“เฮ่อโยว……” เฉินเสียนรู้สึกเศร้าและไม่ค่อยมีแรง “เจ้าเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
“ข้าก็เป็นอย่างนี้ของข้าตั้งนานแล้ว มีเพียงแต่เจ้าที่มองไม่ออกเอง”เฮ่อโยวจับไปที่ไหล่ของเฉินเสียน “ข้าไม่ได้ใจดีมีเมตตาอย่างที่ท่านคิด ข้าไม่ใช่แค่ต้องการแก้แค้น แต่ข้ายังต้องการทำเพื่อตัวเองอีกด้วย!ข้าจะทำให้คนที่มันดูถูกข้าให้ได้เห็น ว่าสุดท้ายใครกันแน่ที่จะยิ้มออกมาได้!เฉินเสียน ข้าต้องการความเจริญรุ่งความยิ่งใหญ่ ข้าต้องการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว!”
สีหน้าของเขาที่แสดงอารมณ์ออกมาอย่างแปรปรวน ทำให้เฉินเสียนรู้สึกไม่คุ้นเคย
เธอคิดว่าเธอนั้นเข้าใจเฮ่อโยวดีพอ แต่มาถึงวันนี้กลับพบว่า เธอเหมือนไม่เคยเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงในใจเขา ไม่เคยรู้ว่าสุดท้ายเขาต้องการอะไรกันแน่
เฮ่อโยวที่อยู่ด้านหน้า ไม่เหมือนเฮ่อโยวคนเดิมที่เคยรู้จัก
เฮ่อโยวปล่อยมือจากไหล่ของเธอ เธอเดินโซเซถอยหลังไปสองก้าว ทั้งร่างกายรู้สึกไม่สบายเหมือนว่ากำลังจะถูกเผา ในหูของเธอก็มีเสียงหวีดดังทำให้หูเธอเจ็บแสบ
เสียงของเฮ่อโยวลอยเข้าไปในหูของเธอ “ฤทธิ์ของยาชนิดนี้มันช้า อีกประมาณสองถึงสี่ชั่วโมงก็จะค่อยๆออกฤทธิ์ ถ้าท่านกลับไปตอนนี้ ก็อาจจะพยายามเดินกลับไปถึงจวนแม่ทัพได้ ไม่งั้นอย่างนั้นก็อาจจะตายอยู่ในหอสุรา และอาจจะทำลายการค้าขายของผู้อื่นได้ ”
เฉินเสียนถอยหลังจนถึงประตู สายตาออกขุ่นมัวนิดหน่อยมองไปทางเฮ่อโยว หันหลังแล้วพูดอย่างไกลๆว่า “ก็จริง เการมีชีวิตอยู่ก็เป็นโชคดีของข้า ความตายก็เป็นชีวิตของข้า เฮ่อโยว ข้าเชื่อใจเจ้าผิดไป”
เธอลงไปชั้นล่าง แล้วเดินออกจากหอสุราไป รู้สึกว่าแสงไฟด้านนอกนั้นสว่างไสวมาก แต่เธอเดินส่ายไปส่ายมาเหมือนกับมองคนที่มองไม่เห็นแสงไฟ
เฮ่อโยวยืนมองดูอยู่ด้านหน้าหน้าต่างชั้นสอง มองร่างเธอเดินออกไปอย่างเซไปเซมา
เดินออกไปไม่นาน เฉินเสียนรู้สึกระคายเคืองที่จมูก เธอกัดฟัน และปิดคอแน่น ยกมือขึ้นลูบที่จมูก พบว่าไม่มีเลือดไหลเล็ดรอดออกจากปากแล้ว แต่ไปไหลออกทางจมูกของเธอ
เธอเช็ดไม่สะอาด ยิ่งเช็ดเลือดก็ยิ่งออก
เวลาต่อมาเธอจึงยืนอยู่บนถนน เงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็รู้กสึกว่าทั้งร่างกายเย็นเฉียบ
ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบข้างเห็นลักษณะอาการของเธอ ต่างก็พากันตกใจแล้วหนีห่างจากเธอ เลือดไหลออกทางจมูกมายังคางแล้วหยดเต็มไปทั่วเสื้อคลุมด้านบนของเธอ
มีคนรอบถามด้วยความหวังดีว่า “แม่นาง เจ้าต้องเร่งรีบแล้ว ให้ข้าไปส่งที่ร้านยาสมุนไพรรึไม่?”
เฉินเสียนพูดพึมพำว่า “อากาศวันนี้ ช่างหนาวเย็นเสียจริง”
เธอก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างลำบากอย่างไม่ค่อยได้สติ สายตามองเห็นไม่ชัด ฟังก็ไม่ถนัด ในภาพความทรงจำคร่าวๆของเธอเหลือเพียงแค่เสียงจ้อกแจ้กจอแจ ปนเปกับเสียงคนพูด และเสียงรอยลากของรถม้า
อวี้เยี่ยนและแม่นมซุยคิดไม่ถึงว่า เฉินเสียนที่ออกไปหาเฮ่อโยวอย่างเงียบๆ จะถูกหามกลับมาเช่นนี้
ตอนกลับมาถึง เฉินเสียนมีสีหน้าตาซีดเซียว ตาทั้งสองข้างปิดอยู่ จมูกยังมีครอบเลือดติดอยู่ ทำให้ทั้งอวี้เยี่ยนและแม่นมซุยต่างตื่นตระหนกตกใจอย่างมาก
รีบพากลับไปที่สวนสระวสันตฤดู อวี้เยี่ยนตัวสั่นเทาแล้วพูดออกมาอย่างไม่คล่องว่า “ไปตามหมอมา……ไปตามหมอที่เก่งที่สุดในเมืองมา!”
พ่อบ้านจึงรีบส่งคนออกไปตามหมอ
ณ เวลานั้น ฉินหรูเหลียงและเฉินเสียนต่างก็อยู่ในสภาวะที่ล้มป่วย ความตกอับมาถึงจวนแม่ทัพแล้ว สำหรับคนภายนอกก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
สองวันมานี้ เรื่องที่ผู้คนในเมืองพูดต่างพูดกันมากมาย คงไม่มีอะไรที่มากไปกว่าเรื่องที่จวนแม่ทัพมาถึงคราวตกอับแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...