ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 194

สรุปบท บทที่ 194 เขาถูกลวนลามข้างถนน: ข้าคือหงส์พันปี

สรุปเนื้อหา บทที่ 194 เขาถูกลวนลามข้างถนน – ข้าคือหงส์พันปี โดย เฉียน หราน จวิน เสี้ยว

บท บทที่ 194 เขาถูกลวนลามข้างถนน ของ ข้าคือหงส์พันปี ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฉียน หราน จวิน เสี้ยว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เฉินเสียนหลุบตาลง ผูกสายรัดอย่างสงบไม่รีบร้อน

ใจของฉินหรูเหลียงสั่นไหว ยกมือขึ้นกอบกุมมือของเธอ

เฉินเสียนขมวดคิ้ว ระหว่างหัวคิ้วนั้นมีความรังเกียจ เธอกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า“'ทำตามประเพณีเท่านั้นเอง”

ครั้งแรกที่ฉินหรูเหลียงมีความกล้าหาญ กล่าวกับเฉินเสียนอย่างจริงจังว่า“เฉินเสียน ถ้าหากว่าท่านยังรอข้ากลับมา ถ้าหากว่าท่านยินยอมให้โอกาสข้า ต่อไป ข้ายินยอมที่จะปฏิบัติทำดีต่อท่าน ข้าก็สามารถที่จะปกป้องดูแลท่านได้ ไม่มีทางที่จะเป็นเพราะผู้อื่นและการเสียใจภายหลังอีก ข้าเคยปกป้องท่าน”

การเคลื่อนไหวของเฉินเสียนชะงัก เปิดเปลือกตาเงยขึ้นมองเขา

เขาอยู่ฝั่งที่แสงสะท้อนกลับ รู้สึกว่าปลอมไม่จริงเล็กน้อย

เฉินเสียนหัวเราะ น่าเสียดายที่ในแววตาไม่มีความรักความห่วงใยกับความอบอุ่นสักครึ่งหนึ่ง แล้วกล่าวขึ้นว่า“ฉินหรูเหลียง ท่านหลงรักข้าแล้วหรือ?”

จะจากกันอยู่รอมร่อ ครั้งนี้ฉินหรูเหลียงไม่ได้หลบหลีก กล่าวขึ้นว่า“อาจจะใช่ ข้าหลงรักท่านแล้ว”

“เช่นนั้นท่านฟังนะ ข้าเฉินเสียนชาตินี้ไม่มีทางหลงรักท่าน ต่อให้สุดท้ายโดดเดี่ยวลำบากเพียงลำพังชั่วชีวิตไม่ตายอย่างสงบ ก็ไม่มีทางตลอดไป ท่านลืมสิ่งที่ท่านพูดแล้ว แต่ข้ายังไม่ลืม ต่อให้วันไหนท่านคุกเข่าลงมา ข้าก็จะทำได้เพียงเหยียบย่ำท่านให้ต่ำที่สุด”

มือของฉินหรูเหลียงกำที่มือของเธอแน่นชั่วขณะไม่ปล่อยออก

เฉินเสียนยิ้มราวกับไม่มีอะไรแล้วกล่าวขึ้นว่า“วันนี้หากเหมยอู่อยู่ที่นี่ บางทีคำพูดเหล่านี้ท่านกับนางก็จะได้แสดงออกความในใจกันได้ แต่น่าเสียดาย ข้าไม่ได้ให้นางมา”

ฉินหรูเหลียงกล่าวว่า“ข้าไม่อยากมองดูแล้วเหมือนเป็นศัตรูกับท่านอีก ถ้าหากท่านปล่อยนางได้ ท่านลงมือเกลียดชังข้าได้เต็มที่ เรื่องอื่นอะไรก็ตามข้าสามารถไม่สนใจได้ ข้ามีเพียงข้อเรียกร้องเดียว ขอให้ช่วงนี้ท่านปล่อยนางเถิดนะ”

เฉินเสียนยักคิ้ว แล้วถามว่า“เช่นนั้นหลังจากที่ท่านไปแล้ว ข้าไม่ให้นางออกไปด้านนอกเป็นอย่างไร? ให้นางเคลื่อนไหวทำกิจกรรมอยู่บริเวณขอบเขตของสวนดอกพุดตาน ครึ่งก้าวก็ไม่สามารถก้าวออกมาได้”

ฉินหรูเหลียงกล่าวว่า“ได้”

“ท่านวางใจเถิด ท่านจะกลับมาได้หรือกลับมาไม่ได้ นางเป็นของท่านหนีไปไหนไม่ได้หรอก ข้านึกถึงมิตรภาพเก่าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่มีทางขายนางไปเป็นโสเภณีที่หอหมิงเยว์หรอก”

เฉินเสียนยื่นมือออกไป รวบรวมเสื้อคลุมตัวหนาบนตัวเขาเข้าด้วยกัน กล่าวอย่างจิตใจสงบว่า“ถ้าหากท่านไม่กลับมา ข้าก็จะส่งนางไปอยู่เป็นสหายท่าน ดีที่จะทำให้ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันรักกัน”

เสียงกลองดัง

เวลาการกล่าวลาจบแล้ว

สุดท้ายฉินหรูเหลียงมองเธอลึกๆ ไม่หยุดอยู่ชั่วคราวอีก หมุนตัวขึ้นแท่นสูง สาบานด้วยความจริงใจ คัดทหารออกศึก

เฉินเสียนมองกองทัพใหญ่มโหฬารค่อยๆเคลื่อนขบวนไกลออกไป สุดท้ายภาพสีดำยาวก็หายไปลับขอบฟ้า

อวี้เยี่ยนกล่าวขึ้นว่า“องค์หญิง พวกเรากลับเถิดเพคะ”

สรุปหลังจากกลับมาก็เจอหลิ่วเหมยอู่ร้องไห้โวยวายอยู่ในจวน

เฉินเสียนนึกขำขันแล้วกล่าวขึ้นว่า “ไม่รู้ว่าควรใช้วิธีอะไรทำให้เจ้าเป็นฝ่ายมาเอง”

ด้วยเหตุนี้เฉินเสียนเลยสั่งอย่างถึงที่สุดให้คนนำหลิ่วเหมยอู่ไปไว้ในสวนดอกพุดตานไม่ให้ออกมาด้านนอก ไม่มีคำสั่งของเธอห้ามออกจากสวนดอกพุดตานแม้เพียงครึ่งก้าว

ของกินของใช้ทุกอย่าง ล้วนแล้วแต่มีคนนำเอาไปส่งทั้งสิ้น

ผ่านไปวันหนึ่งแล้วก็มาวันหนึ่งคนรับใช้จวนแม่ทัพยังคงทำตามขั้นตอนเหมือนเดิม แต่ทันใดนั้นเฉินเสียนรู้สึกว่าจวนแม่ทัพนี้ว่างเปล่าเงียบไม่น้อยจริงๆ

ไม่มีฉินหรูเหลียงอยู่ตรงหน้าขวางหูขวางตา และก็ไม่มีหลิ่วเหมยอู่วางแผนการร้ายลับหลัง เฉินเสียนรู้สึกว่าการดำเนินชีวิตว่างมาก ว่างจนปวดไข่

ยังไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะฉลองตรุษจีนแล้ว จวนแม่ทัพนี้กำหนดว่าปีนี้จะฉลองแบบเรียบง่ายเงียบสงบ

ในระหว่างนั้น เฮ่อโยวพูดคำไหนคำนั้น ได้เชิญเฉินเสียนไปเดินเล่น พาหลิวอีกว้ากับอวี้เยี่ยนไปหอสุราดื่มกันสักมื้อ

หลังจากเทเหล้าใส่จอกไปสามครั้ง เฮ่อโยวดื่มจนเมาหัวปักหัวปำ เอามือวางบนไหล่เฉินเสียนต้องการจะพาเธอออกไปเดินเล่น

ผลสรุประหว่างเดินทางบังเอิญพบเข้ากับสาวงาม เดินมาตามทางชุดลอยตามลม ราวกับเทพเซียนบนสวรรค์

กล่าวกันว่าเวลานั้นเฮ่อเซียงเชิญเขาเข้ามาห้องโถง อีกด้านเขาชิมรสน้ำชา อีกด้านก็มองดูเฮ่อเซียงยกมือตีเฮ่อโยว

เฮ่อเซียงทั้งตีทั้งด่า “ลูกไม่รักดี!ลูกอกตัญญู!เจ้าก่อความวุ่นวายแล้ว!คาดไม่ถึงว่าขนาดบัณฑิตเจ้ายังกล้าลวนลาม ดูว่าวันนี้ข้าจะตีเจ้าตายไหม!”

เฮ่อโยวสร่างเมาแล้ว เหลือบมองท่าทางสบายอกสบายใจไม่ใส่ใจของซูเจ๋อ ยังกล้ารู้สึกว่าเขาสวยที่ไหนกันเล่า น่ารักเกียจเป็นอย่างมากเลย!

ต่อมาเฉินเสียนทราบเรื่องนี้ ยึดมั่นรู้สึกว่าช่วงนี้ไม่เจอหน้ากันกับซูเจ๋อจะดีกว่า หลีกเลี่ยงตัวเองจะโชคร้าย

อวี้เยี่ยนกล่าวขึ้นว่า“บ่าวกลัวใต้เท้าซูเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว องค์หญิงเหมือนว่าก็กลัวใต้เท้าเช่นกันนะเพคะ?”

“ข้ากลัวเขา?”เฉินเสียนหนังตากระตุกกล่าวว่า“เขาไม่ใช่เสือ ข้าจะกลัวเขาทำไมเล่า?”

“แต่ใต้เท้าซูทำให้คุณชายรองเฮ่อโยวถูกท่านพ่อของเขาตีหนึ่งยกเลยนะเพคะ ได้ยินมาว่าตอนที่คุณชายรองถูกตี ใต้เท้าซูยังดื่มชาอยู่ด้านข้างอย่างสบายอารมณ์”

เฉินเสียนกล่าวอย่างจนปัญญาว่า“เป็นคุณชายรองเฮ่อนั่นไม่ซื่อตรงก่อน ผิวเป่าปากไปมั่วหมด คนอย่างซูเจ๋อนะ เขาก็ยังกล้าลวนลาม?ถึงอย่างไรข้าองค์หญิงก็ไม่ได้ลวนลามเขา เขาอยากจะโมโหก็ไม่สามารถโมโหมาถึงข้าได้หรอกนะ”

เฉินเสียนหันมาเล่นกับเจ้าน่องน้อย

แต่มีบางเรื่อง เธอไม่รู้ว่าพบเจอซูเจ๋อแล้วเธอควรจะเอ่ยปากว่าอย่างไร

วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า เฉินเสียนได้รับข่าว บอกว่าช่วงเวลาพลบค่ำเหลียนชิงโจวจะเดินทางถึงเมืองหลวง ถึงเวลานั้นจะเชิญเฉินเสียนไปสังสรรค์ที่ริมแม่น้ำหยางชุน

เฉินเสียนมีความสุขเป็นอย่างมาก เหลียนชิงโจวยังนับว่ารักษาคำพูด สามารถรีบเร่งกลับมาทันวันสุดท้ายของปีนี้ได้

ไม่กี่คืนมานี้ ภายในเมืองหลวงเฉลิมฉลองเคลิบเคลิ้มกับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ถนนหนทางยามค่ำคืนเทียบกับตอนปกติครึกครื้นอยู่บ้าง

ตอนบ่าย อวี้เยี่ยนรับใช้เปลี่ยนชุดหวีผมให้กับเฉินเสียน

อวี้เยี่ยนไปหยิบชุดตามปกติที่เมื่อก่อนเวลาเฉินเสียนออกไปข้างนอกจะสวมใส่เป็นชายหนุ่ม แต่ทว่าครั้งนี้เฉินเสียนกล่าวว่า“เอาชุดผู้หญิงที่ใส่อยู่เป็นประจำนะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี