ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 487

เฉินเสียนแทบจะหมดแรงหลังจากพูดคำเหล่านั้นออกไป

แต่เธอก็ยังพูดต่อไปว่า “ท่านรู้ตั้งแต่แรกว่าเขาจะถูกส่งไปที่วัง ท่านไม่คิดจะบอกข้า ท่านซ่อนพระราชโองการไม่ให้ข้าเห็น ทั้งยังไม่คิดจะให้ข้ากลับเมืองหลวง ท่านตั้งใจจะให้ข้าทอดทิ้งเขา เพราะท่านตัดสินใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะให้เขาเป็นตัวหมากที่ต้องเสียสละ ถูกต้องหรือไม่”

เล็บของเฉินเสียนจิกแน่นลงบนขอบโต๊ะ ในใจของเธอรุ่มร้อนเหมือนถูกแผดเผาและเธอก็อดร้องไห้ออกมาไม่ได้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสะกดอารมณ์ เมื่อก้มหน้าลง น้ำตาก็รินไหลและหยดลงมาบนหลังมือ

เธอกัดฟันเอ่ยไปว่า “ซูเจ๋อ ในที่สุดท่านก็ยอมรับว่าเขาคือเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านกับข้า เหตุใดท่านจึงทำได้ลงคอ ถ้าท่านไม่ต้องการเด็กคนนี้ ท่านบอกข้าตรงๆ ก็ได้ ข้าจะไม่บังคับท่าน”

สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ทำไมท่านต้องใจดำอำมหิตถึงเพียงนี้”

ซูเจ๋อนิ่งไปครู่หนึ่ง แม้ว่าเฉินเสียนจะบอกไม่ให้เขาเข้าไปใกล้ แต่เขากลับยังเดินหน้าเข้าไปหาเธอ

เฉินเสียนไม่อยากถูกทำให้สับสนด้วยกลิ่นอายของเขา ดังนั้นเธอจึงก้าวถอยหลังไปทีละก้าว

จนกระทั่งหมดหนทางให้ถอยหนี เท้าของเฉินเสียนสะดุดเข้ากับเตียงที่อยู่ข้างหลังและทรุดนั่งลงไปบนเตียงหลังนั้น

กลิ่นอายของซูเจ๋อถาโถมลงมา เธอฟังเขาเอ่ยอย่างเรียบเฉยว่า “ตอนที่ข้าไม่มีอะไรเลย แม้แต่ตัวข้าเองข้ายังยอมสละได้ แล้วนับประสาอะไรกับเจ้าน่องน้อย”

เขายกมือที่เย็นเยียบปาดน้ำตาที่หางตาของเธอ จากนั้นจึงกระซิบอย่างแผ่วเบาว่า “แต่ตอนนี้เมื่อข้ามีมากขึ้น ข้าจึงตระหนักได้ว่าข้าทำไม่ลง ข้ายังตัดใจทิ้งไปไม่ได้”

“ท่านอยากรู้ใช่หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด ไม่ใช่แค่เพราะว่ามันจะทำให้เหลียนชิงโจวเดือดร้อน แต่มันอาจจะทำให้ทรัพย์สินทุกอย่างที่อยู่ในมือของเขาซึ่งมีอยู่ทั่วต้าฉู่ถูกเปิดเผยออกมา” ซูเจ๋อค่อยๆ โน้มตัวเข้าหาเฉินเสียน

“เพราะเหตุใดจึงเปิดเผยไม่ได้น่ะหรือ? ก็เพราะว่าตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มทำการค้า สิ่งที่เขาลงทุนลงแรงไปทั้งหมดก็เพื่อเตรียมให้ท่านมีเสบียงเพียงพอเมื่อท่านต้องออกศึกในภายภาคหน้า เพื่อให้ท่านมีกำลังทรัพย์เพียงพอที่จะทำให้จิตใจของผู้คนสงบและมั่นคงหลังจากต้าฉู่สงบลง”

ราวกับว่าซูเจ๋อกำลังกระซิบคำหวานกับเธอ เขาเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “แม้จะรู้ว่าเจ้าน่องน้อยเป็นลูกชายของข้า แต่ข้าก็ทำได้เพียงส่งเขาเข้าไปในวัง ถ้าเขาเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งที่จะสละทิ้งเมื่อไรก็ได้ก็คงดี”

“อาเสียน ข้าเริ่มรู้สึกเสียใจตั้งแต่ตอนที่ยอมให้ท่านกลับไปที่เมืองหลวง หรืออาจจะเป็นตั้งแต่ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ตอนที่ข้าตั้งชื่อให้กับเขา”

เฉินเสียนเอ่ยปนเสียงสะอื้น “เสียใจอะไร เสียใจที่ปล่อยให้ข้ากลับไปเมืองหลวงงั้นหรือ หรือว่าเสียใจที่ทำให้เราต้องมีชีวิตอยู่เหมือนติดคุกติดตะรางเช่นนี้”

ซูเจ๋อยิ้มอย่างขมขื่นและเอ่ยว่า “ข้าเองก็เพิ่งเคยเป็นพ่อคนครั้งแรก ก่อนหน้านี้ข้าไม่แยแสสิ่งใดเลย ไม่สนใจเลยว่าเลือดจะข้นกว่าน้ำ ไม่สนใจแม้กระทั่งเลือดเนื้อเชื้อไข ข้าสนใจเพียงแต่ท่าน ถ้าถึงเวลาที่จำเป็น ข้าจะละทิ้งเขาอย่างไม่ลังเล”

น้ำตาของเฉินเสียนไหลนอง “ซูเจ๋อ แต่เขาเป็นลูกของท่าน เหตุใดท่านจึงต้องปฏิบัติต่อตนเองอย่างโหดร้ายเช่นนี้เสมอ แค่พูดว่าละทิ้งก็จะละทิ้งกันได้ง่ายๆ”

ซูเจ๋อกล่าวว่า “ท่านถามว่าข้าเสียใจเรื่องอะไร สิ่งที่ข้าเสียใจก็คือการที่ข้าใช้คำว่า ‘ละทิ้ง’ ได้ง่ายเกินไป”

“อาเสียน ข้าไม่รู้ว่าการเป็นพ่อคนต้องทำอย่างไร ในตอนแรกท่านเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าการเป็นแม่คนต้องทำอย่างไร แต่ท่านเรียนรู้ได้เร็วกว่าข้า โชคดีที่ท่านค่อยๆ สอนให้ข้ารู้ เมื่อก่อนเป็นการง่ายสำหรับข้าที่จะทิ้งเขา แต่ต่อไปอาจจะเป็นไปไม่ได้แล้ว”

เห็นได้ชัดว่าเธอควรจะตำหนิและกล่าวโทษเขา แต่ในท้ายที่สุดเธอกลับพบว่าความเห็นใจนั้นมีมากกว่าความแค้นเคือง

ซูเจ๋อพยายามจูบซับน้ำตาบนใบหน้าของเฉินเสียนแต่ถูกเธอเบือนหน้าหนี ริมฝีปากอุ่นๆ จึงเปลี่ยนไปคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเธอ

เฉินเสียนเอ่ยอย่างทุกข์ระทมว่า “ในเมื่อเจ้าน่องน้อยกีดขวางทางของท่าน แปลว่าท่านคงไม่ได้คิดอยากจะมีลูกคนนี้ หากจะบอกว่าท่านไม่ได้ต้องการเด็กคนนี้เลยสักนิดก็คงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริง”

เธอจ้องมองเขาด้วยนัยน์ตาที่แดงก่ำ ทว่าก็ชะงักไปนิดหนึ่งและถามเขาด้วยเสียงที่แหบพร่า “ท่านทำอะไรน่ะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี