ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 406

ชั่วพริบตาเดียวใจของเฉินเสียนก็ตกจมดิ่งไปถึงระดับต่ำสุด“ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? เกิดเรื่องจริงๆนะหรือ?”

ฉินหรูเหลียงกล่าวว่า“ไม่หรอก ข้าเพียงแค่ถามเฉยๆ”

เวลานี้ฉินหรูเหลียงกำลังจะไป เฉินเสียนเดินมาด้านหน้าจับที่ปลายเสื้อของเขาไว้ กล่าวอย่างเด็ดขาดแน่วแน่ว่า “ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ท่านพูดออกมาให้ชัดเจนเลยนะ”

ลางสังหรณ์บอกเธอว่า ฉินหรูเหลียงไม่ใช่ผู้ที่สองจิตสองใจ เขาเอ่ยปากลองทดสอบหยั่งเชิงเธอเช่นนี้แล้ว ชัดเจนว่ามีเรื่องเกิดขึ้น

ฉินหรูเหลียงกล่าวว่า “ข้าจะไปสืบถามสักหน่อย กลับมาแล้วค่อยบอกท่าน”

“ท่านได้ยินข่าวลืออะไรแล้วใช่หรือไม่? เจ้าน่องน้อยป่วยอีกแล้วหรือ? ”เธอกลืนน้ำลายลงคอ มีอาการสั่นเทาเล็กน้อย “หรือว่า ซูเจ๋อ?”

ฉินหรูเหลียงเงียบ

ในใจของเฉินเสียนยืนยันแล้วมากกว่าครึ่ง กัดฟันกรอดแล้วกล่าวว่า “หากท่านไม่รีบบอกข้า เขาทั้งสองคนไม่ว่าผู้ใดมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ต่อไปนี้ข้าจะไม่ให้อภัยท่านตลอดไป”

กระตุ้นเขาเช่นนี้ กดดันเขา เขาก็จะบอกกับเธอเอง

เป็นอย่างที่คิดไว้ หลังจากนั้นฉินหรูเหลียงกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ถึงอย่างไรไม่ช้าก็เร็วก็ไม่สามารถปิดท่านได้ เป็นซูเจ๋อ”

“เขาเป็นอันใดหรือ?”

“ในราชสำนักมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ยื่นมติไม่ไว้วางใจซูเจ๋อ บอกว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกขายชาติบ้านเมือง เป่ยเซี่ยสอดแทรกหาตำแหน่งหน้าที่ให้เป็นสายลับที่ต้าฉู่ ได้มีการขอร้องให้ตรวจสอบอย่างเข็มงวด ”เขาก้มศีรษะลงมองมือที่จับปลายเสื้อตัวเอง หลังมือขาวผ่องมีเส้นเอ็นนูนปูดขึ้นมา ข้อต่อบิดแน่นจนซีด ขมวดคิ้วกล่าวขึ้นว่า “เขาถูกรื้อค้นเรือนและริบทรัพย์แล้ว ตอนนี้กำลังส่งไปที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่”

องค์จักรพรรดิไม่สนใจจวนฉินเป็นเวลาชั่วคราว ที่แท้เป็นเพราะจิตใจมุ่งมั่นอยู่บนตัวของซูเจ๋อ

เรื่องเกิดอย่างกะทันหัน ทำให้คนเตรียมป้องกันได้ยาก

สถานการณ์ในราชสำนักราวกับกระแสน้ำลึกไหลทะลัก ตอนนี้มีผู้มุ่งตรงริเริ่มพลิกตามกระแสน้ำ

สมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกขายชาติบ้านเมืองเป็นความผิดร้ายแรง เวลานั้นองค์จักรพรรดิสั่งให้คนเดินทางไปรื้อค้นเรือนและริบทรัพย์ในเรือนของซูเจ๋อ แล้วรับสั่งให้นำซูเจ๋อไปที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่ โดยเฮ่อฟั่งเป็นประธานผู้พิพากษา และสอบถามอย่างจริงจังไม่ได้เพราะเกรงจะไปกระทบกระเทือนต่อพวกพ้อง

เวลานี้ราวกับมีผู้เดินออกมาขอความเมตตาแทนเขา เป็นสหายฝ่ายเดียวกัน

บัณฑิตถูกรื้อค้นเรือนและริบทรัพย์

นี่ก็เป็นเรื่องราวที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่บริเวณใกล้เคียงบอกต่อกัน แต่ทว่าเรื่องราวอย่างละเอียดนั้นคนนอกไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

โชคดีที่เมื่อก่อนฉินหรูเหลียงนับว่ามีมนุษย์สัมพันธ์ดีอยู่บ้าง เลยเพิ่งจะได้รับข่าวนี้

หลักเหตุผลสติปัญญาบอกเขา ว่าเขาไม่ควรที่จะบอกเรื่องนี้กับเฉินเสียน

แต่ก็เก็บข่าวร้อนแรงนี้ไว้ไม่ได้ ปิดเฉินเสียนได้ชั่วคราว และไม่สามารถปิดเฉินเสียนได้ชั่วชีวิต เขากลัวมาโดยตลอด กลัวว่าจะทิ้งความเสียดายและสำนึกผิดให้เฉินเสียนชั่วชีวิต

ด้านนอกแสงของท้องฟ้าแสบตาเกินไปแล้ว ทำให้เฉินเสียนรู้สึกแสบตาจนลายตา คนทั้งคนถูกให้อยู่ในที่ว่างเปล่าชะงักเป็นเวลาสั้นๆ

หนังสือที่อยู่ในมือไม่รู้ว่าล่วงไปอยู่ที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ หน้าที่ถูกลมพัดผ่านนั้น มีคำเขียนของซูเจ๋อหลงเหลืออยู่ ตัวอักษรชัดเจน ราวกับเขาที่หล่อเหลางดงาม

เธอมีสติกลับมาทีละน้อย ค่อยๆเอี้ยวตัวลงเก็บหนังสือขึ้นมา ศีรษะหนักแต่เท้าเบา มีเสียงในหู แต่ทว่าสมองเข้าใจกระจ่างอย่างไม่มีอะไรมาเทียบได้ ใจของเธอเข้าใจอีกด้วยว่าองค์จักรพรรดิไม่สามารถทำอะไรเธอได้ เพราะฉะนั้นเลยเอาซูเจ๋อมาลงมือก่อน

องค์จักรพรรดิต้องการรีบทำลายล้างอย่างเด็ดขาด วางแผนจะกำจัดคนข้างกายของเธอ ไม่ให้มีผู้ใดมายืนอยู่ข้างกายของเธอได้อีกอย่างเด็ดขาด

เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่เป็นมงคลนานแล้ว ครั้งนี้ซูเจ๋อช่วยชีวิตเธอออกมาจากใต้ปากมีดขององค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิจะวางมือยุติเรื่องราวปล่อยเขาไปได้อย่างไรกันเล่า

แต่เธอเชื่อใจซูเจ๋อเกินไป และก็เชื่อใจความโชคดีเกินไป

อยากจะเล่นงานผู้ใดย่อมมีเหตุผลเสมอ องค์จักรพรรดิต้องการลงมือกับเขา ต่อให้มีความโชคดีก็หนีไม่รอด

ศาลยุติธรรมต้าหลี่นั่นคือสถานที่อะไร แม้ว่าเฉินเสียนจะไม่เคยไป แต่ฉินหรูเหลียงเคย ตอนที่เขากลับมาสถานการณ์สภาพเป็นอย่างไรล่ะ รอยฟกช้ำมากมาย!

คล้ายดั่งเฉินเสียนไม่กล้าคิด หลังจากที่ซูเจ๋อเข้าไปในสถานที่นั้นแล้ว ออกมาจะมีสภาพเป็นอย่างไรกันเล่า หรือไม่ก็ เขาจะได้ออกมาอีกหรือไม่?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี