ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 47

เฉินเสียนยื่นมือออกไป ลูกแมวตัวน้อยก็ตื่นกลัวมาก เธอลูบหัวแมวนายอย่างอ่อนโยน เฉินเสียนยิ้มและกล่าวว่า "ไปหยิบอาหารมา"

อวี้เยี่ยนเข้าไปในเรือนครัวพร้อมหยิบหมั่นโถวมาและเอ่ยว่า "ตอนนี้เหลือเพียงเท่านี้เพคะ ไม่ทราบว่าจะกินได้หรือไม่"

เฉินเสียนหยิบหมั่นโถวมาป้อนแมว เดาว่ามันคงหิวและตื่นตระหนก ในตอนแรกก็ต่อต้านอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยกินทีละน้อย

อวี้เยี่ยนยืนขึ้นและเอ่ยว่า "องค์หญิงให้อาหารไปก่อนเพคะ บ่าวจะไปทำโจ๊กให้องค์หญิง"

อวี้เยี่ยนหันหลังกลับและเข้าไปข้างใน ปล่อยให้เฉินเสียนอยู่คนเดียวในลาน

เมื่อฉินหรูเหลียงเข้ามา เขาเห็นเธอนั่งยองๆ อยู่ที่ลาน กำลังให้อาหารแมวตัวน้อยอย่างอดทน ผมบนขมับระลงมาปิดใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา

เธอนั่งยองๆ เป็นเวลานานก็เริ่มรู้สึกชา เธอจึงนั่งบนพื้นโดยไม่สนใจอะไร อุ้มลูกแมวตัวน้อยไว้ในมือข้างหนึ่ง พร้อมกับอาหารในฝ่ามือของเธอ ลูกแมวตัวน้อยกำลังสั่นระริกแต่ก็ยังกินไม่หยุด พลางส่งเสียงร้องครั้งเป็นครั้งคราว

เฉินเสียนยิ้มตาหยี ลูบขนอย่างอ่อนโยน "กินเถอะ รอเจ้ามีแรงแล้วค่อยมาข่วนข้า"

เดิมทีเธอก็มีด้านที่อ่อนโยน แค่ความอ่อนโยนของเธอแสดงออกแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

เมื่อลูกแมวกินอยู่ๆ จู่ๆ ก็กระโดดขึ้นด้วยความตกใจ หนีจากอ้อมแขนของเฉินเสียนและเข้าไปพงหญ้าข้างๆอย่างหวาดกลัว

ทันทีที่เฉินเสียนคิดที่จะลุกขึ้น เธอก็เห็นรองเท้าบู๊ตสีดำคู่หนึ่งตรงหน้าเธอ

เธอมองตามรองเท้าและแหงนหน้าขึ้นสบเข้ากับฉินหรูเหลียงที่ยืนมือไพล่หลังและกำลังมองลงมาที่เธอ

สีหน้าของเขาเย็นชา มองดูเธออย่างดูถูกดูแคลนพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า "ท่านมาทำอะไรที่นี่ในยามราตรีกาลเช่นนี้?"

เฉินเสียนปัดมือของเธอยืนขึ้น เอ่ยตอบว่า "ท่านสามารถมาได้แต่ข้ามิสามารถมาได้หรืออย่างไรกัน?"

ฉินหรูเหลียงหรี่ตา พูดอย่างเย็นชา "หากท่านหิว ท่านสามารถเรียกบ่าวมาเตรียมสำรับให้ท่านได้ ตอนนี้ท่านมาที่นี่ด้วยตัวเอง หรือว่าเพราะท่านรู้ว่ายาของเหมยอู่อยู่ที่นี่และต้องการมาลงมือ?”

เพียงเจอเธอพูดคุยกับเธอ ฉินหรูเหลียงก็อดไม่ได้ที่จะคาดการณ์สิ่งร้ายๆไว้ให้เฉินเสียน มีเพียงแค่แบบนั้น เขาถึงจะเกลียดชังเธอได้อย่างสบายใจ

เฉินเสียนยกริมฝีปากและเอ่ยว่า "ใช่ ข้าจะใส่ยาพิษลงไป"

ฉินหรูเหลียงเห็นด้วยตาของเขาเอง ตั้งแต่เฉินเสียนเข้ามาในเรือนครัวเธอยังไม่ได้เข้าไปในครัว แต่เธอก็ไม่ยอมพ่ายแพ้

แต่เดิมเฉินเสียนไม่ใส่ใจจะตอบกลับเขาเลย เจ้าแมวน้อยก็กลัวจนหนีไปแล้ว เพราะเธอเบื่อหน่ายเต็มทนจนแสร้งเหมือนว่าเขาเป็นเพียงแค่ธาตุอากาศปนเปื้อน และเดินจากไป

ไม่รู้ว่าฉินหรูเหลียงคิดอย่างไรอยู่ จู่ๆก็เอื้อมมือไปคว้าข้อมือของเฉินเสียนเอาไว้

ทันใดนั้นรอยยิ้มขี้เล่นที่มุมปากของเฉินเสียนก็เย็นลง "แม่ทัพฉินจะทำอะไรอีกหรือ?"

ฉินหรูเหลียงจดจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ อดที่จะคิดถึงสตรีที่น่าดึงดูดที่อยู่ภายใต้ดวงจันทราก่อนหน้าไม่ได้ ซึ่งแตกต่างจากผู้หญิงที่น่าเกลียดตรงหน้าอย่างสิ้นเชิง

เขาเม้มปากและเอ่ยว่า "ข้าขอเตือนท่านอย่าเหิมเกริมให้มันมากนัก เหมยอู่เป็นผู้หญิงที่ข้ารัก ท่านอย่าทำให้นางหนักใจหรือทำร้ายนางอีก"

เฉินเสียนหัวเราะอีกครั้งและเอ่ยว่า "นางคือสตรีที่ท่านรัก เกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ? ข้าไม่ใช่แม่ท่าน ข้ายังต้องช่วยท่านดูแลอนุของท่านอีกหรือ?"

ทุกครั้งเธอมักจะทำให้เขาโกรธ

ฉินหรูเหลียงกล่าวอย่างเย็นชา "ตราบใดที่ท่านไม่ทำร้ายนาง ข้าให้สัญญาว่าท่านจะได้กำเนิดลูกออกมา และหลังจากนั้นต่างคนต่างไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุข”

“ทำไมฟังน้ำเสียงของท่านแล้ว ดูเหมือนว่าท่านจะให้ความกรุณาแก่ข้ามากนักล่ะ? น่าเสียดายที่ข้าไม่ต้องการมันแล้ว ตรงกันข้าม ท่านควรดูแลเหมยอู่อย่าให้นางมาหาเรื่องตายอีก แค่นั้นท่านก็จะสามารถอยู่อย่างสุขสงบได้"

ฉินหรูเหลียงพ่นลมอย่างเย็นชาและเอ่ยว่า "ท่านอย่าคิดว่ามีจักรพรรดิเป็นฟางเส้นช่วยชีวิตอยู่แล้วจะมาเหิมเกริมได้นะ? อย่าลืมว่าท่านรอดชีวิตมาได้อย่างไรในตอนแรก หากต้องการให้พระองค์เชื่อในตัวท่านอย่างไม่มีเรื่องแคลงใจอันใด นั่นก็ไม่ต่างจากฝันลมๆแล้ง ข้าแนะนำให้ท่านพึงตระหนักถึงฐานะในตอนนี้..."

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี