ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 603

“เป็นไปไม่ได้” เฉินเสียนขบกรามแน่น พร้อมกับพูดขึ้นช้าๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำ : “เท่ากับว่าพวกท่านต้องการให้ข้าทำลายความไว้วางใจของตัวข้าต่อเหล่าบรรดาคณะขุนนางและราชอาณาจักรต้าฉู่อย่างนั้นหรือ อ้ายชิงทั้งหลาย กษัตริย์ตรัสคำไหนคำนั้น ยิ่งไปกว่านั้นนี่ถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญต่ออาณาจักรทั้งสองอย่างยิ่ง แต่พวกท่านกลับต้องการให้ข้าบิดพลิ้วและแก้ตัวน้ำขุ่นๆ น่ะหรือ?”

เพื่อเธอแล้วเขายอมเสียสละและละทิ้งทุกอย่าง ละทิ้งแม้กระทั่งตัวเขาเองอย่างเต็มใจ แต่เธอไม่สามารถทำได้จริงๆ

เฉินเสียนพูดขึ้นว่า : “ตอนที่ใช้ประโยชน์จากเขา ไม่ว่าเงื่อนไขอะไรก็ยอมรับปากทุกอย่าง แต่เมื่อหมดสิ้นผลประโยชน์แล้ว ก็ปล่อยเขาให้เขาเป็นแพะรับบาปหรอกหรือ นี่ไม่ใช่สิ่งที่กษัตริย์ควรกระทำ นี่คือการกระทำที่เนรคุณ มุ่งหวังเพียงแต่จะเอาผลประโยชน์อย่างเดียว พลอยแต่จะทำให้ข้ารู้สึกรังเกียจ หากข้าไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ ก็มีแต่จะกลายเป็นเรื่องที่น่าตลกขบขันของอาณาจักรเย่เหลียงเท่านั้น”

เหล่าบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของราชสำนักต่างพากันเงียบลง ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีขุนนางท่านหนึ่งออกมาพูดขึ้นว่า : “กระหม่อมขอบังอาจทูลถามฝ่าบาท ว่าจะปลอบประโลมและโน้มน้าวจิตใจของเหล่าบรรดาราษฎรทางเขตชายแดนได้อย่างไรกัน เขตชายแดนพึ่งจะสงบลงแท้ๆ จะให้พวกเขาอพยพโยกย้ายอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เฉินเสียนจึงตอบกลับไปว่า : “มันเป็นเงื่อนไขข้อตกลงในสนธิสัญญาตั้งแต่ต้น ข้าจึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา ส่วนเรื่องราษฎรของสองเมืองนี้ ข้าจะหารือกับทางอาณาจักรเย่เหลียงอีกครั้ง”

เฉินเสียนไม่ชักช้ายืดยาดให้เสียเวลา เธอได้เชิญราชทูตของอาณาจักรเย่เหลียงมาหารือปัญหาเกี่ยวกับเรื่องราษฎรของทั้งสองเมืองแห่งอาณาจักรต้าฉู่โดยทันที จากนั้นก็ได้ออกเดินทางไปร่างสัญญากรรมสิทธิ์ฉบับใหม่ที่เขตชายแดนของอาณาจักรต้าฉู่

ตามเจตนารมณ์ของเฉินเสียน ทางอาณาจักรเย่เหลียงจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายเหล่าบรรดาราษฎรของทั้งสองเมืองนี้ได้ เหล่าบรรดาราษฎรของอาณาจักรต้าฉู่ที่ประสงค์และยินดีจะโยกย้าย ก็จะมีผู้ดูแลท้องถิ่นของเมืองเป็นคนจัดการดูแล สำหรับเหล่าบรรดาราษฎรของอาณาจักรต้าฉู่ที่ไม่ประสงค์จะโยกย้าย ก็จะยังสามารถอยู่ในเมืองนั้นๆ ต่อได้ ทางอาณาจักรเย่เหลียงจะไม่สามารถขับไล่ราษฎรได้ และยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่สามารถข่มเหงหรือรังแกตามความต้องการอีกด้วย

สองเมืองที่ติดกับเขตชายแดนนี้ เหล่าบรรดาราษฎรของอาณาจักรต้าฉู่และอาณาจักรเย่เหลียงจะอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างรักใคร่ปรองดอง เอื้อเฟื้อเกื้อหนุนและเป็นมิตรต่อกัน และนี่ก็คือภาพที่เฉินเสียนได้คาดหวังที่จะได้เห็น

ในตอนแรกราชทูตของทางอาณาจักรเย่เหลียงไม่เห็นด้วย ต้องการจะให้ราษฎรของอาณาจักรต้าฉู่อพยพออกไปจากทั้งสองเมืองนี้ให้หมดโดยทันที เฉินเสียนจึงพูดขึ้นว่า : “ไม่เห็นด้วยก็ถ่วงเวลามันไว้แบบนี้แหละ ไม่รู้เมื่อไหร่กันที่ข้าจะสามารถโยกย้ายถ่ายเทเหล่าบรรดาราษฎรของอาณาจักรต้าฉู่ออกมาจากสองเมืองนี้จนหมด ซึ่งข้าเองก็ไม่สามารถรับปากได้ ในเมื่อทางอาณาจักรเย่เหลียงไม่ยินยอมที่จะตกลง งั้นก็รอจนกว่าข้าจะโยกย้ายเหล่าบรรดาราษฎรของอาณาจักรต้าฉู่ออกมาจากทั้งสองเมืองนี้จนหมดแล้ว เมื่อนั้นข้าจึงค่อยยกสองเมืองนี้ให้แก่พวกท่านก็แล้วกัน”

เหล่าราชทูตต่างพากันเริ่มลำบากใจ

ในเมื่อองค์จักรพรรดิของอาณาจักรเย่เหลียงได้ส่งพวกเขาเดินทางไกลนับพันลี้เพื่อมายังอาณาจักรต้าฉู่ แน่นอนว่าพวกเขามีสิทธิ์ตัดสินใจโดยชอบธรรมอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การคงอยู่ของเหล่าบรรดาราษฎรอาณาจักรต้าฉู่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ขอเพียงแค่สองเมืองนี้ได้เป็นของทางฝั่งอาณาจักรเย่เหลียงก็ถือว่าสำเร็จลุล่วงแล้ว

ท้ายที่สุด เหล่าราชทูตของอาณาจักรเย่เหลียงก็ยอมตกลงเงื่อนไขนี้ ให้ราษฎรของทั้งสองอาณาจักรสามารถอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข และทางฝั่งอาณาจักรเย่เหลียงรับปากจะไม่ข่มเหงรังแกเหล่าบรรดาราษฎรของอาณาจักรต้าฉู่เป็นอันขาด

จากนั้น พระราชกฤษฎีกาของเฉินเสียนก็ได้ส่งยังเมืองเหล่านั้น กองทัพชายแดนได้ร่นถอยทัพออกจากสองเมืองนี้ และได้ประกาศว่าทั้งสองเมืองนี้ที่ติดกับเขตชายแดนของอาณาจักรเย่เหลียง ได้ตกเป็นของอาณาจักรเย่เหลียงอย่างเป็นทางการ ทั้งสองอาณาจักรจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่ขัดแย้งกันอีกต่อไป

เหล่าบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของราชสำนักต่างคาดไม่ถึงเลย ว่าองค์จักรพรรดินีจะตัดสินใจเด็ดขาดและรวดเร็วเช่นนี้ ในขณะที่พวกเขายังไม่ทันจะได้ตอบโต้อะไร เธอก็ได้เจรจากับทางอาณาจักรเย่เหลียงจนเสร็จสิ้น โดยใช้เวลาเพียงแค่สองวันในการทำการ อีกทั้งพระราชกฤษฎีกาก็ถูกส่งออกไปเป็นที่เรียบร้อย

เหล่าบรรดาราษฎรต่างเริ่มพากันพูดคุยจนเป็นกระแส ถึงเรื่องเกี่ยวกับการลงนามของหนังสือสนธิสัญญากับทางอาณาจักรเย่เหลียง ว่ากันว่าในตอนแรกที่องค์จักรพรรดินีทรงยอมลงนามในหนังสือสนธิสัญญาฉบับนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ทางอาณาจักรเย่เหลียงสามารถใช้ประโยชน์จากช่องว่างในระหว่างที่อาณาจักรต้าฉู่ที่กำลังโกลาหลวุ่นวาย ไม่เช่นนั้น หากตอนนั้นทางอาณาจักรเย่เหลียงได้นำกองกำลังเข้าโจมตีทางตอนเหนือในระยะประชิดเช่นนี้ เกรงว่าอาณาจักรต้าฉู่คงจะระส่ำระสายหนักหนาสาหัสกว่านี้เป็นแน่แท้ และคงจะไม่สงบเฉกเช่นตอนนี้อย่างแน่นอน

เรื่องนี้ถูกแพร่กระจายเล่าขานกันปากต่อปากอย่างรวดเร็ว การสละสองเมืองให้กับทางอาณาจักรเย่เหลียง จึงไม่ใช่สิ่งที่ทางอาณาจักรต้าฉู่จะไม่สามารถยอมรับไม่ได้อีกต่อไป

เรื่องนี้ถูกหยิบยกมาพูดคุยในหมู่ราษฎรอยู่พักหนึ่ง และกระแสลมนี้ก็ถูกพัดผ่านไปในที่สุด ขอเพียงแค่เหล่าราษฎรได้กินอิ่มนอนอุ่น ให้พวกเขาได้ออกห่างจากสงครามที่วุ่นวายนี้ ไม่ว่าเมืองไหนจะไปเป็นของอาณาจักรไหน ล้วนแต่เป็นเรื่องของทางราชวงศ์แล้ว

เฉินเสียนรู้ดีว่าเรื่องนี้จะต้องจัดการแก้ไขให้เด็ดขาดและรวดเร็ว ยิ่งถ่วงเวลาก็ยิ่งไม่เป็นผลดีกับซูเจ๋อ ทางอาณาจักรเย่เหลียงยังรอดูเหล่าบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของราชสำนักรวมถึงเหล่าบรรดาราษฎรของอาณาจักรต้าฉู่บีบบังคับให้ซูเจ๋อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากและสิ้นหวัง

แต่น่าเสียดายที่เฉินเสียนเองไม่ได้ปรึกษาหารือกับทางเหล่าบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของราชสำนักเลย เปลี่ยนจากผู้ถูกกระทำเป็นผู้ลงมือกระทำ ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ออกกฤษฎีกา เข้าควบคุมและจัดการความคิดเห็นของเหล่าบรรดาราษฎรเป็นอันดับแรก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี