ว่าที่ชายาอ๋องมีจักรพรรดิเป่ยเซี่ยคอยหนุนหลัง จึงกล้าช้อนตามองเฉินเสียนโดยตรง นางคิดว่าจักรพรรดิแห่งต้าฉู่จะน่ายำเกรงเพียงใด ถึงกระนั้นก็เป็นจักรพรรดิแคว้นอื่น หลังงานเลี้ยงอำลาจบสิ้นก็ต้องจากไปอยู่ดี
เฉินเสียนเชิดคางอย่างเกียจคร้าน มือถือแก้วหยกเล่นอย่างซุกซน กล่าวอย่างเอ้อระเหยลอยชาย "ก็แค่วันเกิดปาจื้อสมพงษ์กับท่านอ๋องรุ่ยไม่ใช่หรือ ข้าได้ยินว่าไม่ได้สมพงษ์ทั้งหมดนี่ ปาจื้อแค่สมพงษ์กันหกตัว ไม่รู้ว่าฉินเทียนเจี้ยนของเป่ยเซี่ยเป็นผู้คำนวณหรือหาหมอดูที่ไหนก็ได้มาดูดวงสมพงษ์กันแน่?"
จักรพรรดิเป่ยเซี่ยกล่าวด้วยความเย็นเยียบ "งานแต่งงานของอ๋องรุ่ยนั้นสำคัญ ย่อมเป็นฉินเทียนเจี้ยนของเป่ยเซี่ยรับหน้าที่คำนวณหาฤกษ์งามยามดีอยู่แล้ว"
"งั้นฉินเทียนเจี้ยนของพวกท่านอยู่ไหน?" เฉินเสียนเอ่ยปากกล่าวว่า "มาช่วยข้าคำนวณปาจื้อด้วย"
ตำแหน่งฉินเทียนเจี้ยนไม่ได้สูงส่งมากนัก จึงไม่ได้ร่วมงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ เพียงแต่บรรยากาศในงานเลี้ยงกลับหดหู่อย่างแปลกประหลาด
ขุนนางเป่ยเซี่ยสัมผัสได้ว่า ถึงแม้จักรพรรดิแห่งต้าฉู่กำลังพูดหยอกเย้าด้วยเสียงหัวเราะ ทว่ารังสีที่แผ่ซ่านออกมานั้นสูสีกับรังสีมืดครึ้มในตัวจักรพรรดิเป่ยเซี่ยยิ่ง
ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กล่าวประโยคนี้ออกมา "ทูลจักรพรรดิแห้งต้าฉู่ ฉินเทียนเจี้ยนไม่อยู่พ่ะย่ะค่ะ"
เฉินเสียนหัวเราะลั่น "เช่นนั้นก็เรียกฉินเทียนเจี้ยนมา งานเลี้ยงนี้ช่างจืดชืดยิ่งนัก ในเมื่อไม่มีดนตรีคอยสร้างความรื่นเริง งั้นข้าก็ให้ฉินเทียนเจี้ยนมาช่วยข้าคำนวณปาจื้อเพื่อสร้างบรรยากาศรื่นเริงเถอะ คาดว่าคงจะได้กระมัง?"
สักพักฉินเทียนเจี้ยนก็มาถึงด้วยความเร่งรีบ
เฉินเสียนเรียกเขาเข้าใกล้เพื่อคำนวณดวงสมพงษ์ ฉินเทียนเจี้ยนไม่กล้าชักช้า กล่าวด้วยความระมัดระวังว่า "ไม่ทราบว่าจักรพรรดิแห่งต้าฉู่ต้องการให้กระหม่อมรับใช้สิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
เธออ้างว่าจะสร้างความรื่นเริง จึงเขียนวันเกิดของตัวเองแล้วยกมือชี้ไปยังซูเจ๋อโดยตรง "ช่วยข้าคำนวณหน่อยว่าปาจื้อของข้ากับเขาสมพงษ์กันหรือไม่?"
เธอพูดด้วยความยโสโอหังสองส่วน
จักรพรรดิเป่ยเซี่ยกล่าว "เหลวไหล!"
ซูเจ๋อยกหางคิ้ว กลับเปิดปากกล่าวว่า "ในเมื่อสร้างความรื่นเริงให้แก่จักรพรรดิแห่งต้าฉู่ เช่นนั้นฉินเทียนเจี้ยนก็ลองคำนวณดูก็ไม่เป็นกระไร"
ฉินเทียนเจี้ยนจึงนำวันเกิดของทั้งสองคนมาคำนวณ หนึ่งชั่วยามผ่านไป ฉินเทียนเจี้ยนดูดวงสมพงษ์แล้วหลายครั้ง เหงื่อบนกายก็ซึมออกมาเรื่อยๆไม่ขาดสาย
เฉินเสียนกล่าว "ทำไม เจ้าคำนวณไม่ได้?"
ฉินเทียนเจี้ยนกล่าวเสียงสั่นเทา "จักรพรรดิแห่งต้าฉู่มีชะตาหงส์ แท้จริง……แท้จริงแล้ว……"
เฉินเสียนหรี่ตาถาม "ปาจื้อของข้ากับอ๋องรุ่ยสมพงษ์กันกี่ตัว? หากแค่นี้เจ้ายังดูไม่ได้ เช่นนั้นปาจื้อของท่านอ๋องรุ่ยกับว่าที่ชายาอ๋องก็ใช้การไม่ได้ ถือว่าเป็นโทษลบหลู่เบื้องสูงนะ"
"หาออกมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ……"
เฉินเสียนยืนกรานถามต่อ "สมพงษ์กี่ตัว(ปาจื้อมีทั้งหมดแปดตัว)?"
ฉินเทียนเจี้ยนตอบอย่างระมัดระวังว่า "วันเกิดปาจื้อของจักรพรรดิแห่งต้าฉู่กับท่านอ๋องรุ่ยสมพงษ์กันทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ ถ้าหาก ถ้าหากไม่มองว่าจักรพรรดิแห่งต้าฉู่มีชะตาหงส์ก็จะเป็นคู่สร้างคู่สมคอยประคับประคองซึ่งกันและกันกับท่านอ๋องรุ่ยได้เป็นอย่างดีพ่ะย่ะค่ะ……"
เขาหยุดพูดกลางคัน รู้ว่าหากพูดต่อไปก็ต้องมีความผิดแน่นอน
ทันใดนั้นเฉินเสียนรู้สึกว่างานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีเรื่องให้สุขฤทัยสักเรื่องหนึ่งแล้ว เธอกล่าวว่า "เมื่อได้ยินเจ้าพูดแล้ว เดิมที่ข้าไม่เชื่อเรื่องพรรค์นี้ ตอนนี้ข้าเริ่มอยากเชื่อแล้วสิ"
เพียงแต่แค่ถือเป็นการสร้างสีสันในงานเลี้ยงเท่านั้น ไม่มีใครเห็นเป็นจริงเป็นจัง ต่อมาก็ไม่มีใครเอ่ยถึงอีก
พละกำลังของซูเจ๋อมีขีดจำกัด เริ่มงานเลี้ยงได้ครึ่งทางก็จากไป เฉินเสียนใช้หางตามองประตูห้องโถง เห็นเขากับว่าที่ชายาอ๋องเดินออกไปเป็นคู่ด้วยกัน
ซูเจ๋อออกไปไม่นาน เฉินเสียนก็ออกไปด้วย งานเลี้ยงนี้ก็จบลงแบบขอไปที
ให้ความรู้สึกแยกย้ายกันอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์กันเท่าไหร่
เฉินเสียนมาเยือนเป่ยเซี่ยครั้งนี้ได้รับการปฏิบัติที่ย่ำแย่จากจักรพรรดิเป่ยเซี่ย ทว่าเธอก็ยังฝืนทนมาถึงวันนี้ แต่สุดท้ายก็กำหนดวันเดินทางกลับเป็นวันพรุ่งนี้
คณะทูตของเธอต่างขุ่นเคืองที่เธอซึ่งเป็นถึงจักรพรรดิต้องมาทุกข์ทนกับการปฏิบัติเช่นนี้ หากเป็นเมื่อก่อนที่อยู่ในวัยสาวที่ไฟแรง เฉินเสียนคงทนความหยามเหยียดเช่นนี้ไม่ได้ เธอต้องสู้กันตาต่อตา ฟันต่อฟันเป็นแน่แท้
ยามนี้เฉินเสียนกลับพูดกับคณะทูตอย่างยิ้มแย้มเฉยเมยว่า "ใครใช้ให้ข้าเป็นฝ่ายวิงวอนเล่า หากคิดจะขอสิ่งใดย่อมต้องต่ำกว่าหนึ่งชั้นอยู่แล้ว มันสมเหตุสมผลดี"
ซูเจ๋อกลับมาเร็ว บัดนี้แสงตะเกียงในห้องยังคงสว่างไสว เขายังไม่ได้นอนหลับพักผ่อน
ทันใดนั้นได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในลานบ้าน องครักษ์ที่เฝ้ายามในจวนต่างวิ่งเข้ามาในลานบ้านด้วยความพร้อมเพรียง ซูเจ๋อเปิดประตูก็เห็นเฉินเสียนถูกองครักษ์ห้อมล้อม
องครักษ์กล่าวว่า "ท่านอ๋อง คนผู้นี้บุกเข้าจวนยามวิกาล มีเจตนาร้าย ควรจัดการเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ?"
ซูเจ๋อไอเบาๆหนึ่งครั้ง กล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า "นางเป็นสหายเก่าของข้า"
องครักษ์กล่าวอย่างฉงนใจ "แต่นางปีนข้ามกำแพงมาพ่ะย่ะค่ะ"
ซูเจ๋อมองเฉินเสียน กล่าวว่า "มันไม่ส่งผลที่นางเป็นสหายเก่าของข้า"
จากนั้นองครักษ์ในลานบ้านพลันถอยไปอย่างเป็นระเบียบ เฉินเสียนก้มหน้าปัดใบหน้าบนชายเสื้อ
ซูเจ๋อยืนอยู่ใต้ระเบียง พลางถามเสียงนุ่มนวล "เหตุใดจึงมาเวลานี้"
เฉินเสียนเม้มปาก มองเขาแวบหนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "พรุ่งนี้จะไปแล้ว จึงคิดจะมาขโมยท่านก่อนเดินทาง"
อันที่จริงคืนนี้เธอดื่มชาเยอะจนนอนไม่หลับ หัวใจเต้นแรงจนคล้ายกับกระดอนเข้าในสมองเป็นระยะ คล้ายกับมีสิ่งของแหลมคมอยู่ในศีรษะของเธอ ทำให้ระหว่างคิ้วชนกันด้วยความปวดศีรษะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...