปเป็นท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่เยี่ยงเดิม

เขาหันกลับไปสั่ง "เซียงหลิง พานายหญิงกลับไป"

หลิ่วเหมยอู่มองดูฉินหรูเหลียงเดินไปด้านในพระราชวัง เอ่ยถาม "ท่านแม่ทัพ ท่านจะไปที่ใด? ท่านไม่กลับไปพร้อมเหมยอู่หรือ?"

ฉินหรูเหลียงไม่ได้ตอบกลับนาง เดินออกไปอย่างมั่นคง ไม่นานนักภาพเงาด้านหลังก็ได้หายเข้าในความมืด

เรื่องในพระราชวังยังต้องการให้เขาไปจัดการและแก้ไขปัญหาที่ยังตกค้างในภายหลังให้เรียบร้อย มือสังหารยังค้นหาไม่เจอ เขาจำเป็นต้องเริ่มจากราชสำนักไปทั่วทั้งเมืองหลวง สืบค้นไปทีละแห่งๆ มีเวลาเพียงสามวัน จะให้เขาพักผ่อนและฟื้นตัวได้อย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี