ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 358

องค์จักรพรรดิกล่าวว่า“ได้ยินมาว่าระหว่างเดินทางพวกเจ้าได้พบการลอบสังหารอยู่หลายครั้ง บัณฑิตเป็นขุนนาง จิ้งเสียนเป็นองค์หญิง แล้วหลบซ่อนกันอย่างไรหรือ?”

พระองค์ส่งนักดาบหลวงออกไปสองครา ทั้งหมดล้วนไปแล้วไม่กลับมา และซูเจ๋อกับเฉินเสียนเป็นผู้ที่มีแรงน้อยขนาดแรงมัดไก่ยังไม่มีเลย เหตุใดจนถึงตอนนี้ยังปลอดภัยไร้การถูกทำร้ายเล่า

นี่เป็นสิ่งที่องค์จักรพรรดิไม่เข้าใจเลย

เฮ่อโยวสีหน้าปกติ กล่าวว่า “พวกกระหม่อมพบเจอการลอบสังหารทั้งหมดสามครั้งพ่ะย่ะค่ะ ครั้งแรกระหว่างเร่งเดินทางไปเขตชายแดน เพื่อที่จะช่วยพวกกระหม่อมกลุ่มทหารคุ้มกันทั้งหมดแพ้ย่อยยับ ทำให้พวกกระหม่อมหนีรอดพ้นพ่ะย่ะค่ะ ครั้งที่สองบริเวณใกล้กับราชนิเวศน์ของเย่เหลียง เวลานั้นสถานการณ์ตกอยู่ในอันตราย โชคดีที่องครักษ์หลวงของเย่เหลียงมาทันเวลา ถึงได้สังหารนักฆ่าจนหมด ครั้งที่สามระหว่างเดินทางกลับมาตอนใกล้จะถึงเมืองหลวง เกี้ยวของพวกกระหม่อมตกแต่งหลอกตานักฆ่า เวลาต่อมาไปหลบในภูเขาสองวัน ถึงได้พอถูๆไถๆหลบได้พ่ะย่ะค่ะ เวลานั้นองค์หญิงจิ้งเสียนพลัดจากกัน สุดท้ายเป็นองค์หญิงที่กลับมาเมืองหลวงก่อนเพียงลำพัง”

องค์จักรพรรดิไตร่ตรองเป็นเวลานาน พอฟังแล้วคล้ายดั่งไม่มีความผิดปกติอันใด แววตามาดร้ายต้องการฆ่า กล่าวขึ้นว่า“เช่นนั้นบัณฑิตล่ะ ผลสุดท้ายแล้วเหตุใดถึงได้นำสามคูเมืองไปเป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนเจรจาสันติภาพกับเย่เหลียงได้สำเร็จ?”

เฮ่อโยวกล่าวว่า “ตอนที่กองทัพต้าฉู่กับเย่เหลียงตั้งค่ายสู้กัน บัณฑิตลากองค์หญิงจิ้งเสียนไปจนกระทั่งถึงหน้าสนามรบ ใช้ผลประโยชน์จากฐานะขององค์หญิงมาเป็นโอกาสในการเจรจาสันติภาพ ต่อมาถึงราชนิเวศน์ของเย่เหลียง บัณฑิตใช้ผลประโยชน์จากฐานะขององค์หญิงเช่นเดิม ประจวบเหมาะกับที่เป่ยเซี่ยให้ความสำคัญกับจดหมายขององค์หญิง เย่เหลียงก็เลยไม่กล้าหุนหันพลันแล่น บวกกับเย่เหลียงไม่เหมาะแก่การทำสงครามนาน ด้วยเหตุนี้ตอนท้ายถึงได้ฝืนใจยอมรับเงื่อนไขเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”

องค์จักรพรรดิเคยคิดว่าจะสังหารจิ้งเสียนในเขตแดนเย่เหลียง วางแผนใช้ชีวิตจิ้งเสียนมาแลกเปลี่ยน เป็นผลของการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แต่ทว่าคาดไม่ถึงว่าซูเจ๋อจะใช้ประโยชน์ตรงจุดนี้ มาบรรลุผลการเจรจาสันติภาพ

พระองค์ดูแคลนซูเจ๋อเกินไปแล้วเสียจริง

องค์จักรพรรดิมองไปทางเฮ่อโยวแล้วกล่าวว่า “เจ้าทำดีมาก”

เฮ่อโยวคารวะทันที แล้วกล่าวขึ้นว่า“สามารถเป็นม้ารับใช้องค์จักรพรรดิ เป็นสิ่งที่ราษฎรผู้ต่ำต้อยควรจะทำพ่ะย่ะค่ะ เวลานี้ราษฎรผู้ต่ำต้อยได้รับความไว้วางใจขององค์หญิงจิ้งเสียนและบัณฑิตแล้ว เพียงแค่องค์จักรพรรดิรับสั่ง ราษฎรผู้ต่ำต้อยนี้จะพยายามอย่างสุดความสามารถ ตายหมื่นครั้งก็ไม่ถอยพ่ะย่ะค่ะ!”

ท้องพระโรงมีเสียงสะท้อนกลับคำพูดของเฮ่อโยว สั่นสะเทือนกินใจคนเป็นอย่างมาก

องค์จักรพรรดิหัวเราะแล้วกล่าวขึ้นว่า “เฮ่อเซียงมีลูกชายอายุน้อยสองคนเช่นนี้ วาสนาดีเสียจริง ข้าจำได้เมื่อก่อน คุณชายเฮ่อเป็นคนกินเล่นเที่ยวไปวันๆ ไม่ร่ำเรียน เหตุใดตอนนี้ต้องการมาตอบแทนบุญคุณข้าเล่า?”

เฮ่อโยวกัดแก้มแน่น กล่าวขึ้นว่า“เพราะว่าราษฎรผู้ต่ำต้อยต้องการให้ตำแหน่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะว่าท่านพ่อของราษฎรผู้ต่ำต้อยเฮ่อเซียงดูถูกไว้ ราษฎรผู้ต่ำต้อยผู้นี้ถึงอยากจะให้เขาใช้สายตาอีกมุมหันมอง พี่ใหญ่ทำได้ราษฎรผู้ต่ำต้อยก็ทำได้แน่นอน และต้องมีสักวันหนึ่งที่จะต้องทำได้ดีกว่าพี่ใหญ่! ”

องค์จักรพรรดิหัวเราะเสียงดังลั่น กล่าวขึ้นว่า “ดีที่อยากจะมีตำแหน่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าซื่อสัตย์จริงใจ หากคนหนึ่งในใจไม่มีความทะเยอทะยานอันร้อนแรง สุดท้ายก็ยากที่จะสำเร็จเรื่องใหญ่หลวง ข้าก็อยากจะดู สรุปว่าเจ้าเก่งกาจ หรือว่าพี่ใหญ่ของเจ้าเก่งกาจ ต่อไปอยู่ต่อหน้าข้า เจ้าไม่ต้องกล่าวอ้างเรียกตัวเองว่าเป็นราษฎรผู้ต่ำต้อยแล้ว ครั้งนี้ทางใต้กับเย่เหลียงเจรจาต่อรองกัน เจ้าเป็นรองท่านทูตมีผลงานที่ยิ่งใหญ่ ตอนนี้ฝ่ายพิธีการยังมีหนึ่งตำแหน่งที่ว่าง พรุ่งนี้เจ้าไปรายงานตัวที่ฝ่ายพิธีการ ดำรงตำแหน่งรองขุนนางขั้นสี่ ”

เฮ่อโยวรีบทำความเคารพทันที กล่าวขึ้นว่า“กระหม่อมขอบพระทัยองค์จักรพรรดิผู้มีพระคุณพ่ะย่ะค่ะ”

“ออกไปเถิด วันนี้พระราชโองการจะส่งไปที่จวนอัครเสนาบดี”

เฮ่อโยวลุกขึ้นยืนอย่างเคารพนอบน้อม ประสานมือคารวะแล้วถอยหลัง ถอยจนถึงประตูท้องพระโรง หมุนตัวอย่างระมัดระวังแล้วออกไป

องค์จักรพรรดิหรี่ตา ราวกับว่าลูกชายของเฮ่อเซียงทั้งสองคนสามารถทำงานเพื่อพระองค์ได้ทุกอย่าง ก็ยังพอนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีหนึ่งเรื่อง

องค์จักรพรรดิกล่าวกับกงกงที่ใกล้ชิดว่า“เจ้าว่า เขาพูดสิ่งเหล่านี้ กี่ส่วนที่เป็นจริงและกี่ส่วนที่เป็นเท็จ?”

กงกงกล่าวตอบอย่างเคารพนอบน้อมว่า “สิ่งนี้กระหม่อมไม่กล้าที่จะบุ่มบ่ามตัดสินชี้ขาดพ่ะย่ะค่ะ”

องค์จักรพรรดิหัวเราะอย่างเยือกเย็น กล่าวว่า “จริงหรือเท็จ พอลองดูก็รู้แล้ว”

ทันทีหลังจากนั้นองค์จักรพรรดิก็พานางกำนัลออกไปจากท้องพระโรง

เจ้าน่องน้อยถูกจัดให้อยู่ในพระราชอุทยานแห่งหนึ่งที่โดดเดี่ยว คล้ายกับมีการส่งนางกำนัลที่เกี่ยวข้องมาดูแล

เจ้าน่องน้อยสุขภาพไม่ดี ยาหม้อเข้ามาไม่ขาดสาย เขาสามารถดื่มลงไปได้น้อยมาก ระหว่างทางได้ยินนางกำนัลคุยกัน เฉินเสียนก็หัวใจบีบรัดแน่นแล้ว

โชคดีที่ทำให้เฉินเสียนทอดถอนหายใจอย่างเงียบๆคือ แม้ว่าเจ้าน่องน้อยจะสุขภาพไม่ดี แต่ยังไม่ถึงขั้นมีพระราชโองการบอกว่าป่วยหนัก

แต่เธอยังมีความตื่นตระหนกกังวลทั้งหมดอยู่บนใบหน้า ระหว่างทางร้องไห้อย่างหนักหน่วง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี