ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 602

ความระบมพึ่งจะทุเลาลงแท้ๆ จะเริ่มใหม่อีกแล้วหรือ ความปวดระบมร้าวเข้ากระดูก เฉินเสียนหายใจไม่สม่ำเสมอ จ้องมองซูเจ๋ออย่างแผ่วเบา ซูเจ๋อสอดลึกเข้าไปจนมิด เธอสูดลมหายใจเข้าลึก กัดกรามแน่น พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ท่าน......หมกมุ่นเกินไปแล้ว......"

"ท่านกับข้าไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันหรอกหรือ อาจจะไม่เหมือนกันกระมัง"

ซูเจ๋อไม่ได้ขยับใดๆ เขาเพียงแค่กอดเธอไว้แบบนี้ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ให้ข้าได้สัมผัสท่านเช่นนี้ ก็พอแล้ว"

แต่เมื่อร่างกายของเฉินเสียนปรับตัวได้แล้ว ดวงตาของเธอก็เริ่มพร่ามัว ใบหน้าแดงก่ำ และถึงแม้ซูเจ๋อจะไม่ได้ขยับ แต่ร่างกายของเธอกลับบีบกระชับรัดแน่นขึ้นมา รู้สึกสุขจนแทบจะเอ่อล้มออกมาก็ไม่ปาน

เธอบีบรัดแน่นจนซูเจ๋อนั้นแข็งตัวและร้อนระอุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนในท้ายที่สุด เวลาผ่านไปทั้งบ่ายแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ลุกจากเตียงมาเลย

ที่น่าแปลกก็คือ กลางวันของวันนี้ทั้งเธอและเขาไม่ได้ออกมาจากห้อง แต่กลับไม่มีใครเข้ามารบกวนพวกเขาเลย

ซูเซี่ยนตื่นมาแต่เช้า ภายใต้การดูแลของบ่าวรับใช้ เขาได้ล้างหน้าเอง ทานอาหารเช้าเอง หลังจากนั้นเขาก็ไปฝึกเขียนตำราที่ห้องตำราของซูเจ๋อ

หนังสือที่อยู่ในห้องตำราของซูเจ๋อ เขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก แต่อยากดูอะไรก็สามารถเอาออกมาดูได้ การที่ไม่มีข้อห้ามและข้อจำกัด ก็รู้สึกอิสระไม่น้อย

ซูเซี่ยนไม่ได้ไปรบกวนเฉินเสียนและซูเจ๋อ และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปรบกวนพวกเขาด้วย เขาพูดขึ้นว่า : "ตอนอยู่ในวังท่านแม่ของข้าเหน็ดเหนื่อยมาก กว่าจะได้เข้านอนก็ดึกมากแล้ว วันนี้ก็ให้ท่านแม่ของข้าได้นอนพักมากๆ หน่อยก็แล้วกัน"

เขาเองคงไม่รู้ ว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมานี้ ท่านแม่ของเขานั้นนอนดึกยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

ในขณะที่ซูเซี่ยนกำลังรับประทานอาหารเที่ยงด้วยตัวคนเดียวอยู่นั้น เขาเองได้พูดกับพ่อบ้านว่า : "ท่านลุงพ่อบ้าน เอาอาหารเหล่านี้ไปอุ่นใหม่ รอพวกเขาตื่นแล้วจะได้ทาน"

พ่อบ้านรู้สึกรักและเอ็นดูเด็กคนนี้มากขึ้นเข้าไปใหญ่ เขายิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ท่านชายน้อยทานเถอะขอรับ อาหารส่วนขององค์จักรพรรดินี บ่าวได้เก็บไว้เรียบร้อยแล้ว"

บ่ายคล้อย เฉินเสียนอาบน้ำใหม่อีกครั้ง เมื่อสวมชุดเรียบร้อยแล้ว เธอก็ประคองเอวของตัวเองเดินออกจากหอนอนไป

ซูเจ๋อถอดผ้าปูเดิมออกและเปลี่ยนผืนใหม่อยู่ในหอนอน

ซูเซี่ยนทานอาหารอิ่มแล้ว ก็ไปอาบแดดที่ลานสวน ลมแห่งสารทฤดูชื่นใจเป็นที่สุด ทั้งเย็นและสบาย

ซูเซี่ยนเห็นสภาพของเฉินเสียนแล้ว ก็รีบถามขึ้นว่า : "ท่านแม่ เอวของท่านเป็นอะไรไปหรือ?"

เฉินเสียนจึงตอบกลับไปว่า : "......เอวเคล็ด"

ซูเซี่ยนหรี่ตาลง สีหน้าและแววตาเหมือนพ่อของเขาไม่มีผิด เขาพูดขึ้นว่า : "เตียงของท่านพ่อไม่ได้กว้างเหมือนที่พระตำหนักไท่เหอ แล้วนอนอย่างไรเอวของท่านแม่ถึงเคล็ดได้ ท่านแม่นอนไม่เรียบร้อย ท่านพ่อไม่ดูแลบ้างเลยหรือ"

เฉินเสียนกระตุกมุมปากเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "เรื่องของผู้ใหญ่ เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าพูดมาก"

เมื่อทานมื้อเที่ยงเสร็จ เฉินเสียนยังคงรู้สึกเหนื่อยล้า เธอจึงเอนตัวนอนลงบนเก้าอี้พักผ่อนอยู่ที่ลานสวน ซูเจ๋อกำลังสอนหนังสือให้กับซูเซี่ยนอยู่ในห้องตำรา เฉินเสียนหรี่ตาลง ฟังเสียงคุยกันของสองพ่อลูก แล้วจึงผล็อยหลับไป

ยามพลบค่ำ ดวงอาทิตย์ทอแสงสีแดงทองสาดส่องไปทั่วลานสวนแห่งนี้อย่างเงียบเชียบ

เวลาผ่านพ้นไปแล้วหนึ่งวัน เฉินเสียนก็ได้กลับไปยังพระราชวัง และเริ่มยุ่งกับภาระหน้าที่การงานอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี