เฉินเสียนพูดขึ้นอย่างเบาว่า“ซูเจ๋อเขา ตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังดูแลไม่ได้เลย แล้วยังจะไปรบกวนอะไรเขาในเวลานี้ วันนี้ข้าแค่เข้าพระราชวัง รอให้เขาอาการดีขึ้นก่อนแล้วค่อยมาปรึกษาหาหรือกัน จักรพรรดิไม่สามารถมากำหนดการเป็นการตายของข้าได้ ดังนั้นจึงคิดหาวิธีทางที่จะกักบริเวณข้าเอาไว้ โชคดีคือข้าจะได้ไปอยู่กับเจ้าน่องน้อย เพียงแค่ได้เข้าใกล้เจ้าน่องน้อย เรื่องราวก็คงไม่เลวร้ายไปกว่านี้”
ฉินหรูเหลียงเม้มปาก หันกลับมามองที่เฉินเสียนแล้วพูดว่า“ที่นั้นคือพระราชวัง เจ้าอาจจะเหมือนกับเจ้าน่องน้อย เมื่อเข้าไปแล้วก็ยากที่จะได้ออกมา”
เฉินเสียนเอ่ย “ถ้าเกิดเข้าไปเผชิญหน้าอย่างรุนแรง นั่นมันยากมาก”เธอหัวเราะให้กับฉินหรูเหลียงเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า“รอให้ข้าได้เข้าไปในพระราชวังก่อน ได้รู้สถานการณ์อย่างแน่ชัด ไม่แน่อาจจะมีวิธีทางหลบหลีกก็ได้และทำให้ข้ากับเจ้าน่องน้อยออกมาได้อยากราบรื่น ”
เมื่อฟังแล้วก็รู้สึกเหมือนสบายใจ แต่ตอนนี้นอกเหนือจากจะปฏิบัติตามพระราชโองการ เธอก็ไม่มีวิธีทางอื่นแล้ว
เฉินเสียนเดินผ่านฉินหรูเหลียง แล้วค่อยๆเดินออกจากโถงบุปผาไป หิมะสีขาวในลานบริเวณเรือนปกปิดภาพเงาของเธอไว้ อ่อนโยนและพร่างพรานสะดุดตา
เธอพูด“ข้ากลับสวนสระวสันตฤดูก่อนนะ”
ทั้งจวนก็ไม่ได้มีคนจำนวนมากอะไร เรื่องที่องค์หญิงจิ้งเสียนกำลังจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ไปประทับอยู่ที่พระราชวัง ไม่นานผู้คนก็รู้กันอย่างทั่วถึง
เมื่อเฉินเสียนเข้ามาในสวนสระวสันตฤดู อวี้เยี่ยนและแม่นมซุยต่างก็เป็นกังวล ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
เฉินเสียนให้พวกเขาไปเก็บข้าวของ ทั้งสองคนจึงเข้าใจว่าครั้งนี้ต้องออกไปจากที่นี่อย่างแน่นอน
อวี้เยี่ยนและแม่นมซุยต่างก็พักอยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้ว สิ่งเล็กๆน้อยต่างๆมากมายที่นี่เป็นพวกเธอที่คอยจัดการดูแล เมื่อบอกว่าจะย้ายออกจากนี้ก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างยิ่ง
อวี้เยี่ยนกำลังเก็บข้าวของของเฉินเสียน เหมือนกับครั้งแรกเมื่อสองปีก่อนตอนที่เฉินเสียนแต่งงานเข้ามาอยู่ในจวนแม่ทัพ ก็นำข้าวของใส่ลงในหีบใบนี้เช่นกัน
สิ่งของเยอะแยะมากมาย หีบนั้นบรรจุของไม่หมด อวี้เยี่ยนที่กำลังปาดน้ำตาในใจก็คิดหาช่องทาง เฉินเสียนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วพูดว่า “เอาเพียงเสื้อผ้าไปเปลี่ยนแล้วซัก ของอย่างอื่นในห้องไม่ต้องเก็บไปหรอก”
อวี้เยี่ยนเก็บข้าวของอย่างลุกลี้ลุกลน เก็บไม่เรียบร้อย แม่นมซุยถอนหายใจแล้วพูดว่า“อวี้เยี่ยน ให้ข้าทำเถอะ”
แม่นำมซุยรับช่วงต่อ เก็บข้าวของอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอวางเสื้อผ้าและเครื่องประดับของเฉินเสียนลงในหีบ เมื่อเห็นหีบยังเหลือที่ว่างอยู่ก็เลือกใส่สิ่งของคุ้มค่าที่น่าจดจำไม่กี่อย่างลงไปด้วย
เธอเก็บของไปด้วยพูดไปด้วยว่า“อวี้เยี่ยนยังเด็ก รับไม่ได้ที่จะต้องออกจากที่นี่ไปอย่างเศร้าเช่นนี้”
เฉินเสียนหยิบหน้ากากออกมาจากกล่องใบเล็ก ใช้นิ้วลูบลงไปอย่างเบามือแล้วส่งให้กับแม่นมซุย พูดขึ้นว่า“เอ้อร์เหนียง นำสิ่งนี้ไปด้วย”
จากนั้นเธอก็นำตุ๊กตาหุ่นกระบอกไม้สองตัวใส่ลงไปในชั้นล่างสุดของหีบ
หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว เฉินเสียนเดินออกจากประตูก็พบกับฉินหรูเหลียงที่ยืนอยู่ในเรือน ไม่รู้ว่าเขามารออยู่นานเท่าไหรแล้ว
เขามองมาอย่างนิ่งๆ แม่นมซุยนำสิ่งของที่เป็นความทรงจำของเฉินเสียนใส่ลงไปในหีบทีละเล็กน้อย เหลือไว้เพียงสิ่งของที่ไม่สำคัญ
เฉินเสียนเดินออกมานอกชายคาแล้วพูดว่า“เจ้ามาได้อย่างไร เจ้าวางใจเถิด ข้าจะไม่จากไปโดยไม่บอกลาเจ้าหรอก ก่อนจากไปข้าต้องไปบอกกับเจ้าอยู่แล้ว”
ฉินหรูเหลียงเงียบไปอยู่นาน จึงพูดขึ้นว่า“ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถขัดขวางท่านไว้ได้ ตอนนี้ข้าก็ไม่มีความสามารถที่จะรั้งให้ท่านอยู่ที่ได้”
เฉินเสียนขมวดคิ้ว แต่กลับยิ้ม“เจ้าจะมาสะบัดสะบิ้งเช่นนี้ทำไม ข้าเพียงถูกองค์จักรพรรดิกักบริเวณให้อยู่ในพระราชวังก็เท่านั้นเอง”
ฉินหรูเหลียงถาม“แล้วหลังจากนี้ท่านยังจะกลับมาหรือไม่?ถ้าในอนาคตคำสั่งถูกยกเลิกแล้ว ท่านจะกลับมาหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...