ถึงแม้จะเป็นเรื่องการแต่งงานเพื่อขจัดความชั่วร้ายของท่านอ๋องรุ่ยกับพระชายา แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้อย่างประมาท จำเป็นต้องค้นหาหญิงสาวที่มีรูปลักษณ์งดงาม มีความสามารถอย่างครบถ้วน และยังต้องมีดวงชะตาที่ตรงกับท่านอ๋องรุ่ยอีกด้วย
ไม่มีใครเคยได้เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของท่านอ๋องรุ่ยว่างดงามหรืออัปลักษณ์ ยิ่งกว่านั้นท่านอ๋องยังเป็นคนที่เจ็บป่วยอีกด้วย อาจจะเสียชีวิตได้ตลอดเวลา ถ้าหากว่าแต่งงานเข้ามาในจวนแล้วเกิดเรื่องไม่ที่คาดคิดเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้กลายเป็นสาวหม้ายไปตลอดชีวิต สำหรับหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานนั้นเป็นเรื่องราวกับฝันร้ายอย่างไม่น่าสงสัย
ในช่วงเวลาขณะนี้กว่าจะค้นหาคนที่เหมาะสมมาได้ ก็คงจะต้องสิ้นเปลืองเวลาไปอีกสักระยะหนึ่ง ยิ่งกว่านั้นคือท่านอ๋องมู่ได้สั่งหนึ่งในหลานชายจักรพรรดิว่า ไม่ว่าจะอย่างไรเรื่องนี้ต้องยืดเวลาออกไปก่อนอีกสักเดือนสองเดือน เมื่อเขากลับแล้วค่อยคุยกันใหม่
ท่านอ๋องมู่เป็นบุตรชายอีกคนของจักรพรรดิเป่ยเซี่ยอย่างไม่น่าสงสัย การทำดีเช่นนี้สำหรับการเป็นจักรพรรดินั้นมีประโยชน์มาก เขาไม่อยากที่จะให้ท่านอ๋องรุ่ยมาแกร่งแย่งชิงตำแหน่งมงกุฎราชกุมารไป
ท่านอ๋องมู่จึงทำการเขียนสารฉบับหนึ่ง และส่งสารด่วนไปยังต้าฉู่
กลับเข้ามาสู่วสันตฤดูอีกครั้ง
อาณาจักรต้าฉู่นั้นเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว ประชาชนต่างมีความสงบสุข ใช้ชีวิตอย่างไม่ต้องกังวลอะไร
เฉินเสียนกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องตำราหลวง เมื่อเหลียนชิงโจวมาเข้ามาด้านใน กล่าวคำเคารพอย่างนอบน้อม “ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
เมื่อเฉินเสียนจดบันทึกสมุดบัญชีเสร็จแล้ว จึงพูดขึ้นว่า“ยืนขึ้นได้”
เธอวางพู่กันสีแดงในมือลง แล้วลุกเดินออกจากโต๊ะมาเชิญให้เหลียนชิงโจวนั่งลง นางกำนัลก็ได้ยกน้ำชาสองถ้วยเข้ามา
เฉินเสียนใช้นิ้วคีบฝาปิดถ้วยชาขึ้นมาแล้วจิ้มนิ้วลงไปแตะเล่นกับใบชาที่ลอยขึ้นมา แล้วกล่าวว่า“ข้าได้ยินมาว่าปีนี้เจ้าไม่ได้กลับมาเมืองหลวงในช่วงเทศกาลตรุษจีน และเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นานนี้เอง”
เหลียนชิงโจวกล่าว“ใช่พ่ะย่ะค่ะ การค้าด้านนอกเมืองนั้นยุ่งมาก จนไม่มีเวลาปลีกตัวออกมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
เฉินเสียนเลิกคิ้วขึ้น“แต่ว่าเจ้าได้ไปสร้างบ้านอยู่ที่ต่างเมืองแล้ว อนาคตเจ้าตั้งใจจะกลับมาที่เมืองหลวงน้อยลงแล้วใช่หรือไม่?”
เงียบไปสักครู่ แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างจิ้งจอก“ไม่มีเรื่องอันใดที่จะปิดบังจักรพรรดินีไว้ได้เลยจริงๆนะพ่ะย่ะค่ะ”
“แล้วครั้งนี้เจ้าก็ได้พาหญิงสาวต่างถิ่นกลับมาด้วย เจ้าแต่งงานแล้วหรือ?” เฉินเสียนเงยหน้าถามเขา
แม้ว่าเธอจะมีสีหน้าที่เรียบเฉย แต่ดวงตาคู่นั้นดั่งกับหยั่งรู้ทุกอย่างบนโลกนี้ ถ้าเกิดว่าเหลียนชิงโจวโกหกในตอนที่อยู่ต่อหน้าเธอ คงจะปิดบังไม่ได้อย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าเฉินเสียนจะถามขึ้นมาในตอนนี้ แต่จริงๆแล้วเธอเองก็รู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่ก่อนแล้ว
เหลียนชิงโจวกล่าว“นางเป็นหญิงสาวธรรมดา เมื่อก่อนตอนที่ออกทะเลแล้วประสบกับภัยพิบัติทางทะเล เธอได้ช่วยชีวิตข้าน้อยเอาไว้ จึงเป็นบุญคุณที่เธอได้ดูแลมาสักระยะหนึ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ ”
“ดังนั้นก็เลยก่อเกิความรักใช่หรือไม่?”
“น่าจะใช่พ่ะย่ะค่ะ”
นี่ไม่ใช่เรื่องที่แปลก คิดว่าเหลียนชิงโจวนั้นได้ทำการค้าขายอย่างเหน็ดเหนื่อยยากลำบากในต้าฉู่ คงจะเคยชินกับการได้พบเจอหญิงสาวที่งดงามมาทุกรูปแบบ สุดท้ายก็กลับเลือกหญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่งมาอยู่ใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน
เขาดูเป็นคนที่เฉลียวฉลาด รู้ว่าความงดงามนั้นไม่ได้อยู่คงทนตลอดไป การอยู่กับความธรรมดาที่เป็นจริง แบบเรียบง่ายนั่นคือความสุข
ถ้าเฉินเสียนไม่สนใจที่จะถามเหลียนชิงโจว เมื่อคิดดูแล้วเขาก็คงตั้งใจจะค่อยๆย้ายออกไปจากเมืองหลวง ถึงอย่างไรก็ตามเขาคือคนที่อยู่กับซูเจ๋อมานานหลายปี ก็น่าจะรู้ว่าการค้าขายและการเมืองนั้นเกี่ยวเชื่อมโยงกัน มีความอันตรายซ่อนมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
แต่เหลียนชิงโจวนั้นยังคงเป็นพ่อค้าในนามของจักรพรรดิ อยากที่สะบัดให้หลุดพ้นก็คงจะไม่ง่ายสักเท่าไหร
ปัจจุบันค่าใช้จ่ายในพระราชวังของต้าฉู่ทั้งหมด ได้มาจากเหลียนชิงโจวที่ได้ทำการจัดซื้อสินค้าจากต่างแดนกลับมา ไม่มีอะไรไปมากกว่าสินค้าที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ในราคาเดียวกัน บ่อเกลือและเหมืองแร่ของต้าฉู่และสินแร่อื่นๆนั้นที่เป็นช่องทางการทำเงินยังคงถูกควบคุมด้วยทางราชสำนักอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...