ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 101

“พี่ พี่เท่เกินไปแล้วหรือเปล่า!”

บนรถแลมโบร์กินี เจียงหลายมองเจียงเฉียงและเอ่ยด้วยแววตาเคารพนับถือ

“มีอะไรงั้นเหรอ?”

“พี่ดูสิ บอสที่ใหญ่ระดับนั้นยังนอบน้อมกับพี่มากๆ ฉันนึกว่าจะจบเห่แล้วซะอีก” เจียงหลายเอ่ยอย่างหวาดผวาเล็กน้อย

“วางใจเถอะ ตราบใดที่มีพี่อยู่ ก็จะไม่มีวันให้เธอถูกทำร้ายแน่นอน” เจียงเฉิงมองเจียงหลายและเอ่ยอย่างจริงจัง

ตอนที่เจียงเฉิงยังมีชีวิตอยู่ เขาตั้งใจเรียนมาโดยตลอด ก็เพื่อที่จะให้ครอบครัวมีชีวิตที่สุขสบาย ให้พ่อแม่ของเขาไม่ต้องลำบากมากเกินไป

“ฮิฮิ พี่ มีพี่นี่ดีจริงๆเลย” เจียงหลายยิ้มเอ่ยกับเจียงเฉิง

“เป็นยังไงบ้าง? บ้านหลังที่ซื้อเมื่อกี้นี้ ถูกใจเธอหรือเปล่า?” เจียงเฉิงถาม

“ถูกใจสิ นั่นเป็นบ้านร้อยหกสิบตารางวาเชียวนะ ซ้ำยังอยู่ที่คังซินยี่พินอีกต่างหาก ไม่กล้าจินตนาการเลยด้วยซ้ำ” เจียงหลายเอ่ยอย่างดีใจ

“ดี ในเมื่อถูกใจเธอ งั้นก็ต้องถูกใจพ่อกับแม่ด้วยแน่ ๆ เพราะเป็นบ้านตกแต่งพร้อมอยู่ เธอกับพ่อแม่ก็รีบย้ายเข้าไปอยู่กันได้เลย” เจียงเฉิงยิ้มเอ่ย

เจียงเฉิงส่งเจียงหลายกลับมาถึงบ้าน ก็ขับรถกลับบริษัทไปรับสวี่ฉิง ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมานานขนาดนี้แล้ว สวี่ฉิงกับหยางหมี่ก็น่าจะพูดคุยตกลงเรื่องพรีเซนเตอร์กันได้แล้ว

“เมีย ตอนนี้เธอยังอยู่ที่บริษัทหรือเปล่า?”

เจียงเฉิงโทรหาสวี่ฉิง

“ไม่อยู่ พ่อรู้ว่าฉันจัดการเรื่องพรีเซนเตอร์ได้แล้วก็ดีใจมากๆ ก็เลยออกมาซื้อภาพวาดฉลองสักหน่อย” สวี่ฉิงเอ่ย

“อยู่ไหน? ฉันไปรับพวกเธอเอง”

“อยู่ที่เมืองโบราณ” สวี่ฉิงตอบ

“โอเค” เจียงเฉิงตอบรับ ก็รีบขับรถไปยังเมืองโบราณทันที

ณ เมืองโบราณแห่งหลูหยาง

“คุณสวี่ นี่คือภาพวาดที่คุณเลือก ใส่ในกล่องให้เรียบร้อยแล้วครับ” เจ้าของร้านที่ไว้เคราแพะยื่นกล่องภาพวาดให้สวี่จื้อจุนหน้ายิ้มๆ

“ไม่เลว ไม่เลวจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอผลงานแท้ของอู๋เต๋าจื่อที่นี่”

“นั่นสิครับ ผมว่าเป็นเพราะคุณตาถึงสักมากกว่า ซื้อภาพนี้ด้วยเงินสามแสน ถือว่าคุณกำไรมากเลยนะครับ”

เจ้าของร้านเคราแพะเองก็รีบพูดประจบเอาใจทันที

สวี่จื้อจุนพยักหน้าเห็นด้วย อู๋เต๋าจื่อมีฉายาว่าเทพนักวาด ภาพวาดของเขานั้นพบเจอได้ยากมากๆ แค่ภาพวาดง่ายๆเพียงหนึ่งภาพก็ยังสามารถขายได้ถึงหลายล้าน คิดไม่ถึงเลยว่าที่เจอที่นี่จะขายเพียงสามแสนเท่านั้น

“คุณเจ้าของร้าน ภาพวาดนี้เราก็ยังไม่ได้เอาไป และพ่อฉันก็มองพลาดไปจริงๆ เพราะฉะนั้นคุณเองก็คืนเงินให้เรา เป็นไง?” สวี่ฉิงเองก็เดินไปเจรจากับเจ้าของร้านเคราแพะ

“ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะขายออกไปนานขนาดไหน ตราบใดที่ขายออกไปแล้ว ก็จะไม่สามารถคืนสินค้าได้” เจ้าของร้านเคราแพะเองก็ไม่โง่ กว่าจะขายออกไปได้ในราคาสูงๆก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาจะยอมคืนเงินได้ยังไงกัน

สวี่จื้อจุนกลับยังคงรู้สึกเจ็บใจ พลันโต้เถียงกับเจ้าของร้านขึ้นมา ทว่าเจ้าของร้านเองก็ไม่ยอมสักที

ไม่นาน เสียงทะเลาะวิวาทก็ดึงดูดคนมาล้อมดูไม่น้อย

“ดูจากสถานการณ์แล้ว เจ้าของร้านคนนี้หลอกคนอีกแล้วงั้นเหรอ?”

“ใช่แล้วล่ะ ฉันเห็นมาหลายครั้งแล้ว ของที่เขาก็รู้ว่าเป็นของปลอม ก็ยังจะหลอกขายเป็นของแท้อีก พ่อค้าไร้ศีลธรรมชัดๆ”

“ไป ๆ ๆ เกี่ยวอะไรกับพวกคุณกันล่ะ ผมจะรู้ได้ไงว่านั่นคือของปลอม ผมก็มองพลาดไปไม่ได้เหรอ?” เจ้าของร้านเคราแพะได้ยินคนรอบข้างตำหนิตัวเอง ก็พลันรีบโต้กลับทันที

“คุณเจ้าของร้าน ถ้าคุณไม่รู้งั้นก็ไม่โทษคุณ แต่ถ้าคุณรู้มาแต่แรกว่ามันคือของปลอม งั้นก็ขาดจรรยาบรรณเกินไปแล้วหรือเปล่า?”

สวี่จื้อจุนได้ยินคำพูดของคนรอบข้าง ก็เข้าใจแล้วว่าเจ้าของร้านคนนี้เป็นคนยังไง พลันโต้เถียงอย่างโมโหเล็กน้อย

“คุณผู้ชาย การค้าขายก็เป็นแบบนี้แหละ ฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ ภาพนี้ถ้าคุณจะเอา ก็เอากลับไป ถ้าไม่อยากได้ ก็ทิ้งเอาไว้ ยังไงซะ ผมก็ไม่มีทางคืนเงินให้คุณแน่ ๆ” เจ้าของร้านทำตัวไร้เหตุผลขึ้นมาทันที

เจ้าของร้านพูดดังนั้น ก็กลับเข้าไปในเคาน์เตอร์ ไม่สนใจสวี่จื้อจุนอีก ยังไงซะ เงินที่มาอยู่ในมือเขา เขาก็ไม่มีทางคืนกลับไปอีกเด็ดขาด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง