ในเรือนของซูเจ๋อไม่มีสิ่งใด นอกจากพวกผลงานการเขียนตัวหนังสือด้วยพู่กันและภาพวาด ในห้องตำราหาจดหมายที่จะสามารถลงโทษเขาได้นั้นไม่เจอเลย
บ่าวในเรือนของซูเจ๋อก็ถูกจับ ส่งเข้าไปในคุกของศาลยุติธรรมต้าหลี่
เวลานั้นเขาถูกเฮ่อฟั่งออกคำสั่งควบคุมตัวไว้ สวมใส่ชุดสีขาว ผมดำขลับราวกับหมึก แขนเสื้อสองข้างโปร่งเย็นสบายเหมือนเดิมและไร้ข้อโต้แย้งกับผู้คน
จนกระทั่งเฮ่อฟั่งพยายามหาท่าทางกระวนกระวายตื่นตระหนกจากการกระทำผิดบนใบหน้าของเขา ล้วนไม่มีปรากฏให้เห็นเลย
ตากับคิ้วของเขาสูงสง่างามราวกับภาพวาด ประตูเรือนเดินผ่านมารื้อหากระจัดกระจาย บริเวณซอกมุมสะอาดราวกับแม่คะนิ้ง
คนเช่นนี้ สมบูรณ์แบบครบถ้วนจนมีบางอย่างที่ไม่แท้จริง ราวกับไม่ควรที่จะมาโลกมนุษย์ที่สกปรกและขุ่นมัวนี้เลย
ระหว่างเดินทางจากเรือนของซูเจ๋อมาถึงศาลยุติธรรมต้าหลี่ ต้องผ่านทะลุถนนหนทางจำนวนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มหนึ่งควบคุมตัวไว้อยู่บนถนน ยากที่จะหลีกเลี่ยงผู้คนบนถนนบริเวณโดยรอบพากันมุงดู
เหล่าอาณาประชาราษฎร์ชี้ไม้ชี้มือ ไม่รู้ว่านี่เป็นครอบครัวไหนได้รับโทษอีก
เฮ่อฟั่งขี่ม้าตัวสูงใหญ่ เดินอยู่ด้านหน้าสุด สีหน้าของเขาราวกับไก่ตัวผู้ตัวหนึ่งที่ห้าวหาญไม่หวาดหวั่น เตรียมพร้อมที่จะสู้อยู่ตลอดเวลา
เฉินเสียนอยู่ในร้านเครื่องประดับเลือกเครื่องประดับอย่างตั้งอกตั้งใจ เครื่องประดับสวยงามวางอยู่เต็มไปหมด ส่วนใหญ่ประณีตละเอียดล้ำค่า บนใบหน้าของเธอดูท่าทีไม่ออกเลย ลองหยิบขึ้นมาวางในมือแล้วก็แค่ลูบ เจ้าของร้านคิดว่าเธอชอบเลยได้เชิญให้เธอลอง
ครั้นแล้วเฉินเสียนก็เอียงตัวพิงตู้สินค้า หันหน้าไปทางประตู โดยมีฉินหรูเหลียงที่นำปิ่นปักผมที่เธอมองนานๆมาลองปักที่ผมให้
ถนนด้านนอกร้านเครื่องประดับ เป็นถนนที่จำเป็นต้องใช้ผ่านไปที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่
เฉินเสียนมองอย่างแน่วแน่ มองผู้คนที่ต่างพากันมุงดู มองพวกเขาที่ยืดคอมองไปทางด้านนั้น เธอได้ยินจากปากของพวกเขากล่าวออกมาว่า“เหมือนจะเป็นบัณฑิต ”
มือเฉินเสียนพยุงอยู่ที่ตู้สินค้า เล็บมือซีดขาว
เธอมองเห็นเฮ่อฟั่งขี่อยู่บนม้า องอาจผึ่งผายผ่านหน้าประตูไป
เจ้าหน้าที่ทหารเดินอย่างเป็นระเบียบ ด้านหลังควบคุมคนบางส่วนไว้ มีพ่อบ้านในเรือนซูเจ๋อ และบ่าวจำนวนหนึ่ง
ซูเจ๋อเดินอยู่ตรงกลาง ตอนที่มองสำรวจปรากฏอยู่ในวงกบของร้านเครื่องประดับ ราวกับภาพวาดกระโจนเข้าม่านตา
เขาสีหน้าเรียบเฉย ชุดขาวบริสุทธิ์ผมดำขลับ ร่างสูงชะลูดก้มลงเล็กน้อย แววตาเฉยชาราวกับฟ้าดินผนึกรวมกัน ไม่มีการตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย
เขามักเป็นเช่นนี้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ล้วนจะมีบุคลิกที่สงบคนอื่นไม่สามารถบรรลุผลเข้าถึงได้ แม้เพียงเขาถูกส่งเข้าคุก พอเข้าไปแล้วอาจยากที่จะเป็นอิสระ
เฉินเสียนไม่ทันที่จะได้มองเขานานๆ เขาก็ค่อยๆเลือนหายไปจากหน้าวงกบประตูแล้ว
ไม่รู้ว่าเขาเห็นตัวเองหรือไม่ เฉินเสียนคิดว่าน่าจะไม่เห็นหรอก
ไม่เห็นก็ดี เช่นนี้ซูเจ๋อก็ไม่มีทางได้รับทรมานเหมือนเธอแล้ว
เห็นชัดเจนว่าเขาอยู่ตรงหน้า เพียงแค่เธอเคลื่อนย้ายฝีเท้าไปที่ประตู ก็สามารถทักทายเขาได้แล้ว อาจจะได้คุยกันสักสองประโยค
เห็นชัดเจนว่าเขาจะต้องถูกจับไป เคราะห์ดีหรือร้ายยากที่จะคาดเดา เพียงแค่เธอกระโจนออกไปอย่างไม่มีเหตุผล ไม่อนุญาตให้เฮ่อฟั่งควบคุมตัวเขาไป ก็สามารถไม่ให้เขาเข้าไปในศาลยุติธรรมต้าหลี่สถานที่เช่นนั้น ก็ต่อให้ต้องเข้าไป เธอก็อยากที่จะเข้าไปอยู่ร่วมกับเขาด้วย
แต่เธอทำไม่ได้ เธอต้องพยายามอดทนไว้!
เธอไม่สามารถเดินไปด้านหน้าพูดคุยกับเขา ไม่สามารถขัดขวางเฮ่อฟั่งไม่ให้ควบคุมตัวเขาไปได้
เธอทำได้เพียงมอง เขาที่จะต้องมีวิธีการอย่างนี้โอ้อวดผ่านเมือง ถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์
แต่ว่าซูเจ๋อ เหตุใดถึงถูกปฏิบัติเช่นนี้ เขาเฮ่อฟั่ง กล้ามากที่รื้อค้นเรือนของเขา กล้าจับเขาเดินผ่านเมือง เฮ่อฟั่งคู่ควรหรือ?!
กองขบวนเดินผ่านหน้าร้านเครื่องประดับระยะห่างยาวไกลมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...