ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 436

เฉินเสียนวิ่งรวดเดียวจนถึงพระตำหนักไท่เหอ แสงเปลวไฟจากคบเพลิงในวังส่องสว่างสั่นไหว ลานโล่งหน้าพระตำหนักเต็มไปด้วยคราบเลือด ราวกับว่าเพิ่งผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดมา

จระเข้ในทะเลสาบดูคึกคักตื่นเต้นเป็นอย่างมาก กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วทะเลสาบ ชุดเกาะและเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ขาดวิ่นของเหล่าทหารลอยละลิ่วอยู่บนผิวน้ำ

คนที่ต่อสู้แล้วตกลงไปในน้ำ ก็คงจะถูกจระเข้กินจนอิ่มไปหนึ่งมื้อ พวกมันรู้รสชาติอาหารเป็นอย่างดี จนกระทั่งตอนนี้พวกมันก็ยังไม่ยอมหยุดคลั่ง

รอบๆ เต็มไปด้วยสายตาของจระเข้ที่กำลังจ้องมองอยู่ เหล่าบรรดาพระสนมและนางกำนัลของพระตำหนักไท่เหอต่างพากันอกสั่นขวัญผวาไปหมด คนที่ยืนอยู่ใกล้ขอบข้างๆ พวกจระเข้ก็พากันกระโดดขึ้นจากน้ำแล้วคลานขึ้นมาบนฝั่ง เหล่าบรรดาพระสนมและนางกำนัลต่างพากันตะโกนกรีดร้องเสียงแหลมด้วยความตกใจ

เฉินเสียนวิ่งข้ามสะพานไม้อย่างรวดเร็ว ตรงเข้าไปหานางกำนัลที่ดูแลและติดตามเจ้าน่องน้อย แล้วถามขึ้นทันทีว่า : “เจ้าน่องน้อยล่ะ?”

นางกำนัลตกใจกลัวสีหน้าท่าทางของเฉินเสียนเป็นอย่างมาก ใบหน้านั้นช่างแตกต่างจากสีหน้าที่อ่อนโยนของเมื่อกลางวันที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง สิ่งเดียวที่ปรากฏต่อสายตาของนางกำนัลในตอนนี้ก็คือนกล่าเหยื่อและอารมณ์ที่เดือดจัด

คนในวังส่วนใหญ่ไม่มีผู้ใดเคยเห็นหน้านี้ของเธอ

นางกำนัลต่างรู้สึกว่าเธอนั้นน่ากลัวกว่าจระเข้ในน้ำเป็นไหนๆ จึงรู้สึกตกใจเข้าไปใหญ่อีก นางกำนัลพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว ทำได้เพียงชี้นิ้วเข้าไปข้างในเรือนด้วยความอึ้ง

เฉินเสียนปล่อยมือจากนางทันที จากนั้นเธอก็วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเปิดประตูเข้าไป ข้างนอกเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงวุ่นวาย แตกข้างในนี้กลับเงียบสงบมาก

เจ้าน่องน้อยนั่งอยู่บนเตียง ในมือของเขากำลังเขย่ากลองป๋องแป๋งเล่น เฉินเสียนเป็นคนซื้อของเล่นชิ้นนั้นให้เขาเมื่อตอนกลางวันที่ผ่านมา

เขาไม่มีอาการตกใจแม้แต่นิดเดียว แต่กลับกำลังเล่นคนเดียวอย่างสบายใจ ใบหน้าที่อ่อนนุ่มนั่น เผยให้เห็นถึงความนิ่งและสงบที่ครุมเครือ

ราวกับว่าเขานั้นอารมณ์ดีไม่น้อย

เจ้าน่องน้อยเงยหน้าขึ้นมาเห็นเฉินเสียน ก็ยิ้มแป้นให้เธอทันที เผยให้เห็นฟันน้ำนมที่ยังเรียงไม่ครบ เขาชูมืออ้อนให้เธออุ้ม

เฉินเสียนเดินเข้าไปหาช้าๆ อุ้มเขาขึ้นมากอดแนบแน่น รู้สึกเพียงว่าหัวใจหลอมละลายไปหมดแล้ว เธอพูดขึ้นพึมพำว่า : “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

เฉินเสียนปฏิเสธความคิดของเธอก่อนหน้านี้ไปอย่างสิ้นเชิง

หากว่าองค์จักรพรรดิเป็นคนจัดแจงสร้างละครฉากนี้ขึ้นมาจริงๆ คนในวังล้วนเป็นคนของเขาทั้งสิ้น เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าน่องน้อยยังปลอดภัยดีแบบนี้ แต่หน้าวังกลับต่อสู้อย่างดุเดือด

เป็นไปได้ว่าอาจจะมีนักฆ่าจริงๆ

เวลาต่อมา เฉินเสียนก็ได้ไปสอบถามนางกำนัล นางกำนัลจึงเล่าว่า นักฆ่าคนนั้นเข้ามาในห้องของเจ้าน่องน้อย เขาตั้งใจจะพาเจ้าน่องน้อยไป แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ออกจากพระตำหนักไท่เหอแห่งนี้ ก็ถูกทหารเวรยามเจอเข้า นักฆ่าเห็นว่าสถานการณ์ถูกเปิดเผย จึงทิ้งเจ้าน่องน้อยไว้แล้วรีบหนีไปทันที

เฉินเสียนอึ้งไปในทันที

ไม่ได้มาเพื่อฆ่าเจ้าน่องน้อย แต่มาเพื่อจับเจ้าน่องน้อยอย่างนั้นหรือ?

เธอหันไปดูสีหน้าท่าทางของเจ้าน่องน้อย ก็เห็นว่าเขาไม่ได้มีอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย จึงเริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมา

เพียงแต่ว่านางกำนัลเหล่านั้นต่างก็คุ้นชินกับสีหน้าท่าทางแบบนี้ของเขาไปแล้ว เพราะไม่ว่าสถานการณ์อะไร สีหน้าท่าทางของเจ้าน่องน้อยก็เป็นแบบนี้เสมอ

ข้างนอกนั่นเละเป็นจุณไปแล้ว แต่เขากลับไม่มีอาการกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว

แต่เฉินเสียนกลับรู้สึกว่าเจ้าน่องน้อยถึงแม้จะเงียบ แต่เขาไม่ได้โง่ เขาเองฉลาดมากต่างหาก หากว่ามีนักฆ่าที่เหี้ยมโหดเข้ามาเพื่อจะจับตัวเขาไป แม้ว่าเขาจะไม่ร้องไห้ ก็ควรจะส่งเสียงออกมาสักหน่อย

แต่แล้วเขากลับไม่ร้องไห้และไม่ส่งเสียงอะไรออกมาเลย ข้างนอกเข่นฆ่ากันขนาดนั้นแล้ว เขากลับร่าเริงปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเฉินเสียนกลับเห็นว่าเขาดีใจขึ้นมาเสียอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี