หลังจากผ่านบ้านเรือนหลายหลังมาแล้ว ค่ำคืนที่อยู่เบื้องหน้าช่างกว้างไกล หลังจากเข้ามาใกล้เฉินเสียนก็พบว่าเธอและซูเจ๋อมาถึงริมฝั่งแม่น้ำหยางชุนที่คุ้นเคย
แม่น้ำหยางชุนที่กว้างมากและเรือที่มีแสงจ้าจอดอยู่ในแม่น้ำ
เรือนี้ถูกจอดทิิ้งไว้ริมแม่น้ำหยางชุนเป็นเวลาแรมปี และจำนวนครั้งที่สามารถแล่นเรือเพื่อเยี่ยมชมแม่น้ำหยางชุนนั้นหายาก และคืนนี้จะเป็นครั้งแรกของปีนี้ที่เรือลำนี้ได้ออกล่องเรือในยามค่ำคืน
อีกทั้งบนเรือก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ต่างก็เฝ้าดูทิวทัศน์บริเวณโดยรอบจากบนเรือ การล่องเรือชมความงามของแม่น้ำหยางชุนในคืนนี้ บนเรือมีการร้องเพลงและการเต้นรำอย่างสนุกสนาน มันเหมือนสถานที่แห่งชีวิตและความฝันที่เมามาย
เมื่อทั้งสองมาถึงริมฝั่ง และทหารที่ตามมาก็หลุดพ้นไปหมดแล้ว ซูเจ๋อกุมมือของเฉินเสียนไว้ และเดินเล่นไปตามแนวทอดยาวริมฝั่งแม่น้ำหยางชุน เพื่อรอขึ้นเรือ
ค่ำคืนที่เงียบสงบ ต้นหลิวสองริมฝั่งที่แตกกิ่งก้านออกมาใหม่ เผยให้เห็นเงาของต้นไม้ที่สง่างามอย่างแผ่วเบา กระพือเล็กน้อย
หลังจากขึ้นเรือ มีนักท่องเที่ยวไม่น้อยอยู่บนดาดฟ้ากว้างของหัวเรือมองดูดวงจันทร์ในยามค่ำคืน ซูเจ๋อและเฉินเสียนกุมมือประสานกันไว้ เสมือนราวกับคู่รักธรรมดาเดินผ่านผู้คนเพื่อเข้าไปยังประตูลับ และเดินดูรอบ ๆ ก่อนที่จะขึ้นไปชั้นบน
เมื่อไปถึงหน้าประตู ใบหน้าที่คุ้นเคยของผู้ดูแลก็กำลังรอต้อนรับ ซูเจ๋อผลักประตูเข้าไปและกล่าวกับเขาว่า "ขับเรือออกไป"
ผู้ดูแลหันหลังกลับไปเพื่อบอกต่อว่าให้เตรียมตัว
เมื่อเข้ามาในห้อง จะเป็นห้องที่มีโต๊ะ เก้าอี้ และชุดน้ำชา และกระถางธูปบนโต๊ะก็ส่งกลิ่นหอมจาง ๆ ข้างหลังม่านเป็นที่ฉากกั้น และหลังฉากกั้นคือเตียงสำหรับพักผ่อน
ที่นี่ถูกจัดแต่งอย่างเรียบง่าย ตามเอกลักษณ์ของซูเจ๋อ ทำให้เฉินเสียนนึกถึงห้องในเรือนของเขา ถึงแม้จะดูเงียบเหงาไปหน่อย แต่ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจที่ได้อยู่ที่นี่
ชุดของซูเจ๋อที่เปื้อนเลือดนั้น โชคดีที่เป็นสีดำทำให้ไม่เป็นที่สังเกต บนเรือนร่างมีกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ เขาเดินไปที่ฉากกั้น และถอดชุดสีดำนั้นเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ที่สะอาดตา
ท่าทางที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่นั้นดูธรรมชาติและไม่ได้เกร็งอะไร หลังจากที่หันกลับมา ก็เห็นว่าเฉินเสียนมองเขาอยู่อย่างไม่ละสายตา ซูเจ๋อยิ้มพลางจัดแต่งปกคือเสื้อให้เรียบร้อย และกล่าวว่า "ไม่เจอกันนาน หากท่านชอบ ข้าจะถอดอีกครั้งและค่อย ๆ ใส่ให้ท่านดู"
ตั้งแต่ที่เขายื่นมือมารับเธอออกมาจากบนรถม้า ต่อให้ปิดบังใบหน้าไว้ เฉินเสียนแค่มองก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเขา ทั้งสองคนวิ่งมาจนถึงบนเรือ กลับไม่ได้พูดคุยกันแม้แต่คำเดียว
แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ ซูเจ๋อดูดีมากเมื่อเขาฆ่าคนด้วยดาบ และดูดีขึ้นมากเมื่อเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าในตอนนี้
เฉินเสียนเหมือนกำลังลอยอยู่ในอากาศ เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับความฝัน
เธอหนีออกมาแบบนี้ และได้มาอยู่กับซูเจ๋อ ต่อไปนี้ก็จะไม่ถูกคุกคามอีกต่อไปในอนาคต
จนถึงตอนนี้ เฉินเสียนแทบไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ
ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร เท้าก็หยุดชะงักลง เฉินเสียนเอนตัวไปข้างหน้า
เงาสีดำปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ และเธอก็ขยับไปข้างหน้าพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของซูเจ๋อ หัวใจของเธอเต้นแรงมาก
ซูเจ๋อกล่าวกับเธอ "เรือออกเดินทางแล้ว"
เฉินเสียนรู้สึกได้ เรือกำลังเคลื่อนที่
แต่ว่าการได้อยู่ในอ้อมแขนนี้ ยากที่จะปล่อยมือออกมา เธอไปโดนเอวของเขา และจับไปที่ไหล่ของเขา และลูบไล้ไปที่ใบหน้าของเขา และรู้สึกได้ว่านี่คือเรื่องจริง และกล่าวว่า "ข้าออกมาแล้ว? ต่อไปก็ไม่ต้องแยกกับท่านแล้ว?"
ซูเจ๋อก้มศีรษะลงกดลงไปที่หน้าผากของเธอเบา ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม "อาจจะเป็นเช่นนั้น"
เฉินเสียนหลับตาลงและยิ้มอย่างมีความสุข "รู้สึกว่ามันง่ายเกินไปหน่อยไหม?"
"ท่านชอบอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านี้ไหม?" ซูเจ๋อถามขณะที่ค่อย ๆ สะกิดปลายจมูกของเธอและเข้าใกล้เธอเล็กน้อย
ดวงตาที่คมลึกของเขา ลึกราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่กว้างใหญ่ ลึกราวกับแม่น้ำ สามารถทำให้เฉินเสียนดื่มด่ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...