ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 39

พ่อบ้านถอดถอนใจและกล่าวว่า “แม่บ้านจ้าว นี่เป็นคำสั่งของท่านแม่ทัพ เราขัดคำสั่งไม่ได้ ไปเชิญองค์หญิงออกมาเดี๋ยวนี้เถอะ ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องให้คนเข้าไปเชิญองค์หญิงออกมา”

แม่บ้านจ้าวกระสับกระส่าย ดูเหมือนว่าถึงอย่างไรวันนี้ก็คงหลบไม่พ้นอยู่ดี องค์หญิงก็ทำตัวแปลกๆ ทำไมจึงไม่บอกอะไรนางล่วงหน้าเลยสักคำ! ตอนนี้นางไม่รู้เลยว่าควรจะรับมืออย่างไร

ทันทีที่สิ้นเสียง ใครบางคนก็เปิดประตูออกมา

เฉินเสียนสวมชุดสะอาดเรียบร้อยยืนอยู่ในกรอบประตู หน้าท้องของเธอนูนขึ้นมาเล็กน้อย สีหน้าเรียบเฉยเป็นปกติ

น่าจะเป็นเพราะว่ากำลังตั้งครรภ์ รอบๆ ตัวเธอจึงมีประกายแสงอ่อนๆ ของความเป็นแม่ ถึงแม้รอยแผลเป็นบนใบหน้าจะดูขัดตา แต่ก็ดูน่ากลัวน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก

เฉินเสียนวางมือลงบนหน้าท้องของตนเองโดยไม่รู้ตัว พลางเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นคำสั่งของท่านแม่ทัพ ข้าจะทำให้พ่อบ้านลำบากไปด้วยได้อย่างไร”

พ่อบ้านโค้งคำนับ ประสานมือคารวะและเอ่ยว่า “บ่าวซาบซึ้งในน้ำพระทัยขององค์หญิง”

หลังจากนั้นเฉินเสียนจึงตามพ่อบ้านไปที่ลานด้านหน้า

อวี้เยี่ยนและแม่บ้านจ้าวติดตามไปอย่างใกล้ชิด รู้ว่าถึงอย่างไรก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ถ้าท่านแม่ทัพกล่าวโทษ ทั้งสองคนก็พร้อมจะปกป้ององค์หญิง จะไม่ยอมให้ใครทำร้ายเด็กในท้องของนางเด็ดขาด

ตอนนี้เด็กมีอายุมากกว่าห้าเดือนแล้ว เขาคึกคักและมีชีวิตชีวาอยู่ในท้องของเฉินเสียน แล้วแบบนี้จะปล่อยให้เกิดปัญหากับเขาได้อย่างไร เด็กคนนี้โตขึ้นมาและผ่านเรื่องราวเลวร้ายมามากแล้ว หากร่างกายของมารดาเป็นอันตราย โอกาสที่จะเสียชีวิตก็มีสูงมาก

ดังนั้นอวี้เยี่ยนและแม่บ้านจ้าวจึงไม่อาจผ่อนคลายได้เลย

ทั้งสองรู้สึกกระวนกระวายมาก แต่ไม่รู้เลยว่าทำไมองค์หญิงของพวกนางจะทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น! ทำเพียงแค่ถามสองสามคำอย่างไม่ใส่ใจนัก

เฉินเสียนถามว่า “ตอนนี้นายหญิงน้อยเป็นอย่างไรบ้าง”

“รักษาอาการบาดเจ็บแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ยังหลับใหลไม่ได้สติ ครั้งนี้นายหญิงน้อยบาดเจ็บสาหัสจริงๆ ถ้าไปพบช้ากว่านี้ก็คง...”

ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ

เฉินเสียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ถ้าไปพบช้ากว่านี้เกรงว่าปลิงเหล่านั้นคงเจาะตัวจนทะลุ โชคดีที่วันนี้พ่อบ้านพาคนไปทำความสะอาดสระจึงพบนายหญิงน้อยทันเวลาและช่วยชีวิตนางไว้ได้”

“เป็นหน้าที่ที่บ่าวควรทำอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ถึงอย่างไรพ่อบ้านก็ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านอยู่ในจวนแม่ทัพมาหลายปี หลังจากเกิดเรื่องเช่นนี้เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไร

ถ้าตอนนั้นเฉินเสียนไม่ออกปากเตือนเขา เขาคงไม่รีบพาคนไปทำความสะอาดสระ หากไปถึงที่นั่นช้ากว่านี้ เกรงว่าชีวิตของนายหญิงน้อยคงจะร่วงโรยไม่ต่างจากดอกไม้

นอกจากนี้พ่อบ้านยังตระหนักได้ว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับองค์หญิง แต่พวกเขาเป็นเพียงผู้น้อย ถ้าอยากอยู่อย่างสงบก็จำต้องเงียบปากไว้

ยิ่งไปกว่านั้นถ้าองค์หญิงต้องการฆ่านายหญิงน้อยจริงๆ นางก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาเตือนเขาเลย ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็จะไม่รับรู้สิ่งใดที่จะนำใช้ปรักปรำนางได้

แม้จะไม่รู้ว่านายหญิงน้อยตกลงไปในสระได้อย่างไร แต่องค์หญิงก็เป็นผู้ที่ยืมมือของเขาไปช่วยนายหญิงน้อยไว้

ผ่านมาถึงตอนนี้ เฉินเสียนจัดการเรื่องต่างๆ ได้อย่างเด็ดขาดและเรียบร้อยจนทำให้พ่อบ้านยอมรับ และพ่อบ้านเองก็ไม่อยากให้เกิดอันตรายใดๆ กับนางและเด็กในท้อง

แต่ดูเหมือน... องค์หญิงจะไม่ใส่ใจเรื่องของตัวเองเลย มันทำให้คนอื่นอดกังวลแทนนางไม่ได้จริงๆ!

พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ เอ่ยอย่างหวังดีว่า “เวลานี้ท่านแม่ทัพกำลังโกรธมาก โชคดีที่แม้นายหญิงน้อยจะได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังช่วยชีวิตไว้ทัน เมื่อพบท่านแม่ทัพ องค์หญิงทรงอย่าแข็งข้อนะพ่ะย่ะค่ะ เมื่อควรก้มเศียรพระองค์ต้องก้มเศียร หากไม่คิดถึงพระองค์เองก็ควรนึกถึงบุตรด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินเสียนขมวดคิ้วและพูดว่า “เจ้าคิดว่าข้าทำอะไรผิดงั้นหรือ”

คำถามนี้ทำให้พ่อบ้านไม่กล้าถามต่อ

เฉินเสียนกล่าวอีกว่า “แม่ทัพฉินมีนิสัยชอบกล่าวโทษข้าอย่างไม่สนถูกผิด แต่ข้าไม่ได้มีนิสัยชอบโค้งคำนับให้เขาอย่างไม่สนถูกสนผิด”

พ่อบ้านเอ่ยอย่างจำใจ “บ่าวพูดผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี