ซูเจ๋อดึงเฉินเสียนขึ้นมา ทาบบนร่างเธอ ดวงตาเธอชุ่มชื้น จะอ้าปากพูด แต่ถูกซูเจ๋อเกี่ยวกระหวัดลิ้น
เขาจงใจใช้ปลายลิ้นปลุกเร้าเธอ เขารู้ว่าเป็นจุดอ่อนไหวของเธอ เธอต้านทานปลายลิ้นของเขาไม่ได้
เมื่อนิ้วบนเอวขยับเสื้อผ้าพลันแหวกออก ทิวทัศน์ใต้อาภรณ์ช่างงดงามหยาดเยิ้มยิ่งนัก
ซูเจ๋อกล่าวเสียงทุ้มต่ำบริเวณคอเธอ "คืนนั้นท่านถามข้าว่ามีคนเคยกอดข้า เคยจูบข้าหรือไม่ มีคนเคยจับใบหน้าของข้า จับเสื้อผ้าของข้า"
เขาดึงเสื้อเธอออกช้าๆ น้ำเสียงราวกับต้องมนตร์สะกดทำให้เธอละลายจากความอ่อนโยนที่ปกคลุมเข้าใส่ "ท่านถามข้าว่า มีคนเคยร้องไห้ในอ้อนกอดของข้าเช่นท่านหรือไม่"
เขาช่วยเธอกล่าวความในใจออกมา ทุกถ้อยคำนั้นคั้นออกมาจากใจทั้งสิ้น "ท่านยังถามข้าว่า เหตุใดไม่รอท่านต่อ ท่านบอกว่าท่านจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง ท่านอยากให้ทุกคนเกรงกลัวท่าน แล้วท่านจะพาข้ากลับไปด้วยตัวเอง"
มือของซูเจ๋อลอดเข้าใต้ชายเสื้อแล้วลูบไล้เอวบางของเฉินเสียน
เฉินเสียนตัวสั่นจากการลูบไล้ของเขา ดวงตาเริ่มเร่าร้อน เสียงที่เค้นออกมาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นอ่อนโยนน่าหลงใหล เธอกัดริมฝีปากกล่าวว่า "แล้วท่านตอบข้าเช่นไร……"
ซูเจ๋อคลอเคลียอยู่แถวคอกับกระดูกไหปลาร้า พลางทิ้งร่องรอยจุมพิตบนผิวขาวผุดผ่องของเธอเหมือนทุกครั้ง เขามักจะประทับตราสัญลักษณ์ของตัวเองบนเรือนร่างเธอด้วยความฮึกเหิม
ซูเจ๋อกล่าว "ข้าตอบว่า นอกจากท่านแล้วก็ไม่เคยแตะต้องสตรีอื่น ท่านให้ข้ารอท่าน ข้าก็รอเสมอมา และข้าก็อยากให้ท่านรอข้าด้วย"
ซูเจ๋อดึงมือเธอไปที่เอวของตน มือของเฉินเสียนไร้เรี่ยวแรง ปล่อยให้เขานำมือตัวเองเพื่อถอดเสื้อของเขาตามอำเภอใจ
ซูเจ๋อกล่าวอีกว่า "คำถามนี้ตอบเรียบร้อยแล้ว งั้นก็เข้าสู่คำตอบต่อไปเลย พวกเรามาคุยเรื่องวังหลังของท่านกัน"
เฉินเสียนกะพริบตาปริบๆ กล่าวว่า "เมื่อครู่ไม่ใช่คุยเสร็จแล้วหรือ พวกเขาไม่ใช่……"
ซูเจ๋อก้มลงที่ไหล่ของเธอ อาภรณ์พลันลื่นลงมาอยู่ด้านล่างบ่า เขาดูดซึมกลิ่นหอมละมุนละไมเฉพาะตัวของเธอ กล่าวเสียงแหบพร่าว่า "แล้วเย่ซวิ่นล่ะ เขาคือสนมชายของท่านหรือ"
"ใช่ เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งนานแล้วนี่" เฉินเสียนดึงตัวเองออกจากความอ่อนหวานและนุ่มนวลของเขา ทำให้ตัวเองรู้สึกตัวขึ้นสองส่วน เล่าให้เขาฟังอย่างจริงจัง "ข้าไม่อยากเกี่ยวดองกับเย่เหลียง ท่านนั่นแหละที่โน้มน้าวให้ข้ารับเขาเข้าวังหลัง ท่านเป็นคนผลักข้าให้ยอมรับเขาเอง ท่านแอบหารือแล้วตัดสินใจกับจักรพรรดิเย่เหลียงลับหลังข้า"
เธอเงยหน้ามองใบหน้างดงามไร้ที่ติของซูเจ๋อ เห็นเขาขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้เพราะเหตุใดผ่านไปหลายปีจึงจะรู้สึกยินดีปรีดาหลังจากที่จำใจต้องยอมรับเย่ซวิ่นด้วยความอัดอั้นตันใจ
เธอกล่าวกับซูเจ๋อว่า "ท่านลืมเรื่องพวกนั้นหมดแล้ว เวลานี้มาพูดถึงอีกครา ท่านคงรู้สึกคล้ายกับเอาก้อนหินมาทุบเท้าของตัวเองสินะ?"
ซูเจ๋อลูบจับใบหน้าของเธอ กล่าวว่า "ท่านกำลังมีความสุขบนความทุกข์ของข้าหรือ?"
พูดพลางใช้มืออีกข้างประคองเอวของเธอขึ้นมา สองเท้าของเฉินเสียนจึงห่างจากพื้นในชั่วพริบตา เวลาเดียวกันเธอยังรับรู้ได้ถึงความแข็งอันเร่าร้อนที่พร้อมจะบุกได้ทุกเมื่อ
เธออ้าปากคล้ายกับหัวใจกระดอนติดอยู่ที่คอจนพูดไม่ได้
ซูเจ๋อดึงเธอมาทับตัวเองอย่างแนบแน่นไปพลาง กล่าวไปพลาง "แต่ข้าได้ยินว่าระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ท่านกับเขารักใคร่กลมเกลียวกันยิ่งนัก? ท่านกับเขานอนเตียงเดียวกัน เขาช่วยปัดเป่าความเหงาทิ้ง?"
เฉินเสียนกล่าวด้วยความตื่นตระหนก "ใครบอกท่าน?" ยังไม่ทันสิ้นเสียง น้ำเสียงเจือความสั่นคลอน เธอกล่าวด้วยเสียงอู้อี้ "วู่" หนึ่งคำ
ความเผ็ดร้อนนั้นสัมผัสที่ขาของเธอ หากเขาขยับกายเล็กน้อยก็จะสามารถรุกล้ำเข้าไปได้แล้ว
ทันใดนั้นเฉินเสียนรู้สึกตื่นตกใจยิ่งนัก ทว่าเธอไม่มีพื้นที่ให้ถอยหลังแล้ว ดวงตาแดงก่ำที่เปียกชื้นมองซูเจ๋อ สองมือดันหน้าบนไหล่ของเขาเพื่อพยุงร่างกายไม่ให้ลื่นไหลลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...