เฉินเสียนที่เตรียมจะสู้ให้ถึงที่สุดพลันรู้สึกสับสนไปชั่วอึดใจ หลังจากเธอตอบสนองได้ หัวใจของเธอก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา——ซูเจ๋อรอดแล้ว
เฉินเสียนกล่าวอย่างเงียบขรึมว่า "ต้องถ่วงเวลาให้ผ่านอู่สือซานเค่อนี้ไปก่อน"
ฉินหรูเหลียงที่ยืนอยู่ด้านข้างถามว่า "หากจักรพรรดิยังคงประหารชีวิตเขาล่ะ?"
"งั้นก็ฆ่าทุกคนในลานประหาร" เธอเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ หากแต่แววตากลับฉายไอสังหารออกมา
เวลาค่อยๆผ่านไป ไม่นานก็จะถึงเวลาอู่สือซานเค่อแล้ว ทว่าราชวังยังไม่ได้ส่งคนมาเลย
หัวหน้าตรวจการในลานประหารดูเวลา จากนั้นก็หยิบป้ายสั่งประหารขึ้นมาหนึ่งแท่ง
ยามที่เขายกมือ เฉินเสียนก็หรี่ตาทำท่ายกมือขึ้นมาอย่างช้าๆ
หัวหน้าตรวจการยังไม่ทันโยนป้ายสั่งประหารก็โดนธนูยิงใส่ที่คอ โดยไม่รู้ว่ามาจากไหนกะทันหัน
ลานประหารเงียบกริบไปชั่วอึดใจ จากนั้นทหารก็ชักดาบออกมาตะโกนว่า "มีนักฆ่าชิงตัวนักโทษ——"
ชัวพริบตาประชาชนพากันแตกตื่น ร้อนรน สถานการณ์ชุลมุนวุ่นวาย
ทหารพร้อมใจกันโอบล้อมลานประหารไว้อย่างไม่ให้มีจุดรั่วไหล
ทหารรายหนึ่งวิ่งไปยังหัวหน้าตรวจการ พลางดูธนูอันคมแหลมที่แทงอยู่ในคอ แล้วหันหน้าชี้ไปยังอาคารสองชั้นที่เยื้องออกไป พลางกล่าวว่า "ธนูมาจากทางนั้น"
จากนั้นก็มีทหารกลุ่มหนึ่งไปสกัดล้อมรอบอาคารเรือนนั้น
ยังไม่ทันได้ต่อสู้ นักฆ่าปิดหน้าชุดดำก็บินลงมาจากชั้นสอง ในมือถือธนู ระหว่างที่ยังอยู่กลางอากาศ เขาได้ยิงธนูติดต่อกันหลายดอก จากนั้นก็วิ่งหนีไปยังทิศทางหนึ่ง
เหล่าทหารด้านล่างก็ไล่ตามอย่างไม่ลดละ
เฉินเสียนยืนอยู่ด้านล่างลานประหารที่กำลังชุลมุนว่นวาย เธอมองใบหน้าซูเจ๋อที่อยู่ในลานประหารไม่ชัดเจน ทว่าร่างชุดขาวที่เปื้อนเลือดชัดเจนและเงียบสงบ
ผู้ตรวจการลานประหารสั่งได้ครึ่งทางก็เสียชีวิตแล้ว เพชฌฆาตไม่รู้ว่าควรปฏิบัติหน้าที่อย่างไรต่อ
หัวหน้าองครักษ์เป็นคนของจักรพรรดิ ได้รับคำสั่งจากนายเหนือเกล้าว่าต้องเห็นซูเจ๋อนองเลือดในลานประหารกับตาตัวเอง ดังนั้นเขาจึงเอาป้ายคำสั่งประหารชีวิตโยนใส่พื้น พลางตะโกนกล่าวว่า "ประหารต่อ"
สถานการณ์เช่นนี้ เพชฌฆาตก็ไม่ทำพิธีดื่มสุราบูชาดาบแล้ว เขายกดาบที่แสบตาระยิบระยับ เมื่อเล็งเป้าหมายเสร็จก็เตรียมจะลงมือ
เฉินเสียนยกมือทำท่าอีกครั้ง
นักฆ่าชุดดำไม่ได้ลงมือด้วยความใจร้อน หากแต่เป็นการเล็งให้ตรงเป้าเสียก่อน
จากนั้นลูกธนูอันแหลมคมก็ยิงมาอีกทิศทางหนึ่ง พลางปัดลงกลางอกเพชฌฆาตอย่างแม่นยำ
เพชฌฆาตคำรามด้วยความเจ็บปวดก่อนจะทิ้งตัวลงไปกองกับพื้น
เวลานี้ทหารจึงรู้ว่าไม่ได้มีผู้ชิงตัวนักโทษเพียงคนเดียว
จากนั้นนักฆ่าชุดดำก็กระโดดลงจากชั้นสอง ล่อทหารไปอีกหนึ่งกลุ่ม
เฉินเสียนกำมือไว้แน่น ถึงแม้จะไม่แสดงอารมณ์ทางใบหน้า ทว่าในใจเธอที่กำลังคำนวณเวลาอยู่กลับตึงเครียดเป็นอย่างยิ่ง
หากในวังมีข่าวประกาศ เวลานี้น่าจะมาถึงแล้ว
น่าจะใกล้ถึงแล้ว
ฉินหรูเหลียงดึงตัวเฉินเสียนหลบไปด้านข้าง พลางกล่าวว่า "เฉินเสียน ที่นี่ไม่ปลอดภัย"
ไม่ว่าอย่างไรเฉินเสียนก็ไม่ยอมจากไป เธอไม่มีทางอนุญาตให้ร่างชุดขาวหลุดออกจากสายตาเธอเด็ดขาด
หากนักฆ่าไม่เพียงพอ เธอก็พร้อมที่จะถือดาบพุ่งเข้าลานประหารแล้วเริ่มการเข่นฆ่าอย่างไม่ลังเล
แม่นมซุยกล่าว "ท่านราชบุตรเขยรีบพาองค์หญิงไปเถอะ บ่าวจะไปช่วยเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...