ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 539

เฉินเสียนกล่าวว่า “พวกท่านต่างพยายามแสวงหาสิ่งที่ดีให้ข้า ปกป้องข้า แล้วจะให้ข้ารับผิดชอบเพียงน้อยนิดได้อย่างไร ซูเจ๋อ ท่านไม่คิดอย่างนั้นหรือ นี่คือเหตุผลที่ข้ายืนกรานที่จะไป”

ในที่สุดซูเจ๋อก็กระซิบว่า “ถึงอย่างไรก็คงรั้งท่านไว้ไม่ได้ ข้าสัญญา รออีกสองวันเมื่อถึงเวลาต้องเคลื่อนทัพ ถ้ายังไม่มีผู้ที่เหมาะสม ข้าจะนำทัพไปทางเหนือกับท่าน”

เฉินเสียนเอี้ยวตัวกลับไปมองเขาด้วยแววตาที่สดใส “แต่ข้าไม่ชนะท่านนะ”

ซูเจ๋อบอกว่า “ข้ายอมให้ท่านชนะ ถ้าข้าไม่อ่อนข้อให้ ท่านคงไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย”

“ท่านสัญญากับข้าแล้ว อย่ามาเปลี่ยนใจทีหลังละ”

“ข้าไม่เคยเปลี่ยนใจ”

เฉินเสียนโน้มตัวไปจุมพิตที่แก้มของเขาหนึ่งที “ท่านใจดีจังเลย สามีของข้า”

ซูเจ๋อขมวดคิ้วและอมยิ้มเล็กน้อย

สองวันต่อมา แม่ทัพโฮ้วจัดกองกำลังทหารเตรียมเคลื่อนพลไปทางเหนือของเมืองหลวง ส่วนเฉินเสียนก็เตรียมตัวพร้อมที่จะออกเดินทางไปกับทั้งสามเหล่าทัพ

แต่ยังไม่ทันยกธงเคลื่อนพล ทันใดนั้นก็มีเสียงเกือกมากดังมาจากนอกค่าย เหล่าทหารทยอยเปิดทาง ปล่อยให้ผู้ที่ควบม้าพุ่งตรงไปยังค่ายใหญ่

เฉินเสียนออกมาจากกระโจมในขณะที่แสงอาทิตย์เรืองรองย้อมแผ่นฟ้าและส่องลงมาต้องหยาดน้ำค้าง เธอเห็นบุรุษผู้หนึ่งพลิกตัวลงมาจากหลังม้าด้วยท่าทีที่เบิกบานและกำลังเดินตรงมาทางนี้

แม่ทัพโฮ้วรีบเข้ามาดูทันทีเมื่อได้ยินข่าว เขาหัวเราะเสียงดังอย่างดีใจและตบบ่าชายผู้นั้นอยู่หลายที “แม่ทัพฉิน ไม่พบกันนานเลย สบายดีไหม!"

ฉินหรูเหลียงตอบมาว่า “แม่ทัพโฮ้ว ไม่ได้พบกันนาน”

เฉินเสียนไม่ได้มองผิดไปจริงๆ ผู้ที่ควบม้าโดยไม่หยุดพักจนมาถึงในยามรุ่งสางคือฉินหรูเหลียง เขาอยู่ในอาภรณ์สีเข้มซึ่งดูทะมัดทะแมง รูปร่างสูงใหญ่ทรงพลัง รูปงามและองอาจผึ่งผาย

แม่ทัพโฮ้วถามว่า “มือของท่านดีขึ้นหรือยัง”

ฉินหรูเหลียงขยับข้อมือเล็กน้อย เขามองไปทางเฉินเสียนกับซูเจ๋อและกล่าวว่า “หายแล้วละ โชคดีที่ได้ใต้เท้าซูช่วยรักษา”

ซูเจ๋อกล่าวว่า “แม่ทัพโฮ้ว โปรดหารือกับแม่ทัพฉินเกี่ยวกับสถานการณ์ของเหล่าแม่ทัพดูเถิด จะเหมาะสมหรือไม่หากจะให้เขานำทัพไปต่อสู้กับกองทัพจากเป่ยเจียง”

แม่ทัพโฮ้ว “เหมาะมาก! ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเขาอีกแล้ว!”

ดังนั้นแม่ทัพโฮ้วจึงเล่าสถานการณ์ล่าสุดให้ฉินหรูเหลียงฟังอย่างคร่าวๆ ฉินหรูเหลียงเข้าใจสถานการณ์ในสนามรบได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่คำพูดแค่ไม่กี่ประโยคเขาก็วิเคราะห์สถานการณ์ได้ทันที

ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่เขาก็เหมาะกับสนามรบเสมอ

ฉินหรูเหลียงกระชับแขนเสื้อที่ข้อมือและเดินตรงไปหาเฉินเสียน เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ไม่ได้พบกัน เธอไม่ได้แสร้งทำเป็นโง่เขลาจนทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจเหมือนตอนที่อยู่ในพระราชวังอีกแล้ว เธอในตอนนี้ยังคงมีสติสัมปชัญญะและนิ่งสงบเหมือนเช่นในวันวาน

แค่ได้เห็นว่าเธอยังปลอดภัยนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับฉินหรูเหลียง

ดูเหมือนเขาจะเรียกร้องอะไรจากเธอน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อการเวลาแปรผัน จนถึงตอนนี้ ขอเพียงแค่เห็นว่าเธอสบายดี เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ทว่าตั้งแต่วันที่เธอย้ายออกไปจากเรือน ย้ายออกไปจากสวนสระวสันตฤดู ความรู้สึกที่สะสมอยู่ในใจก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น เพียงแต่ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่จบสิ้นไปแล้วสำหรับคนนอก

ทั้งสองรู้สึกทอดทอนใจอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

ฉินหรูเหลียงเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนว่า “พระองค์สบายดีก็ดีแล้ว ในที่สุดเขาก็พาท่านออกมาจากที่นั่นจนได้”

เฉินเสียนเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวอย่างจริงใจว่า “ฉินหรูเหลียง ขอบคุณนะสำหรับเรื่องเจ้าน่องน้อย”

“องค์หญิงไม่จำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ” ฉินหรูเหลียงพูดพลางสะบัดชายเสื้อและคุกเข่าลง ชันขาข้างหนึ่งขึ้นและประสานมือคารวะ “ขอองค์หญิงโปรดประทานอนุญาตให้ข้ากระหม่อมออกศึกด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี