“รอข้าหาว่าอะไรกันแน่ที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ก็สามารถให้ยารักษาตรงจุดได้แล้ว” เฉินเสียนมองไปที่เขา “ซูเจ๋อ ท่านรอหน่อยนะ”
“ได้ ข้าจะรอท่าน” ซูเจ๋อพูดเสียงเบา “อาเสียน รีบไปเถอะ ไปทำเรื่องที่ท่านควรจะทำ”
เฉินเสียนเม้มปาก นัยน์ตาที่แยกสีขาวดำชัดเจนนั้นมองไปยังเงาของเขา เธอถาม:“ซูเจ๋อ ข้าสามารถเข้าไปกอดท่านได้หรือไม่”
คิดถึงเขามาก ทั้งๆที่เขาอยู่ตรงหน้า แต่ก็ได้เพียงแค่คิดถึง
มุมปากของซูเจ๋อเหมือนว่าจะยกขึ้นแต่ก็ไม่:“ได้ แต่แค่ไม่ใช่ตอนนี้ รอให้โรคระบาดนี้หายไปเสียก่อน ข้าจะให้ท่านกอด ได้หรือไม่?”
เฉินเสียนกัดฟัน หลังหันกลับแล้วเดินจากไป
เธอมาถึงหน้าประตูที่ทำการปกครองเมืองแล้วส่งยาพร้อมกับเฮ่อโยวตามปกติ จู่ๆทหารติดตามสองสามคนก็กลับมาอย่างรีบร้อน:“รายงานองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้ตรวจสอบตามทางที่แม่น้ำเซียงไหล พบปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆพ่ะย่ะค่ะ”
เฉินเสียนขมวดคิ้ว:“ปัญหาอะไร?”
“กระหม่อมเห็นหนูตายอยู่ไม่กี่ตัวถูกน้ำซัดมาอยู่ริมแม่น้ำพ่ะย่ะค่ะ”
ฝนตกติดต่อกันหลายวัน รังหนูถูกฝนถล่ม ไม่แปลกใจที่มีหนูจมน้ำตาย แต่การเจอปัญหาครั้งนี้ใช่ว่าจะประมาทได้
เฉินเสียนขมวดคิ้ว:“แต่แม่น้ำเซียงไม่ใช่หนองน้ำเล็กๆเลยนะ มีปริมาณน้ำมาก ความสามารถในการชะล้างตัวเองก็มีมากเช่นกัน ถ้าหากเป็นเพียงแค่หนูตายไม่กี่ตัว คงไม่เกิดโรคระบาดที่รุนแรงเช่นนี้”
ทหารติดตาม:“กระหม่อมเพียงแค่คาดเดาพ่ะย่ะค่ะ มิกล้าตัดสินใจโดยพลการว่าครั้งนี้เกี่ยวข้องกับหนูตายเป็นแน่ ดังนั้นกระหม่อมเลยพาคนไปหาสาเหตุตรงประตูระบายน้ำที่แม่น้ำเซียงไหลเข้าไปยังเมืองจิง”
เพื่อควบคุมน้ำจากแม่น้ำเซียง นอกเมืองจิงนั้นยังมีประตูระบายน้ำอีกหนึ่งประตู ประตูระบายน้ำที่นั่น ทางน้ำจะถูกขยายให้กว้างขึ้นและลึกขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำ
ในฤดูฝนที่ฝนตกหนักก็จะปิดประตูระบายน้ำ ในขณะเดียวกัน การกักเก็บน้ำก็ไม่ถึงกับท่วมเมืองจิงได้;และในฤดูฝนที่มีฝนตกเล็กน้อย ก็จะสามารถเปิดประตูระบายน้ำได้ ทำให้ราษฎรในเมืองมีน้ำใช้
แต่พอช่วงฤดูใบไม้ร่วงเกิดอุทกภัย ประตูระบายน้ำก็อยู่ในสภาพที่ปิดการใช้งาน มีแค่น้ำส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ไหลเข้าไปในเมืองผ่านด้านล่างของประตูระบายน้ำ ที่สามารถกั้นตะกอนทรายและควบคุมระดับน้ำได้ดี
“เจออะไรบ้าง?”
ทหารติดตามนิ่งไปชั่วขณะ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย:“กระหม่อมพบว่า มีหนูตายเป็นกลุ่ม ถูกสกัดกั้นไว้นอกประตูระบายน้ำพ่ะย่ะค่ะ”
ภาพฉากนั้นคงทำให้คนสะอิดสะเอียนเป็นอย่างมาก ถึงกับทำให้ทหารติดตามที่เห็นคนตายจนชินเผยสีหน้าแบบนั้นออกมา
เฉินเสียนรีบพูด:“รีบไปรายงานหน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำ พวกเราไปดูกัน”
ไม่นานหน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำก็ได้รับเรื่อง
ถ้าสามารถทำให้โรคระบาดครั้งนี้หายไปได้ หน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำยินดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก
เลยมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งรีบไปยังประตูระบายน้ำแม่น้ำเซียงที่อยู่นอกเมืองจิง
ทางน้ำที่ทั้งกว้างทั้งลึกเกือบได้ก่อตัวเป็นทะเลสาบขนาดกลางไปแล้ว พอสำหรับที่จะให้ราษฎรได้ใช้น้ำ รวมถึงน้ำที่ต้องใช้ในการทดน้ำเข้านา
หน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำกล่าว ตั้งแต่ต้าฉู่แพ้สงครามต้องเสียเมืองและทางน้ำไป จู่ๆเมืองจิงก็มีราษฎรที่เพิ่มมาจากทางใต้เยอะมาก
บวกกับฝนตกในฤดูใบไม้ร่วง ทุกที่ที่อยู่ใกล้กับเมืองจิงก็เกิดดินถล่มอยู่บ่อยครั้ง ไร่นาพืชผลถูกทำลาย ในช่วงทุพภิกขภัยนั้นราษฎรต่างก็ไร้ที่อยู่อาศัย
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ความเป็นระเบียบเรียบร้อยในเมืองนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมาก หน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำก็ไม่มีเวลาจัดการ พอแม่น้ำเซียงมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น หน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำก็ออกคำสั่งให้ปิดประตูระบายน้ำ เหลือไว้เพียงแค่ช่องว่างรูปซี่ฟันที่อยู่ด้านล่างประตูระบายน้ำ ทำให้น้ำไหลไปทางช่องว่าง เพื่อที่จะควบคุมระดับของน้ำ
ต่อมาได้ยินว่าเมืองอวิ๋นที่อยู่แม่น้ำตอนบนกำลังขุดลอกทางน้ำ หน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำก็ยิ่งไม่ต้องกังวลใจ ด้วยเหตุนี้ก็เลยไม่มาจัดการนี่ที่อีกเลย
หลังจากที่โรคระบาดในเมืองเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน หน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำก็ตกที่นั่งลำบาก ไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าปัญหาจะอยู่ที่จุดสำคัญจุดนี้
เฉินเสียนยืนอยู่ริมทะเลสาบที่เกิดจากการสะสมของน้ำในแม่น้ำ พอเฉินเสียนเงยหน้าก็มองเห็นวัตถุกองหนึ่งอยู่บนผิวน้ำฝั่งประตูระบายน้ำ ลอยกองเป็นชั้นสีดำปี๋
เนื่องจากน้ำในแม่น้ำไหลเข้าไปในเมืองผ่านด้านล่างประตูระบายน้ำ ด้วยเหตุนี้วัตถุดำปี๋พวกนั้นเลยได้แค่ลอยบนผิวน้ำ ผ่านประตูระบายน้ำไปไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...