ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 452

ถึงอย่างไรเสีย เฉินเสียนอยู่ที่พระตำหนักไท่เหอทั้งวันก็ไม่มีอะไรทำ ตอนที่เจ้าน่องน้อยออกไปแกล้งจระเข้ เฉินเสียนก็ย้ายหนังสือออกไปข้างนอก มองดูเขาเล่นไปพลางและอ่านหนังสือไปพลาง

เมื่อเฉินเสียนสังเกตเห็นว่าเจ้าน่องน้อยดูไม่ร่าเริง จึงหันหลังกลับไปสั่งแม่นมซุย "เอ้อร์เหนียง ไปหยิบเนื้อในครัวมานี่หน่อย"

พระตำหนักไท่เหออยู่ห่างออกมาจากห้องเคร่ืองหลักในวังค่อนข้างไกล เลยได้จัดตั้งห้องครัวขนาดเล็กขึ้น อาหารกับข้าวในทุก ๆ วันก็ทำกันที่ห้องครัวแห่งนี้ ไม่ต้องส่งมาจากห้องเครื่อง และคนในวังที่อยู่ที่ห้องครัวก็ต้องไปเอาผักผลไม้และเนื้อสดใหม่จากห้องเครื่องหลักกลับมาทุกวัน

เมื่อแม่นมซุยได้ยินจึงกล่าวถาม "องค์หญิงหิวแล้วหรือเพคะ?"

เฉินเสียนทำหน้าเฉยและตอบกลับ "เอาเนื้อสด"

ทันใดนั้นแม่นมซุยก็เข้าใจได้ทันทีว่าเฉินเสียนต้องการทำอะไร กล่าวว่า "องค์หญิง จระเข้ในน้ำก็ดุร้ายมากพอแล้ว หากยังป้อนเนื้อสดให้อีก เกรงว่าจะยิ่งเพิ่มความดุร้ายของพวกมันนะเพคะ"

เฉินเสียนกล่าว "พวกเราไม่ให้กิน คนอื่นก็มาให้กินอยู่ดี จะแตกต่างกันอย่างไร เจ้าไปหยิบมาให้เจ้าน่องน้อยป้อน"

อวี้เยี่ยนและเสี่ยวเฮอต่างก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้เจ้าน่องน้อยไปสัมผัสจับกับสิ่งที่อันตรายเช่นนี้ เฉินเสียนพิงไปที่เก้าอี้ มือก็เคาะลงไปที่เก้าอี้ และกล่าวอย่างสบายใจ "ห้องเรียนก็ไปไม่ได้ พระตำหนักไท่เหอก็ช่างน่าเบื่อหน่าย นอกจากจระเข้พวกนี้แล้ว ยังจะมีอะไรที่พอจะบรรเทาความเบื่อหน่ายได้อีกบ้าง"

แม่นมซุยเข้าใจความหมายที่เฉินเสียนพูดออกมา และกล่าวว่า "ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทำจริง ๆ บ่าวจะไปหยิบเนื้อสดมา เพียงแค่อย่าให้จระเข้ขึ้นมาบนพื้นดิน ก็น่าจะไม่มีอะไรเพคะ"

อวี้เยี่ยนกระทืบเท้าและกล่าว "เอ้อร์เหนียง ทำไมท่านถึงตามใจให้องค์หญิงทำเรื่องที่อันตรายเช่นนี้!"

แม่นมซุยละเอียดอ่อนใส่ใจ สับเนื้อและกระดูกให้ละเอียดก่อนที่เอาออกมา เพื่อป้องกันการที่เจ้าน่องน้อยยกไม่ขึ้น

เจ้าน่องน้อยกำลังเฝ้ารอคอย เมื่อเห็นว่าแม่นมซุยเดินกลับออกมา แววตาน้อย ๆ ก็จับจ้องไปที่เนื้อสีแดง ๆ ขาว ๆ ในมือของแม่นมซุยอย่างจดจ่อ แม่นมซุยวางเนื้อสดไว้ข้าง ๆ เจ้าน่องน้อยยื่นมือออกมาหยิบกำเล็ก ๆ หลายชิ้น

จระเข้ในน้ำที่กำลังหิวโหยน้ำลายหก ต่างพากันมาเฝ้ารออย่างเนืองแน่นที่ด้านหน้าของเจ้าน่องน้อย

ขณะที่โรยเนื้อสดลงไป จระเข้ต่างก็แย่งชิงกันอย่างน่าตกใจ

จระเข้เหล่านี้มีความปรารถนาอันยาวนาน และมันก็ไม่ไร้ประโยชน์ที่พวกมันถูกเจ้าหมีน้อยคนนี้แกล้งเล่นทุกวัน และตอนนี้ก็ได้ลิ้มรสเนื้อสดเสียที

ครั้งแรกจะรู้สึกแปลก แต่พอครั้งที่สองก็จะเกิดความคุ้นเคย เจ้าน่องน้อยมาให้อาหารจระเข้กินทุกวัน ถึงแม้ว่าไม่สามารถทำให้พวกมันอิ่มได้ แต่ก็ยังดีกว่าแต่ก่อนที่ต้องหิวโทรม

อีกทั้งจระเข้พวกนี้สามารถอดทนกับความหิวได้เป็นอย่างดี เหตุที่ทำให้พวกมันดุร้าย ก็เป็นเพราะความตะกละของพวกมัน

หลังจากกำจัดความตะกละของพวกมันแล้ว อารมณ์ความหงุดหงิดของจระเข้ก็นับว่าดีขึ้น ทุก ๆ วันที่เจ้าน่องน้อยออกไปนั่งข้าง ๆ ทะเลสาบ จระเข้ต่างก็ว่ายน้ำกันเข้ามาอย่างอ่อนโยนเพื่อมารอคอยเนื้อสด

เมื่ออวี้เยี่ยนและเสี่ยวเฮอและคนอื่นเห็นเข้า ดูเหมือนว่าจะไม่ได้น่ากลัวและอันตรายอย่างที่คาดการณ์ไว้ตอนแรก แต่กลับทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ดูสงบลงกว่าแต่ก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงช่วยเจ้าน่องน้อยสับกระดูกและเตรียมเนื้อสดอย่างขยันขันแข็ง

คนในวังคนอื่น ๆ ต่างก็หวาดกลัวจระเข้ในทะเลสาบอย่างมาก มาตอนนี้เมื่อเห็นว่าจระเข้ต่างก็สงบเรียบร้อย พวกเขาจึงทำเป็นเมินเฉยไม่รู้ไม่เห็นต่อเรื่องที่เจ้าน่องน้อยให้อาหารจระเข้ ทุก ๆ วันที่ไปรับเสบียงเนื้อจากห้องเครื่องหลัก ก็มักจะพยายามนำเนื้อกลับมาให้ได้มากที่สุดภายในขอบเขตความสามารถของพวกเขา

ผู้ควบคุมห้องเครื่องหลักเห็นเข้าและถามว่า "เจ้านายที่พระตำหนักไท่เหอ เสวยแต่เนื้อทุกมื้อเลยหรือ ทำไมช่วงสองสามวันนี้เอาไปเยอะขนาดนี้?"

คนในวังตอบ "ในหนึ่งมื้ออาหารองค์หญิงจิ้งเสียนสามารถเสวยไก่ไปได้ทั้งตัว ส่วนท่านชายน้อยก็กำลังอยู่ในช่วงเจริญวัย ข้าน้อยเลยจัดเตรียมให้มากที่สุด"

ผู้ควบคุมห้องเครื่องหลักคนนี้เป็นคนผิวขาว อ้วน ใจดี ในใจก็คิดว่าในวังก็ไม่ได้ขาดแคลนสิ่งเหล่านี้ เลยปล่อยให้พวกเขาหยิบเอาไปเท่าที่ต้องการ ถึงอย่างไรของพวกนี้ก็เป็นของที่เหลือจากการคัดเลือกมาก่อนหน้านี้แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี