“เฮ่อฟั่งค่อนข้างใจร้อน วันนั้นเขาเข้ามาและใช้เครื่องทรมานนิดหน่อย” ซูเจ๋อกล่าว “ถูกโบยแค่ยี่สิบครั้งถือว่าเล็กน้อย ข้ายังทนได้ อาเสียนอย่าห่วงไปเลย เลือดหยุดไหลไปนานแล้ว ตอนนี้ไม่รู้สึกเจ็บแล้วด้วย”
ถูกโบยยี่สิบครั้ง... เฉินเสียนหูอื้อไปชั่วขณะ
ยากที่เธอจะจินตนาการได้ว่าสภาพตอนที่ซูเจ๋อถูกทรมานนั้นเป็นเช่นไร เฮ่อฟั่งลงมืออย่างไร้ซึ่งความเมตตา แส้ที่โบยลงมาบนตัวซูเจ๋อจะต้องทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส เลือดหยดลงมา...
น่าเสียดายที่เธอเพิ่งจะมารู้วันนี้ เธอเจ็บปวดหัวใจราวกับว่าเลือดเนื้อของเธอถูกโบยด้วยแส้
“ทำไมพวกเขาไม่บอกข้า ผู้พิพากษาศาลยุติธรรมต้าหลี่ไม่เห็นบอกข้าว่าท่านได้รับบาดเจ็บ... ไม่มีใครพูดถึงเลย...”
“ก็แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ได้หนักหนาอะไร”
“หลังจากนั้นล่ะ เฮ่อฟั่งได้ลงมือกับท่านอีกหรือไม่”
“ต้องขอบคุณอาเสียน หลังจากนั้นเขาก็ไม่มีเวลามาลงมือกับข้าอีก”
“เฮ่อฟั่ง” เฉินเสียนเอ่ยอย่างเคียดแค้น “บาดแผลที่เขาทำไว้กับท่าน วันข้างหน้าข้าจะเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า ข้าอยากจะหั่นเขาให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น”
ซูเจ๋อตกตะลึง เพราะทันใดนั้นหยดน้ำอุ่นๆ ก็ไหลลงมาจากเบ้าตาของเฉินเสียนและหยดลงบนหลังมือของเขา ทำให้หัวใจของเขาร้อนรุ่ม
เฉินเสียนกัดฟันกรอด ก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่ลำคอ เธอก้มหน้าลงอย่างถือทิฐิ แต่น้ำตากลับไหลรินลงมาไม่หยุดเหมือนเส้นด้ายขาดๆ
เธอแสร้งทำเป็นโหดร้ายและหยาบคาย แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ทนไม่ไหว
ไม่ว่าซูเจ๋อจะเช็ดน้ำตาให้เธออย่างไร เธอก็หยุดน้ำตาของตัวเองไม่ได้
ซูเจ๋อถอนหายใจเบาๆ และเอ่ยว่า “วันที่บุกค้นบ้าน คิดๆ ดูแล้วข้าไม่ควรสวมชุดสีขาวเลย ถ้าใส่ชุดสีดำท่านคงจะมองไม่เห็นคราบเลือดเหล่านี้”
เฉินเสียนกุมมือของเขาไว้แน่นและแนบไว้บนใบหน้าของตนเอง เมื่ออยู่ต่อหน้าซูเจ๋อ เธอขดตัวเล็กน้อยและสะอื้นไห้ด้วยความทุกข์ใจ
เธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวมากยามที่ยังไม่เจอซูเจ๋อ แต่ตอนนี้เมื่อเจอเขาแล้ว แนวป้องกันทั้งหมดที่มีกลับพังทลายลง
ฉินหรูเหลียงไม่อยากจะเห็นภาพตอนที่เฉินเสียนกับซูเจ๋อได้พบกันอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงพยายามไม่มองและพยายามไม่สนใจ เขานั่งหันหลังให้พวกเขาอยู่คนเดียวที่โต๊ะ ทำเสมือนว่าตนเองเป็นมนุษย์ล่องหน
เฉินเสียนใช้ชีวิตอย่างไรในช่วงหลายวันมานี้ ฉินหรูเหลียงได้เห็นด้วยตาของตัวเอง นอกจากนี้เขายังคอยอยู่เป็นเพื่อนเธอเสมอ
เธอปิดกั้นตัวเองกับเขาด้วยเปลือกนอกที่แข็งแกร่งจนแทบไม่มีทางทำลาย เธอวิเคราะห์สถานการณ์ด้วยความสุขุมเยือกเย็นและจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างดี ทั้งหมดก็เพื่อช่วยซูเจ๋อ
ตั้งแต่ซูเจ๋อถูกจองจำจนถึงก่อนหน้านี้ เฉินเสียนไม่เคยหลั่งน้ำตาเลยแม้แต่หยดเดียว
แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้อย่างอัดอั้นตันใจของเธอ ได้ยินเธอร้องไห้เหมือนกับเด็กเล็กๆ ต่อหน้าซูเจ๋อ ฉินหรูเหลียงก็รู้สึกเจ็บปวดในหัวใจขึ้นมา มือทั้งสองข้างที่วางอยู่บนโต๊ะค่อยๆ กำเข้าหากันแน่น
ผู้หญิงคนนี้จะเปิดเผยด้านที่อ่อนโยนที่สุดของเธอเมื่ออยู่ต่อหน้าซูเจ๋อเท่านั้น
และมีเพียงซูเจ๋อเท่านั้นที่ทำให้เธอวิ่งวุ่นไปทั่วทุกหนทุกแห่งได้โดยไม่ยอมหยุดพัก ทำให้เธอร้องไห้ได้ไม่หยุดเหมือนอย่างเช่นตอนนี้
ความอ่อนโยนดั่งสายน้ำของเธอล้วนมีไว้ให้ผู้ชายที่ชื่อซูเจ๋อแต่เพียงผู้เดียว
ฉินหรูเหลียงรู้สึกขมขื่น หัวใจเหมือนถูกบีบรัดอย่างแรง เมื่อไม่มีที่ให้หายใจ ทุกอย่างกลับผ่อนคลายลง
ยังมีอะไรที่เจ็บปวดไปกว่านี้อีก?
มือที่กำหมัดแน่นค่อยๆ คลายออก เขาคิดว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ายิ่งนักที่ทำให้เฉินเสียนได้ร้องไห้อย่างปลดปล่อยในอ้อมกอดของชายผู้หนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...