เฉินเสียนไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง เธอเอ่ยอย่างสงบว่า “ก่อนอื่นท่านแม่ทัพใหญ่ต้องเต็มใจเหยียบย่างเข้ามาในลานเล็กๆ ของข้าเสียก่อน” เธอพลิกหน้าหนังสือพลางเอ่ยอีกว่า “รบกวนแม่นมจ้าวช่วยไปบอกพ่อบ้านหน่อยสิ บอกให้เขาส่งคนไปเชิญเหลียนชิงโจวมาหาข้าที”
คราวที่แล้วก่อนจากไปเหลียนชิงโจวทิ้งที่อยู่ของเขาเอาไว้ บอกให้เฉินเสียนส่งคนไปตามเขามาได้ถ้าเธอต้องการเขา
“อา” แม่บ้านจ้าวตอบรับและรีบออกไปที่หน้าเรือน
คราวนี้เหลียนชิงโจวไม่ได้มาเพียงคนเดียว เขาพาสาวน้อยที่มวยผมอย่างเรียบร้อยและดูเฉลียวฉลาดคนหนึ่งมาด้วย
ทันทีที่เข้ามาในเรือน สาวน้อยผู้นั้นก็พรวดพราดออกมาจากด้านหลังของเหลียนชิงโจวจนทำให้เฉินเสียนสะดุ้ง
เมื่อเห็นหน้าเฉินเสียน เด็กสาวผู้นั้นถึงกับน้ำตาคลอและผลุนผลันเข้าไปคว้ามือของเฉินเสียนไว้โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น นางกล่าวว่า “องค์หญิงต้องมาทรมานแท้ๆ ไม่คิดเลยว่าที่คุณชายเหลียนพูดจะเป็นความจริง นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาทำให้องค์หญิงกลายเป็นแบบนี้!"
เฉินเสียนถามอย่างมึนงง “เจ้าเป็นใครทำไมมาร้องไห้เช่นนี้”
เหลียนชิงโจวเดินมาหาและเอ่ยอย่างสุภาพว่า “นี่คืออวี้เยี่ยนที่เคยดูแลองค์หญิงก่อนหน้านี้พ่ะย่ะค่ะ หลังจากองค์หญิงแต่งงานมาอยู่ที่จวนแม่ทัพ ผู้คนที่อยู่รอบกายต่างถูกแม่ทัพฉินไล่ออกไปในคืนวันแต่งงาน กระหม่อมเป็นผู้ดูแลอวี้เยี่ยน คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับองค์หญิง ก็เลยไปพากลับมาดูแลองค์หญิง กระหม่อมตั้งใจจะพามาตั้งแต่คราวก่อนแต่กระหม่อมลืมเสียสนิท”
อวี้เยี่ยนผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นห่วงเฉินเสียนจริงๆ
เฉินเสียนกล่าวว่า “ในเมื่ออยู่ดูแลเคียงข้างเจ้าชีวิตความเป็นอยู่ก็น่าจะดีอยู่แล้ว จะมาทำอะไรที่นี่”
เหลียนชิงโจวตอบว่า “องค์หญิงควรมีคนที่เชื่อใจได้คอยอยู่ข้างกายเสมอ”
เฉินเสียนเลิกคิ้วแล้วถามว่า “ก็มีแม่นมจ้าวแล้วไม่ใช่หรือ”
ตอนนี้แม่บ้านจ้าวกำลังไปต้มยาให้เฉินเสียน
เหลียนชิงโจวก้าวออกไปใกล้ๆ แล้วบอกว่า “ต่อให้แม่นมจ้าวดีจริง นางก็ยังเป็นคนของจวนแม่ทัพ หากองค์หญิงเกิดขัดแย้งกับท่านแม่ทัพขึ้นมา องค์หญิงคิดว่านางจะช่วยพระองค์หรือท่านแม่ทัพล่ะพ่ะย่ะค่ะ”
เฉินเสียนพยักหน้าและยิ้มให้เขา “เหลียนชิงโจว เจ้าฉลาดปราดเปรื่องอย่างกับสุนัขจิ้งจอก ต่อไปนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าจิ้งจอกเหลียน”
เหลียนชิงโจวยิ้มรับอย่างสุภาพ เขาสอดมือไว้ในแขนเสื้อก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าที่อ่อนโยนว่า “องค์หญิงทรงยกย่องเกินไปแล้ว ไม่ทราบว่าองค์หญิงเรียกกระหม่อมมาวันนี้ มีอะไรจะรับสั่งหรือพ่ะย่ะค่ะ”
เฉินเสียนกระตุกยิ้มมุมปากแล้วเลิกคิ้ว “ไม่มีอะไร แค่จะเชิญเจ้ามาดื่มชาและพูดคุยกันเสียหน่อย”
ณ ตอนนี้ไม่ต้องรอให้เฉินเสียนสั่ง อวี้เยี่ยนก็รีบไปต้มน้ำชาเตรียมไว้อย่างชำนาญ
มองแวบเดียวก็รู้ว่านางเป็นคนมีฝีมือและคุ้นเคยกับการทำสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี
ใช้เวลาไม่นาน ชารสอ่อนๆ ที่ชงได้อย่างพอเหมาะก็ถูกนำมาวางตรงหน้า เฉินเสียนยกชาขึ้นจิบ และมีเหตุผลที่ทำให้เชื่อได้ว่าก่อนหน้านี้อวี้เยี่ยนเคยปรนนิบัติอยู่ข้างกายนางจริงๆ
นางรู้รสนิยมของเธอเป็นอย่างดี
หลังจากดื่มชาไปครึ่งถ้วย เหลียนชิงโจวก็หยิบขวดกระเบื้องเคลือบที่อยู่ในแขนเสื้อส่งให้เธอโดยกล่าวว่า “ยาขี้ผึ้งที่อยู่ในนี้อาจจะช่วยเรื่องรอยแผลเป็นขององค์หญิงได้”
เฉินเสียนใจเต้นตึกตัก เธอหรี่ตาและบอกว่า “ดูๆ ไปแล้วเจ้าก็เป็นคนที่ทำการค้าเก่งคนหนึ่งเลยทีเดียว ใส่ใจทุกอย่าง ไม่ตกหล่นแม้แต่อย่างเดียว”
อวี้เยี่ยนรับของไว้แทนเฉินเสียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...