ซูเจ๋อยืนอยู่ที่วงกบประตูอยู่ครู่หนึ่งและเลิกคิ้วเล็กน้อย “ข้าจะอาบน้ำ ท่านจะเข้ามารึ”
เฉินเสียนปฏิเสธหน้าชาว่า “ไม่ ท่านถอดชุดที่ใส่อยู่ให้ข้าสิ ข้าจะนำไปทิ้งให้เอง”
“ถอดตอนนี้เลยหรือ”
ใบหน้าของเฉินเสียนแข็งทื่อ
แล้วซูเจ๋อก็ยิ้มขึ้นมา กระซิบเบาๆ อย่างมีเลศนัยว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านก็เข้ามาเถอะ ข้าจะถอดให้ท่านทีละชิ้นๆ”
เฉินเสียนกล่าวอย่างจริงจังว่า “ซูเจ๋อ ท่านอย่ามายั่วข้า”
ซูเจ๋อกระแอมในลำคอ เขากลั้นยิ้มและระงับน้ำเสียงที่หยอกเย้านั้น กระซิบเสียงต่ำว่า “ถ้าข้ายั่วท่านจริงๆ ท่านจะไม่กินข้าหรือ ข้ารู้ว่าเดี๋ยวนี้ท่านกล้าหาญขึ้นมาก”
เฉินเสียนเม้มปาก เธอเอ่ยอย่างสุขุมก่อนจะหันหลังเดินจากไปว่า “ซูเจ๋อ ท่านรอข้าเถอะ ไม่ช้าก็เร็วข้าจะนอนกับท่าน”
ซูเจ๋อพิงกรอบประตู เฝ้ามองแผ่นหลังของผู้ที่กำลังหนีเตลิดและเอ่ยอย่างสบายๆ ว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องเตรียมพร้อมทุกเวลา เพียงแต่ยามนี้ยังเช้าอยู่ หญิงสาวผู้เพียบพร้อมก็มาเสียแล้ว ข้ายังไม่ค่อยคุ้นชินกับเวลาช่วงนี้นัก เสื้อผ้าสกปรกนี่ อีกเดี๋ยวข้าจะจัดการเอง”
แผ่นหลังของเฉินเสียนเลี้ยวไปทางระเบียงและหายไปในชั่วพริบตา
รอยยิ้มบนใบหน้าของซูเจ๋อจืดจางลงและหายไปทันทีที่ลมพัดมา
ฉินหรูเหลียงเดินออกมาและเหลือบมองซูเจ๋อที่อยู่ตรงประตู จากนั้นจึงพูดอย่างเย็นชาว่า “หากท่านไม่ยอมให้นางกลับเมืองหลวง เจ้าน่องน้อยอาจมีอันตรายถึงชีวิต ถ้าเกิดอะไรขึ้น ข้าเกรงว่านางคงไม่มีวันยกโทษให้ท่าน”
ซูเจ๋อปัดชายเสื้อและหันหลังเดินเข้าห้อง เอ่ยเบาๆ ว่า “นั่นไม่ใช่สิ่งที่ท่านหวังหรอกหรือ”
หลังจากนั้นเฉินเสียนก็ไม่ได้ไปยุ่งกับชุดตัวเก่าของซูเจ๋ออีก ในเมื่อซูเจ๋อบอกว่าจะจัดการเอง ถ้าเธอยังเข้าไปช่วยเขาอีก มันคงจะดูเหมือนเธอกระตือรือร้นเกินเหตุ
ถ้าบอกให้เฮ่อโยวไปคอยดู เขาจะต้องหัวเราะเยาะเธอแน่
แถมการไปเดินซื้อเสื้อผ้านี่เธอก็ยังแอบไปซื้ออย่างลับๆ ด้วย
หลังจากเฮ่อโยวกลับมา เฉินเสียนก็ไม่ได้คิดจะไปเคาะประตูห้องซูเจ๋ออีก
ถึงอย่างไรเสีย หากท่าทีที่เธอมีต่อซูเจ๋อเปลี่ยนไปจากเดิมมากเกินไป อาจทำให้เฮ่อโยวกับฉินหรูเหลียงสงสัยขึ้นมาว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาตอนที่อยู่ภายในถ้ำ
เอาน่ะ แค่มีบางอย่างเกิดขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมทุกอย่างเสียทีเดียว
เฉินเสียนส่ายศีรษะไปมาและเคาะหน้าผากของตัวเองอย่างขัดเคือง แล้วพูดกับตัวเองว่า “นี่เธอกำลังคิดเพ้อเจ้ออะไรอยู่น่ะ”
เพียงแต่ไม่คิดว่าในคืนนั้น เฉินเสียนจะบังเอิญพบกับเฮ่อโยวที่กำลังถือเสื้อผ้าตัวที่สกปรกของซูเจ๋อมาพอดี
เฉินเสียนชะงัก เฮ่อโยวที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอก็ชะงักไปเช่นกัน
เฮ่อโยวถามว่า “ดึกขนาดนี้ท่านยังไม่นอนอีกหรือ”
“เจ้าทำอะไรน่ะ” เฉินเสียนถามพลางหรี่ตามอง
เฮ่อโยวตอบโดยไม่ต้องคิดว่า “ท่านบัณฑิตขอให้ข้านำเสื้อผ้าชุดเก่าของเขาไปเผาน่ะ”
ซูเจ๋อไม่ยอมให้ส่งให้เธอ แต่กลับส่งให้เฮ่อโยวรึ?
เฉินเสียนยังไม่ค่อยเชื่อและถามไปว่า “ซูเจ๋อให้เจ้ามาหรือ”
เฮ่อโยวบอกว่า “ข้าบังเอิญเดินผ่านหน้าห้องของเขา เห็นสีหน้าเขาไม่ค่อยดี ในเมื่อเขาขอร้องข้า ข้าก็เลยยอมช่วยเขาสักหน่อย”
เฉินเสียนทำหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ซูเจ๋อเป็นฝ่ายขอร้องเจ้าเอง และเจ้าก็ช่วยเขางั้นรึ”
ซูเจ๋อน่ะหรือจะขอให้เฮ่อโยวทำเรื่องจุกจิกเช่นนี้ให้ แถมเฮ่อโยวยังเดินผ่านหน้าห้องของเขาอีก
เฮ่อโยวเหลือบมองเธอและตอบว่า “ใช่ มีปัญหาอะไรหรือ? ที่แขนของท่านบัณฑิตมีเลือดซึมออกมา เมื่อข้าไปเห็นเลือดที่แขนของเขาเช่นนั้น ข้าก็เลยพอจะอภัยให้ได้และยอมช่วยเขาเสียหน่อย ท่านจะลองไปดูก็ได้”
ได้ยินดังนั้นเฉินเสียนก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของซูเจ๋อ ดังนั้นเธอจึงเลี่ยงจากเฮ่อโยวและรีบตรงไปที่ห้องของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...