ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 77

สรุปบท บทที่ 77 ตั้งใจเมินใส่เขา: ข้าคือหงส์พันปี

ตอน บทที่ 77 ตั้งใจเมินใส่เขา จาก ข้าคือหงส์พันปี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 77 ตั้งใจเมินใส่เขา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ข้าคือหงส์พันปี ที่เขียนโดย เฉียน หราน จวิน เสี้ยว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

"ชูวว!" เฉินเสียนจุปาก : "อย่าพูดไปเรื่อยสิ พูดแบบนี้เท่ากับหาเหาใส่หัวตัวเองรู้หรือไม่? เราไม่ได้เป็นคนเผาห้องครัวเสียหน่อย ฟืนมันหล่นลงมาจากเตาเอง เกี่ยวอะไรกับเรากันเล่า? ถือโอกาสที่ทุกคนกำลังช่วยกันดับไฟ เรารีบไปกันเถอะ!"

เสียงซุบซิบคุยกันของนายบ่าวคู่นี้ เข้าหูฉินหรูเหลียงทุกคำ

ถ้าเกิดเขาไม่ได้ยินเองกับหู บางทีเขาอาจจะไม่โกรธขนาดนี้

ผู้หญิงคนนี้ เผาทั้งห้องครัวแล้ว ทำผิดยังคิดจะบ่ายเบี่ยงหลบหนี

ในขณะที่เฉินเสียนกำลังเตรียมตัวจะหนีนั้น ยังไม่ทันจะก้าวขา ก็เห็นเข้ากับเงาๆ หนึ่งปรากฏขึ้นด้านหน้าของเธอ กลิ่นไอความเย็นยะเยือกนี้ เกิดขึ้นในฤดูร้อนอย่างน่าแปลกใจ

เฉินเสียนที่ดำไปทั้งหน้า ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง

ก็เจอเข้ากับฉินหรูเหลียง ฉินหรูเหลียงที่ใบหน้าไม่ได้ดำ แต่กลับรู้สึกว่าดำมืดยิ่งกว่าใบหน้าของเธอเสียอีก......

ใบหน้าของฉินหรูเหลียงในตอนนี้น่ากลัวเสียยิ่งกว่าภูตผีปีศาจ เขาจ้องตาเขม็งมายังเฉินเสียน : "ได้ยินมาว่าท่านเผาห้องครัว แล้วตอนนี้ก็กำลังคิดจะหนี?"

เฉินเสียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาดใจ : "โอ๊ะโอ ได้ยินมาว่าเซียงซั่นกับหลิ่วเหมยอู่ตีกันรุนแรงมาก ดูเหมือนอีกคนจะแท้งลูกไปแล้ว ท่านแม่ทัพฉิน แต่ดูเหมือนท่านจะยังว่างเดินเล่นไปทั่วนะ?"

เฉินเสียนชอบโรยเกลือลงบนแผลของเขาเสมอ

"ดูแล้วท่านคงไม่ได้สำนึกในความผิดแม้แต่นิดเดียวสินะ!"

เฉินเสียนตอบกลับเสียงฉุนจัด : "ห้องครัวก็เอาไว้จุดไฟอยู่แล้ว ข้าก็แค่เข้าไปเพียงเดี๋ยวเดียว แล้วจู่ๆ ไฟมันก็ไหม้ขึ้นมาเอง ข้าจะทำยังไงได้ล่ะ? ดีที่ข้าแคล้วคลาดปลอดภัย ก็แค่ความซวยซ้อนความซวย ทำอย่างกับว่าห้องครัวไม่กี่ห้องจะสำคัญกว่าชีวิตข้าอย่างนั้นแหละ?"

ฉินหรูเหลียงหัวเราะด้วยความโกรธ : "ท่านหลงตัวเองให้มันน้อยๆ หน่อย"

เฉินเสียนเอียงคอ ยิ้มเจื่อน : "ข้าจะหลงตัวเองแบบนี้ แล้วท่านจะทำไม?"

ฉินหรูเหลียงสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ จ้องไปยังเค้กที่อยู่ในแขนของเฉินเสียน แล้วจึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา : "นั่นคืออะไร?"

เฉินเสียนตอบด้วยสีหน้าแววตาที่นิ่งและสุขุม : "เค้กวันเกิดที่ทำให้จิ้งจอกเหลียนของเรา หลบหน่อย ข้าจะรีบไปส่งเค้กที่บ้านของเหลียนชิงโจว"

ฉินหรูเหลียงเดือดจัดขึ้นมาทันที : "เพื่อจะทำสิ่งนี้ ถึงขั้นเผาห้องครัว? เรื่องเผาห้องครัวก็อีกเรื่องหนึ่ง แล้วนี่ท่านยังจะไปสังสรรค์วันเกิดของชายผู้อื่นอีกรึ?"

เฉินเสียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย : "ก็เพื่อจะสังสรรค์วันเกิดของจิ้งจอกเหลียนนี่แหละ ข้าถึงได้ทำแบบนี้"

ฉินหรูเหลียงรู้สึกเหมือนว่าปอดของตัวเขาจะระเบิดเสียให้ได้ : "รอให้เทียบค่าเสียหายของห้องครัวตามบทลงโทษของกฎหมายในบ้านก่อน จะไปก็ค่อยไป! ข้าจะดูว่าท่านยังจะเหลือขาข้างไหนให้ก้าวออกจากประตูจวนนี้ได้อีก"

เพียงครู่เดียวพ่อบ้านก็มาถึง ฉินหรูเหลียงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา : "องค์หญิงเผาห้องครัว ตามกฎหมายของบ้านแล้วจะต้องจัดการยังไง?"

เมื่อพ่อบ้านได้ทำความเข้าใจกับเหตุการณ์แล้ว จึงพูดขึ้นด้วยอาการสั่นเล็กน้อย : "เรียนท่านแม่ทัพ บ่าวได้ยินมาว่าองค์หญิงเข้าครัวเองจึงทำให้ห้องครัวไฟไหม้ ขอเพียงแค่องค์หญิงไม่เป็นอะไร......แค่นี้ก็ดีแล้วขอรับ"

ฉินหรูเหลียงส่งสายตาคมกริบดุจใบมีด

พ่อบ้านจึงรีบปาดเหงื่อพร้อมกับพูดต่อว่า : "หากองค์หญิงมีกำลังที่จะสามารถซ่อมแซมห้องครัวได้......ก็ไม่ต้องถูกลงโทษขอรับ"

เฉินเสียนยิ้มขึ้นที่มุมปาก พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "อันนี้ง่ายมาก พ่อบ้าน เดี๋ยวเจ้าไปเบิกเงินที่ห้องฝ่ายบัญชี แล้วก็นำมันไปซ่อมแซมห้องครัว"

ฉินหรูเหลียงแววตาดุดันราวกับว่าจะกินคนเสียให้ได้ : "เฉินเสียน หมายถึงให้ท่านเป็นคนออกเงินส่วนนี้ ไม่ใช่ให้ไปเบิกเงินที่ห้องฝ่ายบัญชี!"

เฉินเสียนรีบตอบกลับไปว่า : "แบบนี้ไม่ได้สิ ข้าคือภรรยาของท่านแม่ทัพ เงินของท่านก็เท่ากับเงินของข้า นี่เป็นสมบัติร่วมระหว่างสามีภรรยา"

ฉินหรูเหลียงพูดอะไรไม่ออก : "......" หมายความว่าผู้หญิงคนนี้เผาห้องครัวแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ต้องถูกลงโทษ แล้วยังจะต้องให้เขาเป็นคนออกเงินซ่อมแซม และนางเองเข้าครัวด้วยตัวเองเพื่อจะทำของกินไปให้กับชายผู้อื่น?

เมื่อเห็นเฉินเสียนดึงแขนของอวี้เยี่ยนพากันเดินออกไป ฉินหรูเหลียงจึงออกคำสั่งว่า : "ตีขาของผู้หญิงคนนี้ให้หัก!"

แต่แล้วก็ไม่มีใครกล้าออกมาตีแม้แต่คนเดียว

นางเมินใส่เขาเสมอ

ฉินหรูเหลียงรู้สึกว่าตัวเองกินยาผิดรึไงกันนะ ต่างคนต่างอยู่ไม่เกี่ยวข้องกันก็ดีอยู่แล้วนี่ เฉินเสียนจะไปที่ไหน จะไปทำอะไร เขาไม่จำเป็นต้องห่วงเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยากจะไปยุ่งเรื่องของนางนักล่ะ?

เขาคิดว่า อาจจะเป็นเพราะกลัวว่าเฉินเสียนจะไปก่อความวุ่นวายให้เขาอับอายขายหน้าได้

แต่คนที่จะขายหน้าก็ควรจะเป็นเฉินเสียนที่ขาดพื้นฐานจริยธรรมและเป็นผู้ถูกวิพากษ์วิจารณ์สิถึงจะถูก

แต่เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ฉินหรูเหลียงก็ยังรู้สึกโกรธไม่หาย

"องค์หญิง รู้สึกว่าท่านแม่ทัพจะใส่ใจเรื่องที่องค์หญิงออกมาหาคุณชายเหลียนมากนะเพคะ"

"เขากลัวว่าข้าจะไปสร้างเรื่องสร้างราวขายหน้าไว้ข้างนอกน่ะสิ" เฉินเสียนพูดขึ้นอย่างโกรธแค้น : "เพียงแต่ตอนนี้ข้าไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปทุ่มให้ผู้ชาย ไม่อย่างนั้นข้าจะสวมเขาให้เสียจนนับไม่ถ้วน"

อวี้เยี่ยนกลอกตามองบน : "องค์หญิงยังจะคิดเลี้ยงผู้ชายอีกหรือเพคะ องค์หญิงอย่าสอนเด็กในท้องให้เสียผู้เสียคนเชียวนะเพคะ"

ในตอนแรกเธอคิดว่าที่งานเลี้ยงบ้านเหลียนชิงโจวคงจะเริ่มมีแขกทยอยมาแล้วไม่น้อย นึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีแม้แต่คนเดียว มันช่างรู้สึกเหงาและเงียบสงัดจริงๆ

ในห้องอาหารมีตะเกียงเปลวไฟสีเหลืองทองสว่างไสว คนรับใช้กำลังจัดเรียงอาหารมื้อค่ำบนโต๊ะ ดูไปแล้วแต่ละอย่างเป็นของโปรดของเฉินเสียนทั้งนั้น

"ทำไมถึงไม่เชิญญาติสนิทมิตรสหายมาด้วย?" เฉินเสียนถามขึ้น

เหลียนชิงโจวตอบกลับด้วยท่วงท่าที่สง่างาม : "กลางเมืองหลวงนี้นอกจากองค์หญิงแล้ว กระหม่อมก็ไม่มีมิตรสหายอื่นอีก"

คนที่คบค้าสมาคมกับเหลียนชิงโจวก็ไม่ใช่จะน้อยๆ เพียงแต่ว่าคืนนี้เขาต้องการเชิญเฉินเสียนเพียงแค่คนเดียว เพื่อนเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องมาปรากฏตัวอยู่ในงานค่ำคืนนี้

"บ้านของเจ้ามีลูกเชอร์รี่หรือไม่?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี