ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 193

สรุปบท บทที่ 193 ออกศึก: ข้าคือหงส์พันปี

อ่านสรุป บทที่ 193 ออกศึก จาก ข้าคือหงส์พันปี โดย เฉียน หราน จวิน เสี้ยว

บทที่ บทที่ 193 ออกศึก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet ข้าคือหงส์พันปี ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เฉียน หราน จวิน เสี้ยว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เฉินเสียนกำมือจนกลายเป็นหมัด เธอกำมันแน่นมาก

เธอรู้ว่าตัวเองบางทีควรที่จะอดทน

แต่คำพูดของฉินหรูเหลียงทำให้เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอไม่สามารถอดทนมันได้ เธอต่อยไปบนใบหน้าของฉินหรูเหลียง“เทียบกับเขาแล้ว ท่านนั่นแหละที่เหมือนหมาบ้า”

ฉินหรูเหลียงเซถอยไปสองก้าว เอื้อมมือปาดเลือดบริเวณริมฝีปาก แล้วกล่าวว่า“ถ้าหากท่านบอกว่าจำเขาไม่ได้ จะโกรธเช่นนี้ได้อย่างไรกันเล่า”

เฉินเสียนเคลื่อนไหวข้อมือ กล่าวราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นว่า“อาจจะเพราะว่าเมื่อก่อนข้าเข้าใจผิด เมื่อก่อนเพราะว่าข้าชอบท่าน อาจจะเพียงเพราะว่าท่านเคยช่วยชีวิตข้า แต่ว่าวันนี้ได้ยินคำพูดของท่านข้าเพิ่งจะรู้ ผู้ที่ช่วยข้าจริงๆไม่ใช่ท่าน ท่านว่าถ้าหากข้าฟังท่านนินทาผู้มีพระคุณของข้า ข้าจะไม่โกรธท่านได้อย่างไรกันเล่า?”

“ฉินหรูเหลียง ท่านฟังนะ ต้องมีสักวันหนึ่ง ข้าจะเป็นผู้ฉีกหน้ากากของหลิ่วเหมยอู่ด้วยมือข้าเอง ทำให้เลือดแดงสดหยดลงมาให้ท่านดู”

เฉินเสียนสะอิดสะเอียนไม่อยากมองให้มาก สะบัดแขนเสื้อหมุนตัวอย่างเยือกเย็น

“ท่านระลึกเรื่องที่ผ่านมาได้แล้ว”

“รอตอนที่ข้าระลึกได้จริงๆ ข้าจะประกาศแจ้งให้ท่านทราบอย่างเป็นทางการ แต่ว่าตอนนั้นก็ต้องรบกวนท่านรบชนะกลับมาถึงจะทำได้”เฉินเสียนกล่าวอย่างราบเรียบ“ข้าอยากรู้มาก ท่านแม่ทัพที่มีมือข้างเดียวพอถึงสนามรบแล้ว จะรบชนะได้อย่างไร”

เธอกลับมายืนที่หน้าประตูอีกครั้ง หมุนตัวด้วยท่าทางที่หยิ่งผยอง บนตัวมีบุคลิกที่สูงส่ง มองฉินหรูเหลียงอย่างเหยียดหยาม “ส่วนหลิ่วเหมยอู่ กลัวว่านางจะถูกกลั่นแกล้งก็พานางไปด้วย ไม่อย่างนั้นถ้ารอจนข้ากลั่นแกล้งนางขึ้นมาจริงๆ จะทำให้นางตกที่นั่งลำบาก ไม่มีผู้ใดช่วยเหลือนะ”

“จิ้งเสียน ท่านไม่มีจิตใจที่เกิดความสงสารกับนางสักครึ่งเลยหรือ?”

เฉินเสียนหัวเราะ กล่าวขึ้นว่า“ไม่ใช่ว่าข้าไม่เกิดความสงสารกับนางนะ แต่ข้าอยากให้ท่านออกศึกอย่างไม่สบายใจ”

ฉินหรูเหลียงแววตาเศร้าสลด เฉินเสียนหมุนตัวกลับเข้าไปในหอนอน ปิดประตูห้องอย่างเย็นชา

ชั่วพริบตาเดียวที่ประตูปิด สีหน้าของเฉินเสียนก็เปลี่ยนกลายเป็นตื่นตระหนกทันที

คำพูดเหล่านั้นของฉินหรูเหลียง อวี้เยี่ยนก็ได้ยินอย่างชัดเจน

เรื่องราวมากมายของราชวงศ์ก่อนหน้านางก็ไม่เข้าใจ แต่อวี้เยี่ยนก็รู้สึกแปลกใจ คาดไม่ถึงว่าซูเจ๋อยังทำเรื่องเหล่านั้นเพื่อองค์หญิงด้วย

อวี้เยี่ยนไม่พูดมาก อยู่เป็นเพื่อนเฉินเสียนเงียบๆ

หลิ่วเหมยอู่ที่อยู่สวนดอกพุดตานได้ยินมาว่าฉินหรูเหลียงจะไปสู้รบแล้ว ร้องไห้จะเป็นจะตาย ต้องการที่จะพบหน้าฉินหรูเหลียง

เพียงแต่วันนี้สงครามมาถึง ฉินหรูเหลียงไม่มีเวลาว่างพูดกับหลิ่วเหมยอู่สักคำเดียว และก็ยังข้ามผ่านร่องหลุมความรู้สึกเหล่านั้นไปไม่ได้

หลิ่วเหมยอู่ได้ยินว่าตอนที่ฉินหรูเหลียงกลับมาแล้วไปที่สวนสระวสันตฤดู นางยิ่งเกลียดชังอีกทั้งยังโศกเศร้ามาก

ใช่หรือไม่ว่าจนถึงตอนที่ฉินหรูเหลียงจะออกจากเรือนแล้ว เขาก็จะไม่มาหานางเลย? แต่กลับต้องการไปอำลาที่สวนสระวสันตฤดูนั่น?

หลิ่วเหมยอู่ไม่กล้าจินตนาการ ฉินหรูเหลียงไม่อยู่ที่เรือนนี้ นางจะเป็นเช่นไรกัน

เมื่อเฉินเสียนเป็นใหญ่จัดการในเรือน ไม่มีทางที่จะละเว้นนางอย่างแน่นอน!

หลิ่วเหมยอู่อยากไปกับฉินหรูเหลียง

นางไปที่เรือนหลัก แต่น่าเสียดายที่ฉินหรูเหลียงปิดประตูไม่เจอ

นางก็ร้องไห้อยู่ด้านนอกกล่าวว่า“ท่านแม่ทัพ ขอร้องท่านล่ะ พาเหมยอู่ไปด้วยเถิดนะเจ้าคะ เหมยอู่ทุกข์ยากลำบาก เหมยอู่ยินยอมที่จะอยู่กับท่านแม่ทัพตลอดเวลา เมื่อสมัยนั้นที่ท่านแม่ทัพพาเหมยอู่กลับมาจากชายแดน เหมยอู่ก็อยู่ในกองกำลังทหารเป็นเพื่อนท่านแม่ทัพไม่ใช่หรือเจ้าคะ......ขอร้องท่านพาเหมยอู่ไปด้วยเถิด.....”

หลังจากนั้นไม่นาน ด้านในห้องถึงมีเสียงของฉินหรูเหลียงดังออกมาหนึ่งประโยค “กลับไปเสียเถิด ข้าไม่สามารถพาเจ้าไปด้วยได้หรอก ทุกอย่างรอข้ากลับมาแล้วค่อยว่ากัน”

“ท่านแม่ทัพ! เหมยอู่ไม่ไป!”

“พรุ่งนี้ออกศึก ข้ายังต้องการที่จะพักผ่อน”

องค์จักรพรรดิมีพระประสงค์ลงมา พรุ่งนี้ให้กองทัพใหญ่ออกเดินทาง แต่ก่อนออกเดินทางสี่สิบห้านาที ให้กล่าวอำลากับครอบครัว เนื่องจากเป็นมนุษยธรรมในกองทัพ

ด้วยเหตุนี้พ่อบ้านจึงได้มาที่สวนสระวสันตฤดู สอบถามว่า“องค์หญิง พรุ่งนี้ท่านแม่ทัพจะออกศึก องค์หญิงต้องการไปที่ประตูเมืองเพื่อส่งท่านแม่ทัพหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

เฉินเสียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เอ้อร์เหนียง เอานางออกไปทิ้งให้ข้าด้วย”

วันต่อมา วันที่เก้าเดือนสิบสองตามจันทรคติจีน

ฟ้ายังไม่สาง เฉินเสียนก็ลุกขึ้น สวมใส่ชุดเสื้อคลุมผ้าฝ้าย หลังจากจัดการตัวเองอย่างเหมาะสมแล้วก็พาอวี้เยี่ยนออกเดินทาง

พ่อบ้านเตรียมของไว้เรียบร้อยตั้งนานแล้ว นั่นคือเสื้อคลุมหนาหนึ่งตัว ขอให้เฉินเสียนเอาไปคลุมให้ฉินหรูเหลียงตอนที่จะส่งออกเดินทาง

ตอนเช้าตรู่เฉินเสียนก็ไม่เจอฉินหรูเหลียง เห็นบอกว่าไปที่ประตูเมืองประกาศคำสั่งสามเหล่าทัพแล้ว

เฉินเสียนปรากฏตัวทีประตูเมือง กลายเป็นแบบอย่างที่ดีของเหล่าครอบครัวที่มาส่งออกเดินทาง

เธอยืนด้านหน้าสุด ในมือม้วนเสื้อคลุมหนาหนึ่งตัว ยืนประจันหน้าอยู่ที่ประตูเมืองนั้น สีหน้าเรียบเฉยมาก ผมดำขลับ ลมพัดปลายกระโปรงขึ้น ราวกับเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม

ด้านหลังเป็นครอบครัวที่มาส่งญาติพี่น้องออกเดินทาง กองกำลังทหารต่อแถวยาว

พอถึงเวลา ครอบครัวก็ไปหาครอบครัวตัวเองที่เป็นเหล่าทหารจะออกศึก

ฉินหรูเหลียงคิดไม่ถึงว่าเฉินเสียนจะมา นายทหารชั้นสูงที่อยู่ข้างเขาเตือนสติ ตอนที่หมุนตัว ถึงได้เห็นเฉินเสียนยืนอยู่ด้านนั้น

เวลานั้นแววตาของเขาบีบรัดแน่น เพ่งไว้ที่สาวงามที่ยืนอยู่หน้าประตูเมือง

ราวกับฟ้าดิน มีเพียงเฉินเสียนคนเดียว

เธอหรี่ตา ใต้ท้องฟ้าสีครามแสงยามเช้าตรู่ ดวงตาดำเข้มราวกับหมึก

ฉินหรูเหลียงหันเดินมาทางเธอทีละก้าวๆ เธอก็เดินไปด้านหน้าทีละก้าวๆเช่นกัน

อิงตามกฎเกณฑ์แล้ว เธอสะบัดเสื้อคลุมหนาออกอย่างพิถีพิถัน เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย คลุมบนหมวกเหล็กกับเสื้อเกราะที่หนาวเหน็บเข้ากระดูกของฉินหรูเหลียง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี