เฉินเสียนเอ่ย“ที่บ้านของซูเจ๋อก็มีเข้ามาค้นหาเช่นกัน ซูเจ๋อนั้นได้รับเจ็บไม่น้อย โชคดีที่ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย”
โชคดีที่เมื่อคืนเธอกระโดดลงจากรถม้า ไม่เช่นนั้นอาการบาดเจ็บของซูเจ๋อ ก็ไม่มีใครรู้ได้ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร
ฉินหรูเหลียงได้ฟังเฉินเสียนพูดพรรณนาออกมาด้วยน้ำเสียงที่ปกติ แสดงว่าเมื่อคืนคงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แม้จะไม่รู้ว่าเธอนั้นจะใช้วิธีการอะไรในการหลบซ่อน
ฉินหรูเหลียงก็ตัดสินใจที่จะไม่ถาม เกรงว่าถ้าเขาได้รู้ขั้นตอนการหลบซ่อนนั้น มันอาจจะทำให้เขาเจ็บปวดใจได้
ฉินหรูเหลียงพูดอย่างเย็นชาว่า“ท่านเป็นห่วงแต่ซูเจ๋อ ทำไมท่านถึงไม่ห่วงที่ตัวเองไม่ได้อยู่ที่จวนเมื่อคืนนี้ ถ้าเกิดองครักษ์วังหลวงค้นหาแล้วไม่เจอท่าน ผลมันจะเป็นเช่นไร?”
เฉินเสียนกล่าว “เจ้าไม่ได้โง่ ที่จะไม่เรียกอวี้เยี่ยนหรือแม่นมซุยมานอนแทนที่บนเตียงของข้าเลยรึ? ห้องนอนขององค์หญิง เมื่อคิดๆแล้วองครักษ์วังหลวงคงไม่กล้าที่จะวางอำนาจอะไรมาก ให้พวกเขาได้เห็นแค่ภาพด้านหลังก็พอแล้ว”
ฉินหรูเหลียงเงียบ ปัดแขนเสื้อแล้วพูดว่า “ช่างเถิด พูดเรื่องพวกนี้กับท่าน ก็มีแต่จะทำให้ท่านโกรธ” ตามความเป็นจริง เมื่อคืนเขาก็ทำอย่างที่เธอพูดออกมา
บนถนนที่เงียบเหงา ในช่วงเวลานี้ยังไม่มีคนเดินบนอยู่ถนน
เมื่อเดินผ่านถนนมาสองสาย เพิ่งจะพบกับร้านที่เปิดขายของในยามเช้าเพียงไม่กี่ร้าน
ทั้งสองเข้าไปที่ร้านเพื่อกินข้าวเช้า ตอนออกมาบนท้องถนนก็มีคนค่อยๆทยอยเพิ่มขึ้น
ประชาชนที่อยู่บนท้องถนน ส่วนใหญ่ต่างพูดคุยกันถึงเรื่องหิมะที่ตกอย่างหนักเมื่อคืนนี้ รวมทั้งองครักษ์วังหลวงเข้าค้นหานักฆ่าเป็นเฉพาะบางจวนไม่ได้โจ่งแจ้ง
สุดท้ายนักฆ่าถูกจับกุมตัวได้หรือไม่ได้พวกเขาต่างไม่รู้ ไม่เช่นนั้นย่อมไปรบกวนทำให้ประชาชนอยู่เป็นไม่สุขอย่างแน่นอน
ในช่วงเช้าตรู่ มีเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยที่ยื่นมติไม่วางใจที่องครักษ์วังหลวงมีพฤติกรรมไม่สมควรเข้ามารบกวนในช่วงเมื่อคืนนี้ เพราะจวนของเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมดนั้นถูกค้นหา ไม่มีใครที่ไม่โดน
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนในพระราชวัง เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ต่างก็เพิ่งจะรู้กันเมื่อเช้าตรู่นี้เอง
เฉินเสียนเดินไป แล้วหยุดถามขึ้นทันทีว่า “ฉินหรูเหลียง เจ้านำเงินมาหรือไม่?”
ฉินหรูเหลียงถาม “ทำไมรึ?”
เฉินเสียนเงยหน้าไปที่ร้านยาบำรุงแล้วเอ่ยว่า “ข้าบอกไว้แล้วว่าจะซื้อยาบำรุงให้เขา ตอนนี้เดินผ่านมาพอดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปมาหลายรอบ ”
ฉินหรูเหลียงเม้มปากแล้วเอ่ยว่า“ท่านจะยืมเงินข้าเพื่อไปซื้อยาบำรุงให้กับผู้ชายคนอื่น?”
“ใช่ คิดว่าข้ายืมแล้วกัน”
“ท่านฝันไปเถิด”
ฉินหรูเหลียงพูดจบก็ก้าวเท้าหนีไป ก้าวเท้าได้สองก้าวก็หันกลับไปมองเฉินเสียนไม่ได้เดินตามมา เธอค่อยๆเดินเข้าไปในร้านยาบำรุงนั่น เวลานั้นเขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมา “ข้าไม่ได้นำเงินมา ท่านยังจะกล้าเข้าไปอีกหรอ!”
เฉินเสียนพูด “เมื่อครู่นี้ตอนที่กินข้าวเช้ากัน ข้ายังเห็นเจ้าควักเงินออกมาอยู่เลย”
ฉินหรูเหลียง “ท่านเห็นแล้วยังจะมาถามข้าว่ามีหรือไม่มีเงินอีกรึ?”
เฉินเสียน “ข้าก็ถามเจ้าไปอย่างนั้น แค่ถามเจ้าเพื่อเป็นมารยาท เจ้ายังจะจริงจังอีก”
ฉินหรูเหลียง “……”
ฉินหรูเหลียงโกรธขึ้นมาจริงจัง เหตุผลที่เขาไม่ควรสนใจเธอในตอนนี้ก็คือเมื่อปล่อยให้เธอเข้าไปในร้านยาใดก็ตาม เพียงแค่เขาไม่ออกเงินให้ก็พอแล้ว
แต่ความเป็นจริงแล้ว สุดท้ายเขาก็ได้แต่ทำสีหน้าไม่ดีแล้วเดินตามเข้าไป ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มารับเฉินเสียนก่อนรุ่งสางหรอก ตอนนี้กลับจะมาทอดทิ้งเธอไว้กลางทาง อะไรคือประเด็นหลักที่เขาลุกขึ้นมาแต่เช้า จุดหมายของการพยายามอย่างหนักนั้นคืออะไร ?
สุดท้ายเฉินเสียนก็ใช้เงินของเขาในการจ่ายค่ายา ซื้อยาแต่กลับไม่ได้นำยากลับไปด้วย สั่งให้คนในร้านนำยาไปส่งให้ที่จวนของซูเจ๋อ
ระหว่างเดินทางกลับ ฉินหรูเหลียงได้แต่ทำหน้าบูดเบี้ยว เฉินเสียนชำเลืองมองเขาแล้วพูดขึ้นว่า“ข้าติดค้างเงินท่านไม่ใช่ว่าข้าจะไม่คืน เจ้าก็ไม่ต้องมาทำหน้าไม่พอใจเช่นนั้นให้ข้าเห็นอีก”
ฉินหรูเหลียงพูด“ ข้าทำหน้าไม่พอใจ ท่านไม่รู้หรือว่าว่าท่านทำเกินไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...