ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 162

ยามค่ำคืนเซียงซั่นกัดฟันกล้ำกลืนฝืนทนจึงสามารถผ่านพ้นมาได้ พอรุ่งเช้าใบหน้าของเธอก็ขาวซีดไร้เลือดฝาดราวกับวิญญาณไร้ร่าง

ฉินหรูเหลียงละเลงผลงานบนเรือนร่างของนางอย่างบ้าคลั่ง เสียงที่เขาครางออกจากปากนั้น ไม่ใช่ชื่อของหลิ่วเหมยอู่ แต่กลับเป็นชื่อของเฉินเสียนคนเดียว

เซียงซั่นที่สวมเพียงชุดบางๆ นั่งเป็นร่างไร้วิญญาณเหม่อลอยอยู่หน้ากระจกเครื่องแป้ง มองตัวเองที่แพ้อย่างราบคาบในกระจก แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่อาจปกปิดรอยฟกช้ำบนผิวนั่น

ดวงตาแดงก่ำ นางกำมือแน่นจนจิกเล็บลงกลางอุ้งมือของตัวเอง

ตั้งแต่นางเข้ามาเป็นภรรยาคนที่สามของจวนท่านแม่ทัพ ฉินหรูเหลียงก็กลายเป็นผู้ชายของนาง เป็นโลกทั้งใบของนาง นางรักฉินหรูเหลียงจนหมดหัวใจ

นางรู้ดีว่าฉินหรูเหลียงไม่ได้รักนาง เพราะฉะนั้นนางจึงไม่เรียกร้องอะไร นางหวังเพียงแค่ฉินหรูเหลียงจะนึกถึงนางในบางครั้งบางครา และมาหานางที่เรือนบ้าง

ก่อนหน้านี้ฉินหรูเหลียงรักเพียงหลิ่วเหมยอู่ แต่มาวันนี้ ดูเหมือนว่าเฉินเสียนเองก็ได้เข้าไปอยู่ในใจของเขาแล้ว

เซียงซั่นไม่อยากไปแย่งชิงกับเฉินเสียน และนางเองก็ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับต้องมาทนเป็นที่ระบายรองรับอารมณ์รักและแรงแค้นของฉินหรูเหลียงที่มีต่อเฉินเสียน ละเลงแค้นลงบนร่างกายของนางอย่างโหดเหี้ยม!

ถ้าหากภายใต้ร่างกายของเขานั้นเป็นเฉินเสียน ฉินหรูเหลียงจะยังคงโหดเหี้ยมเช่นนี้อยู่หรือไม่

คงจะไม่

ฉินหรูเหลียงคงจะไม่สามารถทำแบบนี้กับหลิ่วเหมยอู่ได้ลงคอ และคงจะไม่กล้าทำเช่นนี้กับเฉินเสียนเข้าไปใหญ่ เพราะฉะนั้นมีเพียงนางเท่านั้น ที่เป็นเพียงแค่สิ่งของใช้ระบายอารมณ์ของฉินหรูเหลียง

เพราะว่านางเกิดเป็นสาวใช้ จึงไร้ซึ่งความสำคัญ

เซียงซั่นพูดกับตัวเองในกระจก : "องค์หญิง บ่าวไม่มีเจตนาจะไปแก่งแย่งชิงดีกับพระองค์ แต่หากเป็นแบบนี้ต่อไป บ่าวก็อาจจะตายได้เพคะ"

เซียงซั่นค่อยๆ แต่งหน้าทาแป้ง จนสวยสดงดงามดูดีขึ้นมา

วันนี้แดดดี นางจึงออกไปเดินเล่นนอกเรือน พักอยู่ที่สวนดอกไม้ครู่ใหญ่ แล้วจึงไปยังสวนดอกพุดตาน

ไม่ได้พบเจอมาพักหนึ่ง ร่างกายหลิ่วเหมยอู่ยังคงซูบผอมและอ่อนแอ ที่สวนดอกพุดตานแลดูเปล่าเปลี่ยวและอ้างว้างวังเวง

เมื่อศัตรูมาประจันหน้า ดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมาทันที

เซียงซั่นจึงพูดขึ้นว่า : "ข้าไม่ได้จะมาหาเรื่องท่าน เพียงแค่จะมาคุยกับท่านก็เท่านั้น"

เซียงซั่นอยู่ที่สวนดอกพุดตานอยู่พักใหญ่ จนเมื่อจวนจะเที่ยงแล้วจึงค่อยกลับไป

หลังจากเข้าสู่พลบค่ำ อวี้เยี่ยนก็เข้ามาในห้องแล้วพูดกับเฉินเสียนว่า : "องค์หญิง เซียงหลิงมาแล้วเพคะ"

เฉินเสียนเลิกคิ้วขึ้นสูง พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ให้นางเข้ามา"

เวลาที่เซียงหลิงมีข่าวคราวอะไร ต้องรอให้ฟ้ามืดก่อนเท่านั้น นางถึงจะมาที่สวนสระวสันตฤดู

เพียงครู่เดียว อวี้เยี่ยนก็พาเซียงหลิงเข้ามาในห้อง

เซียงหลิงก้มหน้าย่อตัวทำความเคารพ : "บ่าวถวายบังคมองค์หญิงเพคะ"

เฉินเสียนจึงพูดขึ้นว่า : "ดึกขนาดนี้ เจ้ามาที่นี่มีเรื่องอันใด?"

"บ่าวจำคำสั่งขององค์หญิงได้ชัดเจน หากมีข่าวคราวอะไร ต้องรีบมารายงานองค์หญิงก่อนเพคะ"

"ว่ามา"

"วันนี้เซียงซั่นมาที่สวนดอกพุดตาน และได้นั่งคุยกับนายหญิงรองอยู่พักใหญ่เพคะ"

เฉินเสียนพูดขึ้นอย่างใจเย็น : "สองคนนั้นไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาตหรอกหรือ หาดูยากจริงๆ ยังจะนั่งลงแล้วคุยกัน อย่างสงบ คุยกันแค่นี้เหรอ?"

เซียงหลิงพูดขึ้นต่อว่า : "เซียงซั่นไม่ได้ไปเพื่อคุยโวโอ้อวด แต่ดูเหมือนว่าเซียงซั่น......กับท่านแม่ทัพฉินไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด วันนี้ที่สวนดอกพุดตาน นางได้ถอดเสื้อผ้าต่อหน้าหลิ่วเหมยอู่ บ่าวเห็นเองกับตา ทั้งตัวของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว"

เฉินเสียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม : "พูดต่อไป"

เซียงหลิงจึงพูดต่อไปว่า : "หลายวันมานี้ท่านแม่ทัพได้ค้างที่สวนเซียงเสวี่ยตลอด เซียงซั่นพูดว่า......ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของท่านแม่ทัพทั้งนั้น แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น เรื่องที่บ่าวตั้งใจจะมาเรียนองค์หญิงก็คือ ในขณะที่ท่านแม่ทัพได้กระทำสิ่งนั้นอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับเรียกหาแต่เพียง......ชื่อขององค์หญิงเพคะ"

ทุกคนที่อยู่ในห้องสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี