ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 276

“ได้... ได้ ข้าจะฟังท่าน ต่อไปนี้เจ้าน่องน้อยจะใช้ชื่อว่าซูเซี่ยน” เฉินเสียนตอบ “ท่านต้องกลับมานะ เขาจะได้กลายเป็นเด็กที่มีแต่คนอิจฉา...”

เปลือกตาของซูเจ๋อตกลงจนแทบจะปิดสนิทและมีประกายของความชื้นเล็กน้อย พร้อมกันนั้นก็ถอนหายใจเล็กน้อยด้วยความเสียใจ “สุดท้ายถ้าข้าไม่อยู่ เมื่อไม่มีใครคอยปกป้องท่าน อาเสียน ท่านต้องจำไว้ ท่านต้องปกป้องตัวเองให้ได้ก่อน”

“ไม่เอานะ” เฉินเสียนส่ายหัวอย่างดื้อรั้น “ท่านไม่อยู่ไม่ได้นะ ท่านจะไม่อยู่ไม่ได้...”

“การมีชีวิตอยู่ของเจ้าน่องน้อยช่วยเบี่ยงเบนความสนใจให้ท่านได้” ดวงตาของซูเจ๋อเปียกชื้น หยดน้ำตาร่วงลงมา “ถ้าถึงคราวจำเป็นจริงๆ อาเสียน... ท่านต้องทิ้งเขา”

“ซูเจ๋อ ท่านอย่าทิ้งข้าไปได้ไหม” เฉินเสียนรู้สึกว่างเปล่า ร่างกายว่างเปล่า หัวใจว่างเปล่า แม้แต่คำพูดก็ว่างเปล่า...

ซูเจ๋อเพียงแค่เอนศีรษะพิงไหล่ของเธอโดยไม่ตอบอะไรอีก

สิ่งหนึ่งที่เฉินเสียนเสียใจมากที่สุดก็คือการที่เธอไม่ได้เปิดใจกับเขาตั้งแต่เนิ่นๆ สิ่งที่เสียดายที่สุดคือยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอยังไม่ได้ทำร่วมกับเขา

ก่อนหน้านี้เธอนึกเสียใจเสมอที่เธอกลายเป็นแม่คนก่อนที่จะได้พบเจอกับความรักที่แท้จริง

แต่ตอนนี้เมื่อเธอตกหลุมรักใครสักคนขึ้นมาจริงๆ จะไม่ให้โอกาสเธอได้ใช้ชีวิตร่วมกับเขาเลยหรือ

นี่มันช่างโหดร้ายกับเธอและซูเจ๋อเหลือเกิน!

เฉินเสียนเอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า “ซูเจ๋อ ถ้าท่านกล้าตายละก็ ต่อจากนี้ข้าจะเลี้ยงดูนายบำเรอเยอะๆ เลยคอยดู ข้าจะทำให้ท่านเป็นได้แค่ผีขี้อิจฉา”

ตอนแรกเธอคิดว่าซูเจ๋อจะไม่ตอบอะไรอีก แต่อยู่ๆ เขาก็เอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรงว่า “ถ้าท่านกล้าทำอย่างนั้น ข้าจะคลานขึ้นไปรบกวนท่านทุกคืน”

เฉินเสียนยิ้มทั้งน้ำตา พอยิ้มแล้วก็สะอึกสะอื้นขึ้นมาอีกครั้ง

แม่ทัพใหญ่แห่งเย่เหลียงรีบนำกำลังขึ้นมาบนภูเขาทันทีที่รู้ว่าพวกเขาถูกโจมตีระหว่างทาง

เมื่อพวกเขามาพบจุดที่มีกองหินกองหญ้าระเกะระกะก็เห็นว่าทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยก้อนหินที่กลิ้งตกลงมาจากบนภูเขา มีศพของนักฆ่าถูกบดทับอยู่ใต้ก้อนหิน บนพื้นเต็มไปด้วยคราบเลือด และมันซ่อนร่องรอยของการต่อสู้อันดุเดือดไว้ไม่มิด

เมื่อแม่ทัพใหญ่แห่งเย่เหลียงมองไปจนทั่วแล้วยังไม่เห็นซูเจ๋อกับเฉินเสียน เขาจึงออกคำสั่งให้รื้อก้อนหินทั้งหมดออกไป

ในจำนวนนั้นมีก้อนหินขนาดยักษ์ที่สะดุดตาที่สุดกดทับลงมา โดยมีเศษหินนับไม่ถ้วนสุมอยู่รอบๆ เป็นกองพะเนิน

ทหารของเย่เหลียงขนย้ายก้อนหินเหล่านั้นออกไปทีละก้อนๆ เมื่อมองทะลุผ่านรอยแตกเข้าไปจึงเห็นรางๆ ว่ามีคนอยู่ในนั้น จากนั้นจึงตะโกนไปว่า “ยังมีคนอยู่ข้างใน!"

ด้วยเหตุนี้ทหารทุกคนรวมถึงแม่ทัพใหญ่จึงช่วยกันงัดก้อนหินที่กองสุมอยู่ตรงนั้นออกไป

ในที่สุดก้อนหินที่ติดอยู่ก็เริ่มคลายออก แสงสว่างจากด้านบนค่อยๆ ส่องเข้าไปในซอกหินที่หลุดออกมา

เมื่อทุกคนเคลื่อนย้ายก้อนหินออกไปได้แล้ว พวกเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น

ร่างที่เป็นสีเทาสลัวของคนสองคนโอบกอดกันแน่นอยู่ใต้ก้อนหินขนาดยักษ์ คนหนึ่งใช้ร่างยันก้อนหินไว้เพื่อแสวงหามุมสงบให้เธอ ส่วนอีกคนแอบอิงอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใช้สองมือดันก้อนหินที่อยู่ข้างหลังเอาไว้เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระที่เขาต้องแบกรับ

ไม่รู้ว่าพวกเขาประคับประคองกันอยู่เช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว แม้ว่าจะมีคนมาช่วย แต่ก็ไม่เห็นว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยาใดๆ

แม่ทัพใหญ่แห่งเย่เหลียงจำได้ว่าชายและหญิงคู่นี้เป็นองค์หญิงและทูตแห่งต้าฉู่

แม่ทัพใหญ่ไม่กล้าชักช้า เขารีบเรียกทุกคนมารวมตัวกันเพื่อช่วยกันออกแรงย้ายก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนนี้ออกไป

ด้วยคำสั่งนี้ ทุกคนจึงออกแรงพร้อมกัน พวกสูดลมหายใจเข้าก่อนจะฝืนยกก้อนหินขึ้นทีละน้อย

ในที่สุดซูเจ๋อที่ยันอยู่ข้างใต้ก็ค่อยคลายแรงและล้มตัวมาทางเฉินเสียนอย่างเงียบๆ

เฉินเสียนกอดเขาไว้เต็มอ้อมแขน ร่างกายของเธอค่อยๆ ฟื้นตัวจากอาการชา เมื่อเห็นว่าน้ำหนักที่ทับทาบลงมาในอ้อมกอดคือซูเจ๋อและบนร่างกายของเขามีเลือด อีกทั้งบนมือของเธอยังเต็มไปด้วยเลือดของเขา ความเจ็บปวดแทบขาดใจก็จู่โจมเข้ามาทั่วทั้งกายา

เธอเอ่ยทั้งน้ำตาว่า “ซูเจ๋อ ท่านต้องจำเอาไว้ ขาข้างที่เหยียบเข้าไปในดินแดนหลังความตายนั่น ท่านต้องถอนมันคืนกลับมาหาข้า!”

มีความรักความห่วงใยและความโศกเศร้าที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าปกคลุมอยู่ระหว่างเธอกับซูเจ๋อ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี