“ไม่ให้เงินก็ไม่เป็นไร แต่ต่อไปนายจะต้องเรียกฉันว่าคุณปู่” เจียงเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเบาๆ
"นายนี่มัน……"
หยวนห้าวชี้ไปที่เจียงเฉิงอย่างโกรธเคือง เขาไม่เคยรู้สึกอัดอั้นเท่านี้มาก่อน
“ฉันทำไมเหรอ? เมื่อสักครู่คณบดีเสิ่นและหัวหน้าหลูเป็นพยานอยู่นะ หรือว่าต้องการให้ฉันตามพวกเขามาเพื่อพิสูจน์?”
เจียงเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเบา ๆ
“มึงแม่ง ลูกเขยไม่เอาไหน ดันรักษาคนไข้ได้โดยบังเอิญ มันมีอะไรน่าภูมิใจเหรอ? นายมันไม่แมนเลย!” หยวนห้าวเยาะเย้ยเจียงเฉิง
“ฟังจากที่พูดแล้วเนี่ย นายจะไม่จ่ายเงิน และจะไม่เรียกฉันว่าคุณปู่ใช่มั้ย?” เจียงเฉิงถามพร้อมกับเยาะเย้ย
“เรียกปู่แม่มึงดิ พ่อฉันรองผู้อำนวยการ นายจะทำอะไรกับฉันได้?”
เดิมทีหยวนห้าวคิดว่าแม้ว่าเจียงเฉิงจะรักษาโรคของเคนให้หาย แต่ธุรกิจระหว่างพวกเขาจะสำเร็จ นี่คืองานค้าขายหลายร้อยล้าน ถ้าจะชดใช้เจียงเฉิงสักสิบล้านมันก็คงไม่เท่าไหร่
แต่ตอนนี้หยวนห้าวเห็นว่างานนี้ล่มแล้ว ถ้าเขาต้องจ่ายอีก 10 ล้าน เขาจะสูญเสียอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเจียงเฉิง และจะเดินจากไป เพราะคงไม่มีเรื่องอะไรอยู่แล้ว
แต่เมื่อหยวนห้าว เดินผ่านเจียงเฉิง เจียงเฉิงคว้าแขนหยวนห้าวเอาไว้ จากนั้นก็บิด แล้วกดตัวหยวนห้าวเอาไว้ได้
“ในเมื่อนายไม่อยากจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งจากสองอย่างที่กล่าวมา ฉันทำได้แค่เลือกทางอื่นให้ นายแล้วล่ะ หักแขนทิ้งซะ ดีไหม?” เจียงเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา
"ปล่อยฉัน!"
หยวนห้าวขยับตัวด้วยความโกรธ แต่เมื่ออยู่ในมือของเจียงเฉิงแล้ว มันไม่มีประโยชน์เลย ขณะที่เจียงเฉิงเตรียมหักแขนของหยวนห้าว จู่ๆ ก็มีเสียงที่สง่างามของชายคนหนึ่งดังขึ้น
“ใครใจกล้าเช่นนี้ กล้าที่จะมาหักแขนของลูกชายฉัน”
เจียงเฉิงหันไปมองและเห็นชายวัยกลางคนในชุดสูททางการ เขามีทรงผมมันเงา มาพร้อมกับให้เลขาแล้วเดินเฉันมาทางตน
“พ่อ พ่อมาแล้วเหรอ ดูเขาสิ!” หยวนห้าวดูเหมือนจะเห็นผู้ช่วยชีวิต
ชายวัยกลางคนที่เข้ามาคือพ่อของหยวนห้าว หยวนเทียนกัง เขาเป็นรองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แน่นอนว่าต้องสง่าและมีความน่าเกรงขามโดยธรรมชาติ
“รองผู้อำนวยการหยวน คุณอยู่ที่นี่เหรอ ยินดีต้อนรับครับ” หัวหน้าหลูรีบไปทักทายเขา และเสิ่นปิงก็ออกมาจากโรงพยาบาลเช่นกัน
“หัวหน้าหลู หมอของคุณเนี่ย ใจกล้าดีนะ ที่กล้าทำแบบนี้กับลูกชายฉัน?” หยวนเทียนกังมองเจียงเฉิงอย่างเย็นชา
เจียงเฉิงไม่รู้สึกเกรงกลัว เขามองจ้องไปที่ดวงตาของหยวนเทียนกัง
สีหน้าของหยวนเทียนกังก็ดูน่าเกลียดชั่วขณะหนึ่ง แต่ก็ทำอะไรเสิ่นปิงไม่ได้
“ทุกคน อย่าได้ทะเลาะกันเลย เราเฉันไปกันก่อนดีมั้ย ใจเย็นลงแล้วเราค่อยว่าเรื่องนี้กัน” หัวหน้าหลูประหม่าจนเหงื่อซึมเต็มหัว
เจียงเฉิงเป็นแพทย์อัจฉริยะที่ได้รับความเคารพจากอาจารย์ของเขา หยวนห้าวเป็นลูกชายของรองผู้อำนวยการ เสิ่นปิงเป็นคณบดีโรงพยาบาล และหยวนเทียนกัง ดันเป็นรองผู้อำนวยการที่ตามใจลูกชายมากซะด้วย พวกเขาล้วนเป็นคนที่ไม่ควรที่จะทำให้ขุ่นเคือง
“อย่าประจบเยอะ หลูเป่าถิง ฉันจะบอกให้นะ ถ้าวันนี้เขาไม่ปล่อยลูกฉัน ผลของการตรวจของโรงพยาบาลของนายจะเป็นยังไง ฉันคงไม่ต้องพูดเยอะใช่มั้น?” หยวนเทียนกังไม่เชื่อหรอกว่าเขาจัดการหมอแค่คนเดียวไม่ได้
“คุณหมอเจียง คิดซะว่าช่วยผมหน่อยแล้วกัน ปล่อยคุณหยวน ไปก่อนได้ไหม?” หัวหน้าหลูพูดอย่างรวดเร็ว
เจียงเฉิงเห็นว่าหัวหน้าหลูไม่เลว และเขาก็เป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์เชวี่ยอีกด้วย ไม่อยากจะทำให้เขาลำบากใจ ก็เลยปล่อย หยวนห้าว ไป
“นายมันเก่งมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่หักแขนฉันทิ้งซะล่ะ?” หยวนห้าวคำรามใส่เจียงเฉิงทันทีที่เขาถูกปล่อยตัว
“พ่อครับ เมื่อวานเขาโกงผมไป 9 ล้านแล้ว วันนี้เขาจะเอาเงินผมไปอีก เขารีดไถผม 10 ล้าน และยังทำให้งานของผลและคุณเคนล้มไม่เป็นท่า เขาก็แค่หมอคนหนึ่ง แต่เขาหยิ่งยโสอย่างมาก” หยวนห้าวกล่าวต่อหยวนเทียนกัง
เมื่อหยวนเทียนกัง ได้ยินเรื่องนี้ เขาก็โกรธทันที มองไปที่เจียงเฉิงและบอกว่า " นายเป็นหมอเหรอ? ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันขอประกาศว่า นายถูกถอนออกจากตำแหน่งแพทย์แล้ว และใบประกอบวิชาชีพของนายถูกยกเลิกเช่นกัน ตราบใดที่ฉันเป็นรอง ผอ.ต่อ นายก็ไม่มีวันได้อยู่ในวงการแพทย์อีกต่อไป”
หลังจากที่หยวนเทียนกังพูดจบ เขาก็รู้สึกอิ่มเอมใจ กล้าที่จะมารังแกลูกชายของเขา เป็นแค่หมอธรรมดา คิดว่าฉันจัดการไม่ได้หรือยังไง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง