ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 177

ความโศกเศร้าปะทุออกมาจากเบื้องลึกหัวใจของเซียงซั่น ความทุกข์ทรมานที่ขมขื่น จนใจและจนปัญญา ไม่นาน แม้แต่จิตใจที่คร่ำครวญต่อโชคชะตาก็ไม่หลงเหลืออีกเลย

เมื่อยาออกฤทธิ์เต็มที่ นางเอื้อมมือไปคว้าเสื้อผ้าของตัวเอง พยายามที่จะปลอบใจตัวนางเอง

เมื่อออกจากหอหมิงเย่ว์ อากาศด้านนอกสดชื่นไม่น้อย เฉินเสียนที่ดมกลิ่นธูปหอมในหอนั่นค่อนข้างนาน จึงรู้สึกค่อนข้างวิงเวียนและปวดหัว

เฉินเสียนสูดลมหายใจเข้าลึก เธอพยายามดึงข้อมือออก แต่ซูเจ๋อกลับไม่ยอมปล่อย มือของเขาจับที่ข้อมือของเธออยู่ ราวกับหยกอุ่นๆ ก็ไม่ปาน

เฉินเสียนถูกเขาพาออกจากหอหมิงเย่ว์ไปทั้งอย่างนั้น จำใจถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ จากรอบๆ

เพราะว่าซูเจ๋อเป็นชาย และเฉินเสียนเองก็ยังแต่งตัวเป็นชาย

ชายทั้งสองจับมือถือแขนพากันเดินออกมาจากหอหมิงเย่ว์ บัดสีบัดเถลิง!

ถนนบุปผาเส้นนี้คึกคักครื้นเครงดูมีชีวิตชีวา ขอทานที่อยู่ใกล้ๆ แถวนี้ก็พากันมาขอทานที่นี่หมด หวังเพียงว่าหลังจากที่ลูกค้าเข้าออกหอนางโลมจนพึงพอใจแล้ว จะใจกว้างโยนเศษเงินให้กับพวกเขาบ้าง

แต่แล้วซูเจ๋อที่พึ่งจะพาเฉินเสียนออกจากหอหมิงเย่ว์ ก็เจอเข้ากับขอทานสี่ห้าคนที่ถือชามไว้ พูดขึ้นว่า : "คุณชายขอหน่อยเถอะ แบ่งปันให้บ้างนะขอรับ!"

คนปกติทั่วไปที่ไม่เข้าใจ จะเมินและไม่สนใจ เดินหนีไปทางอื่น กลุ่มคนขอทานจะไม่ดันทุรังและคอยตามตื๊อต่อ

แต่ซูเจ๋อกลับหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา

เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย : "คนที่วางยาเป็นนางหรือ ใช่หรือเปล่า?"

คำว่า "นาง" คำนี้ คงหมายถึงเซียงซั่นอย่างไม่ต้องสงสัย

เฉินเสียนพูดขึ้นว่า : "นางเป็นคนมอบยานั่นให้กับแม่บ้านจ้าว เป็นคนยุยงและบงการแม่บ้านจ้าว"

"คนในเรือนของท่านจัดการไปแล้วหรือ?" ซูเจ๋อถามขึ้น

"ไล่ออกไปแล้ว?"

ซูเจ๋อพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ปล่อยมือของเฉินเสียน แล้วพานางมายืนอยู่ใต้ต้นหลิวข้างหอหมิงเย่ว์ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "รอข้าอยู่นี่"

ซูเจ๋อย้อนกลับไปที่หอหมิงเย่ว์ ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจจะไปทำอะไรกันแน่

ตอนที่เขาออกมา ผู้ดูแลห้องโถงของหอหมิงเย่ว์ก็เดินตามหลังเขาออกมาด้วย จากนั้นผู้ดูแลห้องโถงก็ได้พาขอทานกลุ่มนั้นเข้าไปในหอหมิงเย่ว์

เฉินเสียนพยายามเงี่ยหูฟังผู้ดูแลพูดกับขอทานกลุ่มนั้นว่า : "คุณชายผู้นั้นกระเป๋าหนัก ซื้อแม่นางซั่นเอ๋อร์ที่พึ่งมาใหม่ของหอหมิงเย่ว์ให้พวกเจ้าหนึ่งคืน เพียงแค่พวกเจ้าทำตัวดีๆ หน่อย แม่นางซั่นเอ๋อร์จะทำให้พวกเจ้ามีความสุขไม่รู้ลืมเชียวล่ะ!"

ลาภลอยหล่นลงมาจากฟากฟ้า กลุ่มขอทานพากันรีบพยักหน้ากันใหญ่ จากนั้นก็เดินตามผู้ดูแลห้องโถงหลีกเลี่ยงแขกผู้มีเกียรติแล้วขึ้นชั้นบนไป

ซูเจ๋อกลับมาถึงใต้ต้นหลิว เขาเดินอย่างสงบและมั่นคง ท่วงท่าสง่างาม ดึงดูดความสนใจของเหล่าบรรดาสาวงามที่ยืนเรียกลูกค้าอยู่หน้าประตูหอหมิงเย่ว์ พลอยทำให้หัวใจของสาวงามเหล่านั้นใจสั่นไม่น้อย คอยขยิบตาให้เขาไม่ขาดสาย

เฉินเสียนแนะนำด้วยความหวังดีว่า : "สาวงามเหล่านั้นกำลังขยิบตาให้ท่านอยู่ นานๆ ทีจะได้มาในที่แบบนี้ ที่ที่เป็นดั่งฝันอันมัวเมาเคล้าความอ้อยอิ่งนั่น ท่านแน่ใจหรือว่าจะไม่อยากอยู่ต่ออีกสักประเดี๋ยว?"

ซูเจ๋อพูดขึ้นอย่างกระจ่างแจ้งชัดเจน : "ไปกันเถอะ"

ซูเจ๋อเองไม่ได้สนใจสายตาผู้คนเลยแม้แต่น้อย ก้มหน้าก้มตาจับมือของเฉินเสียนไว้

แต่เฉินเสียนยังอยากรักษาหน้ารักษาตาอยู่ เมื่อไหร่ที่มีสายตาแปลกๆ มองมา เธอก็จะรีบอธิบายยกใหญ่อย่างกระอักกระอ่วนใจ : "นี่คือพี่ชายข้าเอง อย่าพากันเข้าใจผิดล่ะ เขาเป็นพี่ชายของข้า เขาเป็นพี่ชายข้าเอง"

เธอที่คอยตะโกนอธิบายจนคอแห้ง ซูเจ๋อยังคงก้มหน้าก้มตาเดินต่ออย่างไม่สนใจใคร เฉินเสียนอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว : "ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่? อับอายขายหน้าชะมัด"

ซูเจ๋อจึงพูดขึ้นว่า : "ข้าสวมหน้ากากอยู่ ข้าไม่กลัว"

เฉินเสียนนึกในใจ ถ้าจะขายหน้าเธอก็ไม่ควรขายหน้าคนเดียวซะหน่อย จะต้องหาวิธีสยบความฮึกเหิมของซูเจ๋อให้จงได้

จากนั้นเมื่อมีคนมองมา เฉินเสียนก็อธิบายอย่างใจเย็นว่า : "อย่าเดาส่งเดช เราไม่ใช่พวกรักร่วมเพศ! เขาเป็นพ่อเลี้ยงข้า เห็นข้ามาเที่ยวผู้หญิงเป็นไม่ได้!"

ผู้คนที่สัญจรไปมาถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ : "ทำไมถึงมีพ่อเลี้ยงที่ดูแล้วอายุน้อยขนาดนี้กัน"

ซูเจ๋อ : "......"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี