“ไม่มีอะไร ฉันก็แค่เห็นว่าตรงนี้เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ก็เลยมาดูน่ะ ไม่เป็นไรแล้ว ไปกันเถอะ” เจียงเฉิงพูดจบก็ออกไปจากที่นี่กับฟางหลันหลัน
“เจ้าคนบัดซบ อย่าให้ฉันจับได้เชียวล่ะ!”
มู่หรงเสวี่ยมองแผ่นหลังของเจียงเฉิง ทุกครั้งที่เจอเจ้าหมอนี่เธอก็จะซวยตลอด
“ถอยไปหน่อย! ถอยไปหน่อย!”
หลังจากที่รถพยาบาลมาถึง เจ้าหน้าที่ก็ยกตัวหญิงชราขึ้นเปลทันที หมอที่ตามลงมารีบตรวจดูอาการของหญิงชรา ก่อนจะถอนหายใจโล่งอก เอ่ยว่า “ร่างกายปกติดีมากๆ โชคดีที่ไม่เป็นอะไร”
จู่ ๆหมอก็เห็นไส้ปากกาที่ปักไว้บนหน้าอกของหญิงชรา พลันรู้สึกตกตะลึง
“นี่ใครเป็นคนทำงั้นเหรอ?”
“ชายหนุ่มคนหนึ่งทำไว้เมื่อกี้นี้น่ะ” มู่หรงเสวี่ยขมวดคิ้วถามว่า “มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไร เพียงแต่ นี่......ฝีมือการแพทย์ยอดเยี่ยมมากเกินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่หมอที่มีชื่อเสียง ก็ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ด้วยซ้ำ” หมอพูดอย่างตกตะลึง
เดิมทีมู่หรงเสวี่ยนึกว่าเจียงเฉิงทำอะไรผิด คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกชมว่าฝีมือการแพทย์ยอดเยี่ยมซะงั้น
หลังจากที่หมอพาหญิงชราขึ้นรถ ก็รีบติดต่อหาเบอร์โทรหนึ่งทันที
“ฮัลโหล? อาการแม่ผมเป็นไงบ้าง?” เสียงร้อนรนของผู้ชายคนหนึ่งดังลอดออกมาจากโทรศัพท์
“คุณต่งสบายใจได้เลยครับ อาการของแม่คุณไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เหมือนว่าจะมีชายหนุ่มคนหนึ่งช่วยไว้ได้ทันเวลาน่ะ พวกผมก็เลยมาทันอย่างเฉียดฉิว” หมอตอบ
“ชายหนุ่มคนหนึ่ง? ชื่ออะไร?”
“อันนี้ผมก็ไม่ทราบครับ”
“ไปสืบให้แน่ชัด ผมต่งเหล่ยไม่ใช่คนไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณ”ต่งเหล่ยเอ่ยผ่านโทรศัพท์
“ครับๆ ๆ ผมจะให้คนไปสืบเดี๋ยวนี้” หมอพูดจบก็วางสายทันที เขาเองก็ถอนหายใจโล่งอก เพราะเขาเป็นหมอส่วนตัวที่รับผิดชอบดูแลหญิงชราอยู่แล้ว นี่ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา เขาเองก็จะซวยไปด้วย
จนกระทั่งถึงตอนกลางคืน กว่าเจียงเฉิงจะส่งฟางหลันหลันเสร็จและกำลังจะกลับบ้าน จู่ ๆโทรศัพท์เขาก็พลันดังขึ้นมาเสียก่อน
“พ่อ? มีอะไรงั้นเหรอครับ?”
เจียงเฉิงเห็นว่าสวี่จื้อจุนเป็นคนโทรมา ก็พลันรีบถามทันที
“เจียงเฉิง เมื่อวานพ่อพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดกับนายหรือเปล่า?” สวี่จื้อจุนถามอย่างละอายเล็กน้อย
เจียงเฉิงรู้สึกขบขัน เมื่อวานพ่อตาเขาดื่มเหล้า แล้วเอาแต่เร่งให้เขากับเจียงเฉิงมีลูกกัน ก็พูดอะไรที่ไม่สมควรพูดจริงๆ
จากนั้นฮั่วหลิงหลงก็ส่งพิกัดมาให้เจียงเฉิง ระยะทางไม่ถือว่าไกลมาก
ณ บลูมูน บาร์
เจียงเฉิงเพิ่งเคยมาผับครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็เคยไปแค่ไนต์คลับเพราะเจียงหลาย
ตอนที่เดินอยู่ในผับ ทุกที่มีแต่แสงไฟระยิบระยับที่แสบตา แล้วยังมีเสียงดนตรีที่ดังสนั่นหู
บนฟลอร์มีหนุ่มสาวที่แต่งตัววับแวมมากมาย กำลังโยกส่ายร่างกายที่อ่อนเยาว์และเย้ายวนของตัวเองกันอย่างเมามันส์ ราวกับว่ากำลังระบายความกดดันที่สั่งสมมาเยอะในวันธรรมดา
เดินไปได้ไม่ไกล เจียงเฉิงก็เห็นฮั่วหลิงหลงที่สวมชุดสีแดงนั่งดื่มเหล้าตรงหน้าเคาน์เตอร์บาร์คนเดียว
“พี่หลิงหลง” เจียงเฉิงเดินไปทักทาย
ณ ตอนนี้ ฮั่วหลิงหลงมึนเมาเล็กน้อย เธอหันตัวไปอย่างเย้ายวน เมื่อเห็นเจียงเฉิง รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าเธอทันที “น้องชายคนดี ในที่สุดก็มาแล้วสักที อยากจะดื่มอะไรสักหน่อยไหม?”
เจียงเฉิงมองการแต่งกายของฮั่วหลิงหลงเล็กน้อย เธอสวมชุดเดรสคอกว้าง เผยหน้าอกขาวเนียนที่อวบอิ่ม เมื่อมองลงไปในร่องลึก ก็จะลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น
“ผมไม่ดื่มเหล้า ผมแค่อยากซื้อเหล้ากลับบ้าน” เจียงเฉิงมองผู้หญิงตรงหน้าที่เย้ายวนยิ่งกว่าสิ่งใด หัวใจก็พลันเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ทำไม? ดูแคลนพี่สาวเหรอ?” ฮั่วหลิงหลงยื่นตัวเข้าไปใกล้เจียงเฉิง แล้วพูดยิ้มเสียงยั่วที่ข้างหูเจียงเฉิงว่า “หรืออยากจะให้พี่สาวป้อนนายงั้นเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง