หัวใจของเฉินเสียนเต้นแรงและร้อนเร่า สัมผัสที่รู้สึกได้อย่างเลือนรางทำให้เธออยากจะหุบขาทั้งสองข้างเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว ทว่าถูกเขาขัดลงมาตรงกลางจนเธอถอยกลับไม่ได้
เขาเพียงแต่อ้อยอิ่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่รีบร้อนบุกเข้าไป
เฉินเสียนตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ รู้สึกถึงความร้อนภายในใจที่ไหลเวียนเข้าไปในกระแสโลหิต จนในที่สุดก็มาบรรจบกันกลายเป็นกระแสความร้อนและค่อยๆ ไหลลงไปจากหน้าท้อง...
ซูเจ๋อเอ่ยอย่างอ่อนไหวเป็นอย่างยิ่งว่า “อาเสียน ท่านเปียก...”
จนถึงทุกวันนี้ เขามีหลักฐานที่แน่ชัด
เฉินเสียนรั้งคอเขาลงมาจูบอย่างหลงใหลและกระตือรือร้น
กระแสคลื่นอุ่นๆ ซัดสาดลูกแล้วลูกเล่า
แต่ทว่าขณะที่ซูเจ๋อกำลังจะเข้าไป เอวของเฉินเสียนก็เกร็งแน่นและชะงักไปชั่วคราว
อยู่ๆ ซูเจ๋อก็ข่มใจหยุดอย่างลำบากใจและถามอย่างไม่แน่ใจนัก “ช่วงนี้เป็นช่วงมีระดูหรือ?”
เฉินเสียนแทบจะร้องไห้ เนิ่นนานกว่าจะเอ่ยออกมาช้าๆ ว่า “คิดว่าใช่ ถ้าเดาไม่ผิด น่าจะเป็นตอนนี้...”
ไม่ต้องพูดถึงประสาทสัมผัสที่ว่องไวของซูเจ๋อ แม้แต่เฉินเสียนเองก็ยังเริ่มได้กลิ่นเลือดที่ค่อยๆ ระบายออกมา
เฉินเสียนอยากจะฆ่ามันให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ ตอนอยากให้มาไม่มา จะมาช้าอีกนิดก็ไม่ได้ แต่เจาะจงจะมาวันนี้! และบังเอิญต้องเป็นเวลานี้เสียด้วย!
เธอหน้าแดงก่ำ “ไม่นะ...”
ซูเจ๋อสูดลมหายใจเข้าและพยายามสงบสติอารมณ์ เขายิ้มปลอบใจเฉินเสียนและล่าถอยออกมาในที่สุด “ไว้ครั้งหน้าก็แล้วกัน ในเมื่อกินไม่ได้ ข้าจะจูบท่านให้มากกว่านี้”
เขาจูบเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทิ้งรอยประทับไว้บนตัวเธอทีละรอยๆ
นี่เป็นของซูเจ๋อเพียงคนเดียว
เฉินเสียนกอดศีรษะของเขาไว้และพึมพำอย่างพึงพอใจ “อย่างไรมันก็เป็นของท่าน ข้าหนีไม่พ้น และข้าจะไม่หนี”
ขณะที่เธอกำลังพูด มือข้างหนึ่งก็ค่อยๆ เอื้อมลงไปสำรวจบริเวณใต้หน้าท้องของซูเจ๋อ แต่ซูเจ๋อหยุดเอาไว้ทัน
ซูเจ๋อพ่นลมหายใจและเอ่ยว่า “อย่าแตะมัน อีกสักพักก็จะสงบแล้ว”
เฉินเสียนฝังศีรษะไว้ในเส้นผมของเขา ไม่ต้องการให้เขาเห็นความอับอายของตนเอง เธอกล่าวว่า “ข้าเห็นว่านานแล้วมันยังไม่ยอมรอมชอม เช่นนั้นข้าจึงจะช่วยใช้มือจัดการให้ท่าน...”
ซูเจ๋อ “.....”
“ข้าได้ยินมาว่าการอดกลั้นนานเกินไปมันไม่ดี”
“ท่านไปฟังใครมา”
“ฟังจากในหนังสือ” เฉินเสียนตอบ “ข้าไม่อยากให้ท่านมีปัญหา”
ซูเจ๋อเอ่ยล้อๆ อย่างอดไม่ได้ว่า “กลัวว่าคนที่ทุกข์ทรมานในอนาคตจะเป็นท่านหรือ”
มือของเฉินเสียนยังคงดั้นด้นลงไปใต้ท้องของเขา เขาหยุดชะงักและเอ่ยด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า “อย่าแตะ อีกเดี๋ยวมันจะทำให้มือท่านสกปรก”
“ไม่สกปรก” เฉินเสียนมองเขาด้วยสายตาที่เลือนราง เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่น่าหลงใหลว่า “ซูเจ๋อ ท่านสัมผัสข้าแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ข้าควรจะสัมผัสท่านบ้าง”
เธอเลื่อนลงไปอย่างดื้อดึง ไม่ต้องการให้ซูเจ๋ออดกลั้นไว้อีก ถ้าจัดการได้ เธอก็จะไม่ละความพยายามที่จะช่วยจัดการให้เขา
แม้ว่าเฉินเสียนจะไม่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสรีระของชายหญิง แต่เธอก็พอจะรู้อยู่บ้าง
เมื่อเฉินเสียนสัมผัสตัวตนของซูเจ๋อ ร่างกายของเธอก็ร้อนผ่าว ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่ยุ่งเหยิงอย่างสุดกลั้นของเขา ทว่าเขาก็ยังสงบ
เธอเคลื่อนไหวอย่างเงอะงะตามประสาคนไร้ประสบการณ์
เฉินเสียนเฝ้ามองสีหน้าที่ถลำลึกของเขา และนั่นทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้หัวใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ทันใดนั้นซูเจ๋อก็ใช้มือปิดตาของเธอไว้ เขาซบลงที่ข้างหูของเธอและหายใจหอบเล็กน้อย จากนั้นจึงจูบเธออย่างคลั่งไคล้ ลูบไล้เธออย่างครอบงำและอ่อนโยน
“ทำไมไม่ให้ข้ามอง...” เฉินเสียนเอ่ยอย่างออดอ้อนด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า “ข้าเองก็ชอบท่าทีเช่นนี้ของท่าน ชอบที่ท่านมีอารมณ์เพราะข้า ชอบใบหน้าของท่านที่แสดงออกว่าอยากให้ข้าครอบครอง”
ผ่านซอกนิ้ว เฉินเสียนเห็นซูเจ๋อขมวดคิ้วที่เรียวยาวของเขา สีหน้าที่ดูเหมือนจะเจ็บปวดแต่ไม่เจ็บปวดนั้นซึมลึกลงไปในหัวใจของเธอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาอันร้อนแรงบ้าคลั่ง ปรารถนาที่จะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ และกลืนกินเธอให้หมดทั้งตัว เฉินเสียนรู้ว่านั่นเป็นเพราะเขาทำอะไรเธอไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...