ทันใดนั้นเฉินเสียนกล่าวว่า "ท่านจริงจังหรือ?"
ซูเจ๋อรักษารอยยิ้มที่ชวนให้คนขนลุกพอง "ท่านเห็นข้าเหมือนกำลังล้อเล่นอยู่หรือ?"
เฉินเสียน "แต่เมื่อครู่ท่านบอกว่าข้าเป็นองค์หญิง อนาคตเป็นจักรพรรดินี คุกเข่าเล่นตรงนั้นไม่ได้"
ซูเจ๋อกล่าว "ข้าพูดคำเกรงใจกับท่านสองประโยค ท่านก็เอาจริงเหรอ"
เฉินเสียนอยากร้องไห้โดยไร้น้ำตา "ตอนแรกข้าก็แค่พูดคำสุภาพกับท่านสองประโยคเอง"
"ดึกแล้ว" ซูเจ๋อเปิดประตูห้อง ส่งเสียงออกไปนอกเรือน "เด็กๆ"
ไม่นานด้านนอกก็มีทหารยามวิ่งเข้ามาลาน ซูเจ๋อกล่าว "ช่วยองค์หญิงนำกระดานซักผ้ามาหนึ่งอัน"
กระดานซักผ้าเป็นของวัตถุที่สตรีนำมาซักผ้า ที่นี่จะมีได้อย่างไร ดังนั้นทหารจึงรายงานให้แก่แม่ทัพโฮ้ว
แม่ทัพโฮ้วกับเหลียนชิงโจวมาซักถามพร้อมกับ "องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ การต้องกระดานซักผ้าเพื่อนำมาซักผ้าหรือพ่ะย่ะค่ะ? เรื่องนี้เช่นนี้ พรุ่งนี้กระหม่อมจัดสาวใช้มาทำก็เพียงพอแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
เฉินเสียนกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "พูดไร้สาระให้น้อยๆหน่อย ใต้เท้าซูจะเอากระดานซักผ้า เจ้าก็ไปเอามาเสีย"
แม่ทัพโฮ้วจึงใช้ให้ลูกน้อยไปยืมกับประชาชน
คิดไม่ตกว่าจะนำกระดานซักผ้ามาทำไม แม่ทัพโฮ้วเตรียมจะเดินเข้าไปถาม ประตูก็ปิดเสียแล้ว มีเสียงซูเจ๋อแว่วออกมาจากด้านใน "ดึกแล้วน้ำค้างเยอะ เชิญทุกท่านไปพักผ่อนเถอะ"
ผ่านไปสักพักแม่ทัพโฮ้วจึงได้สติกลับคืนมา มองเหลียนชิงโจว "เขา ทำไมเขาถึงอยู่ในห้ององค์หญิง?"
เหลียนชิงโจวกล่าวเสียงอ่อนโยน "ข้าจะรู้หรือ เหมือนองค์หญิงจะทำให้อาจารย์โกรธไม่น้อยเลย เมื่อครู่ข้าถามทหารหนุ่มที่เข้ามาใหม่ได้ความว่า ยามที่ค่ายทหารเกิดความโกลาหล อาจารย์ให้องค์หญิงรอเขาอยู่ในกระโจม ซึ่งองค์หญิงก็รับปากแล้ว แต่พออาจารย์พึ่งออกไป องค์หญิงก็วิ่งไปทำเรื่องอันตราย โดยการเผาค่ายทหาร แล้วยังถูกล้อมโจมตี ตอนแรกอาจารย์หาตัวพระองค์ไม่เจอ อาจารย์จึงร้อนใจจนคลั่งเลยทีเดียว"
แม่ทัพโฮ้วชะงัก "ยังมีเรื่องอย่างนี้ด้วยหรือ?" จากนั้นก็โล่งอก พยักหน้าหงึกๆ พลางกล่าวว่า "ใต้เท้าซูเป็นอาจารย์ขององค์หญิง องค์หญิงก่อเรื่องอันตราย เขาควรสั่งสอนองค์หญิงแล้ว"
มิฉะนั้นหากเกิดเรื่องเช่นนี้เป็นหนที่สอง ไม่รู้ว่าต้องมีคนอกสั่นขวัญแขวนตามกี่คน
แม่ทัพโฮ้วเข้าใจว่ากระดานซักผ้าไม่น่าจะนำมาซักผ้า ซูเจ๋อคงเอาไปโบยเฉินเสียน แต่เจตจำนงที่แท้จริงคือ ให้เฉินเสียนคุกเข่า
เนื่องจากต้าฉู่คลับคล้ายคลับคลาว่าไม่นิยมให้สตรีคุกเข่าบนกระดานซักผ้า
ดังนั้นแม่ทัพโฮ้วกับเหลียนชิงโจวจึงออกจากลานบ้านอย่างสบายใจหายห่วง ในความทรงจำของแม่ทัพโฮ้ว ซูเจ๋อเป็นคนมีขอบเขต คงไม่ทำอะไรเหลวไหล
ยามนี้เฉินเสียนจับชายกระโปรงคุกเข่าบนกระดานซักผ้าด้วยความขมขื่น "ซูเจ๋อ ข้าผิดไปแล้ว"
ซูเจ๋อย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกันกับเธอ กล่าวเสียงแผ่วเบาว่า "ท่านผิดที่ไหน?"
เฉินเสียนอุทานว่า "ข้าควรเร่งเวลา ไม่ควรให้ท่านหาข้าไม่เจอหลังจากที่กลับมาถึง"
ซูเจ๋อจ้องมองเธอโดยไม่พูดจา
เฉินเสียนกลืนน้ำลาย เปลี่ยนถ้อยคำ "ก็ได้ ข้าไม่ควรทำอะไรพลการ ทำให้ท่านเป็นห่วง ยามนั้นข้าไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแต่จะทำลายกองกำลังทหารเสริมที่เลวทราม ตอนนั้นค่ายทหารอลหม่าน ข้าถือโอกาสเผาค่ายทหาร ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพบเห็น"
ผ่านไปเนิ่นนาน ซูเจ๋อกล่าวเสียงแหบต่ำ "เฉินเสียน ท่านเคยรับปากข้าแล้ว ในเมื่อท่านรับปากแล้ว ท่านก็ต้องทำตาม ข้าไม่เรียกร้องให้ท่านรออยู่แต่ในกระโจม แต่อย่างน้อยท่านก็ต้องอยู่ในสายตาของข้า"
เขาถาม "ท่านไม่รู้ว่าชีวิตตัวเองสำคัญขนาดนั้นกระมัง จึงได้ทำตัวเหลวไหลเยี่ยงนี้?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...