ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 122

เสียงหวีดหวิวดังขึ้นในหัวของเฉินเสียนก่อนจะค่อยๆ คลายลง เธอสูดลมหายใจเข้ายาวๆ

ครั้นแล้วอาการปวดท้องก็รุนแรงขึ้น เธอร้องลั่นและเริ่มงอตัวพร้อมกับออกแรงเบ่ง

เมื่อเห็นดังนั้นพวกหมอตำแยต่างก็พากันถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากนั้นแต่ละคนจึงช่วยกันทำคลอดตามหน้าที่ของตนอย่างไม่กล้าวางใจ

หมอตำแยผู้กอปรไปด้วยประสบการณ์คนหนึ่งคอยอยู่ข้างๆ กำกับให้เฉินเสียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเบ่ง

เฉินเสียนเหนื่อยจนเหงื่อท่วม เธอยังคงหายใจเข้าลึกๆ และรวบรวมแรงกำลังทั้งหมดที่มี

เธอไม่เคยมีประสบการณ์การคลอดบุตร และรู้สึกคล้ายๆ ว่าตัวเองกำลังก้าวเท้าเข้าไปเหยียบในวังพญายม

แต่เธอจะไม่ยอมให้เด็กคนนี้ก้าวไปที่นั่นพร้อมกับเธอ

หลังจากตั้งครรภ์มาอย่างเนิ่นนานและยากลำบาก เธอจะต้องให้กำเนิดเขาให้ได้

ต้องทำให้ได้

เฉินเสียนจับมืออวี้เยี่ยนแน่น ดวงตาสีนิลคู่นั้นเต็มไปด้วยความตั้งใจแน่วแน่ นั่นคือความเด็ดเดี่ยวที่สุดที่เธอควรมีในฐานะแม่

ก่อนหน้านี้เธออาจจะเคยไม่เอาใจใส่และไม่พร้อมที่จะเป็นแม่

เธอไม่เคยมีประสบการณ์ความรัก และพอมาอยู่ที่โลกนี้ก็มีลูกขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

แต่ตอนนี้เด็กกำลังจะออกมาจากครรภ์ของเธอเพื่อลืมตาดูโลก ประสบการณ์และความหวั่นไหวเช่นนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน

แม้จะเจ็บปวดจนร่างกายแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่เธอก็ทำมันอย่างกล้าหาญและอุตสาหะ

อวี้เยี่ยนน้ำตาคลอและมองเธอด้วยใบหน้าที่ไร้สีเลือด นางกัดริมฝีปากจนได้เลือด ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง

อวี้เยี่ยนยังคงให้กำลังใจเธอต่อไป “องค์หญิงอย่ายอมแพ้นะเพคะ อีกนิดเดียว... อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จแล้ว...”

หมอตำแยเองก็เอ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจ “เบ่งอีกเพคะองค์หญิง ตอนนี้เห็นหัวเด็กแล้ว!”

เฉินเสียนกัดฟันแน่น รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำ เธอขมวดคิ้วและกรีดร้องเสียงต่ำในลำคอ ขณะเดียวกันก็ออกแรงเบ่งอย่างสุดกำลัง ร่างกายของเธอสั่นเทาและบีบเกร็งถึงขีดสุด แล้วอยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาจากขอบตา

ในจังหวะสองสามครั้งสุดท้ายเธอไม่รู้แล้วว่าจะออกแรงเบ่งอย่างไร

เธอนึกถึงเสียงของหมอตำแยที่ดังอยู่ข้างหู ส่วนสิ่งอื่นๆ นอกจากนั้นเหลือแต่ความว่างเปล่า

เธอกำลังต่อสู้และดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหมอตำแยร้องออกมาอย่างดีใจ “คลอดแล้ว คลอดแล้ว!"

เฉินเสียนรู้สึกเพียงแค่ว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีถูกดึงออกมาจนหมด เหลือไว้แค่เพียงร่างกายที่ว่างเปล่า

เธอไม่มีแรงแม้แต่จะฝืนลืมตา แล้วดวงตาก็ปิดลงโดยที่ไม่มีเวลาแม้แต่จะดูอะไร

“องค์หญิง!” อวี้เยี่ยนร้องอย่างตกใจ เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัส นางจึงพบว่าหน้าผากของเฉินเสียนร้อนผ่าว

ฝนหยุดตกแล้ว

เสียงหยาดฝนหยดลงมาจากใบไม้สีเขียวชอุ่มและรางกระเบื้องบนชายคา

เมฆดำเหนือศีรษะลอยหายไป เผยให้เห็นท้องฟ้าอันแจ่มใสซึ่งปกคลุมไปด้วยแสงเรืองรองของท้องฟ้ายามเย็น

แสงสีทองยามอาทิตย์อัสดงส่องลงมาบนหลังคาสีเทาตุ่นในสวนสระวสันตฤดู กระทบหยดน้ำฝนบนนั้นจนทอแสงเปล่งประกาย

ฉินหรูเหลียงรออยู่ข้างนอกมาตลอด เขาเห็นแล้วว่าฝนหยุดตก และแสงอาทิตย์ยามเย็นหลังฝนตกก็สวยงามมากเหลือเกิน

และเขาก็ได้ยินหมอตำแยส่งเสียงร้องอย่างดีใจว่าเด็กคลอดออกมาแล้ว

หมัดที่กำแน่นอยู่ตลอดภายใต้แขนเสื้อคลายออกทันที ฉินหรูเหลียงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่แห้ง ณ เวลานี้เสื้อผ้าเปียกจนแนบสนิทอยู่บนร่างกายของเขา เขายืนอยู่ใต้ชายคาและหรี่ตามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

น้ำฝนหยดลงมาจากชายคาและหยดลงมาที่เบ้าตาของเขาพอดี

แววตาของเขาสั่นสะท้าน

เขาช่วยชีวิตหลิ่วเหมยอู่ไว้ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี