เห็นซูเจ๋อจากไป เฉินจึงคว้ามือของเขาไว้ด้วยจิตใต้สำนึก ถามอย่างระมัดระวังว่า "ซูเจ๋อ ท่านให้อภัยข้าแล้วใช่ไหม?"
ซูเจ๋อกล่าว "ข้าไม่ให้อภัยท่าน ไม่เท่ากับหาเรื่องทรมานตัวเองหรอกหรือ?"
เธอหลุบตาลง รีบกล่าวว่า "แล้ว……เหตุใดท่านไม่อยู่ต่อ?"
ซูเจ๋อหันกลับมาเห็นแววตาล่องลอยของเธอ หลังอาบน้ำเสร็จ ใบหน้าแดงระเรื่อจนถึงติ่งหู แววตาเขามืดมน กล่าวว่า "ที่นี่คนพลุกพล่าน หากข้าหักห้ามหัวใจไม่พักค้างคืนในห้องของท่าน มันจะเป็นผลดีกับตัวท่าน"
เฉินเสียนรู้ดีว่า เวลานี้กำลังทำการรบอยู่ ควรสำรวมเสียบ้าง เพียงแต่เธอไม่อยากให้ซูเจ๋อไปอย่างนี้
ตอนอยู่ในค่ายทหาร เธอนอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อนแขนเขาทุกคืน
เฉินเสียนกล่าวอย่างตื่นตระหนกสับสน "แต่ว่า……ข้าอยากให้ท่านอยู่ต่อ?"
ภายในห้องไร้เสียงซูเจ๋อตอบกลับเป็นเวลานาน
เธอจึงท้อใจ ปล่อยมือซูเจ๋อออก กล่าวว่า "ช่างเถอะ เหมือนเวลานี้ข้าควรเห็นแก่ส่วนรวมหน่อย"
เพียงแต่มือยังไม่ทันวางลงก็ถูกซูเจ๋อกุมไว้ เธอเงยหน้าขึ้นมองก็สบตากับแววตาลุ่มลึกของเขา
ซูเจ๋อกุมมือเธอแล้วเคลื่อนลงมายังใต้ท้องของตัวเอง หรี่ตากล่าวว่า "เมื่อครู่ลงโทษท่านเบาไปใช่หรือไม่ อยากให้ลงโทษท่านต่อสินะ?"
ถึงแม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น แต่เฉินเสียนก็สัมผัสได้ เธอรู้สึกถึงความแข็งและเร่าร้อนคล้ายกับเหล็กร้อน เธอสะดุ้งจนร้อนรุ่มอย่างไม่เอาไหน
ซูเจ๋อกุมมือเธอไว้แน่น ไม่ให้ดิ้นหลุดไปไหน กล่าวอีกว่า "เช่นนี้ ท่านยังยืนยันให้ข้าอยู่ต่อหรือไม่?"
เฉินเสียนอ้าปาก ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ซูเจ๋อหลุบตามองริมฝีปากแดงฉ่ำที่อ้าเล็กน้อยของเธอ เขาค่อยๆโค้งตัวลงมา เอียงหน้าประทับริมฝีปาก แล้วเริ่มลิ้มลองความหวานชื่น
ยามที่เขาหยุดลิ้มลอง เตรียมจะหันหลังออกไป สมองของเฉินเสียนก็เกิดเสียงดังขึ้น อยาก เธออยากรั้งเขาไว้
เธอโอบเอวของเขา ตอบสนองเขาอย่างน่าสมเพช
เธอไม่รู้ตัวว่าความคิดในสมองเปล่งออกมาจากปากเสียแล้ว "อยาก ข้าอยากรั้งท่านไว้……"
ซูเจ๋อชะงัก วินาทีต่อมาก็อุ้มเธอบนเตียง สะบัดแขนเสื้อก็สามารถกางมุ้งสองข้าง
เฉินเสียนหายใจหอบเบาๆ ชุดนอนถูกซูเจ๋อดึงลงมาที่ไหล่ ไม่รู้ว่าตัวเองพูดพร่ำเพรื่อสิ่งใดอยู่ นิ้วมือสัมผัสรอยแผลบนแผ่นหลังของเขา กล่าวอย่างคลุมเครือว่า "ซูเจ๋อ ท่านก็สามารถสัมผัสอย่างเพลิดเพลินได้ ไม่ต้องกังวล ท่านไม่ได้สูบเสียข้า……"
……
วันถัดมา เฉินเสียนนอนตื่นสายออกจากห้องไปกินมื้อเที่ยง คาดไม่ถึงว่าเมื่อถึงโรงอาหารก็เห็นแม่ทัพโฮ้วกับเหลียนชิงโจวก็อยู่ด้วย และไม่รู้ว่าซูเจ๋อมาถึงเมื่อไหร่ บัดนี้เขาก็อยู่ในโรงอาหารด้วย แต่อย่างไรเสียก็คือมาก่อนเธอ
แม่ทัพโฮ้วเห็นเฉินเสียนเดินจับหลังเข้ามา ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "องค์หญิงเป็นกระไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
เฉินเสียนมองซูเจ๋อที่กำลังจิบชาอย่างลอยหน้าลอยตา เม้มปากกล่าวด้วยใบหน้าเฉื่อยชา "ไม่เป็นอันใด แค่ไม่ระวังโดนเอวเท่านั้น"
เหลียนชิงโจวเผยเสียงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์และมีเลศนัย "อยู่ดีๆเหตุใดจึงเอวเคล็ด หรือว่ากระดานซักผ้าเมื่อคืนทรมานองค์หญิง?"
แม่ทัพโฮ้วจึงกล่าวว่า "ใต้เท้าซูลงทัณฑ์หนักไปหน่อยแล้ว อาการองค์หญิงหนักไหมพ่ะย่ะค่ะ?"
เฉินเสียนจ้องเขม็งเหลียนชิงโจวอย่างหงุดหงิด "ไม่พูดแล้วจะทำให้ท่านสำลักตายไหม"
เหลียนชิงโจวหัวเราะคิกคัก "องค์หญิงถือว่าข้าน้อยไม่ได้พูดสิ่งใดก็แล้วกัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...