ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 171

“ที่นั่งของคุณ? ฉันจองที่นั่งนี้ไว้แล้ว”หยางหมี่มองไปที่ชายวัยกลางคนและพูดอย่างเย็นชา

“เธอจองแล้วงั้นเหรอ?”

หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ที่อยู่ข้างชายวัยกลางคนหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “ใครมาร้านนี้บ่อยๆก็รู้ดีว่าที่นั่งนี้คือที่นั่งประจำของกู่ต้าเส้าของเรา กลางวันแสกๆสวมหน้ากากไว้ นี่เธอต้องหน้าตาขี้เหร่แค่ไหนกัน?”

หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่พูดและมองบน

“นี่เธอ....”หยางหมี่โกรธผู้หญิงเซ็กซี่คนนี้

เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เธอสวมกระโปรงกลวงๆ และดูเหมือนว่าเธอไม่ได้สวมอะไรอยู่ข้างในเพียงเพื่ออวดหุ่นเซ็กซี่ของเธอ

“คุณน่ะสิที่หน้าตาขี้เหร่ จมูกที่ทำมาก็พัง คางแหลมจนสามารถแทงคนได้ แม้แต่หน้าอกก็ปลอม เธอไปเอาความมั่นใจในการแต่งตัวแบบนี้มาจากไหน?” เจียงเฉิงมองหญิงสาวแล้วพูดอย่างเย็นชา

"นายว่าอะไรนะ?"

เมื่อผู้หญิงที่เซ็กซี่ได้ยินคำพูดของเจียงเฉิง เธอก็รู้สึกไม่มีความสุขในทันที เธอกอดแขน กู่ต้าเส้าเอาไว้ และพูดด้วยความอ้อนวอนว่า " กู่ต้าเส้า ฟังสิ สิ่งที่เขาพูดมานั้นใช่สิ่งที่มนุษย์เขาพูดกันไหม?”

เมื่อกู่ต้าเส้าได้ยินคำพูดของเจียงเฉิง เขาก็ไม่พอใจและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันทีว่า “ คนอย่างพวกนาย นั่งที่ไหนก็เหมือนกันหมดไม่ใช่เหรอ? วันนี้ฉันจะพาแฟนมาเจอครอบครัว แกสองคนไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวฉันจะไล่พวกแกออกไปให้หมด”

“อยากลงมือเหรอ? นายลองดูได้นะ!” เจียงเฉิงพูดเบา ๆ

“ทุกท่านคะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” พนักงานเสิร์ฟชายคนหนึ่งได้ยินการเคลื่อนไหวที่นี่จึงรีบเข้าไปถาม

“สองคนนั้น แย่งที่นั่งฉัน!”

กู่ต้าเส้ายืดชุดสูทของเขาและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า

“โปรดรอสักครู่นะครับ ผมจะตรวจสอบให้นะครับ”

หลังจากตรวจสอบแล้ว พนักงานเสิร์ฟชายก็พูดว่า "ที่นั่งตรงนี้มีท่านผู้หญิงจองไว้เรียบร้อยแล้วครับ"

“ใช่ ฉันจองแล้ว”หยางหมี่กล่าว

“ขอโทษที ทางเรามีกฎ ใครจองที่ไว้ก่อน สามารถนั่งที่ตรงนั้นได้ คุณผู้ชายลองหาที่นั่งอื่นดูนะครับ” พนักงานชายมองที่ กู่ต้าเส้าและพูดอย่างจริงจัง

คำพูดของพนักงานเสิร์ฟทำให้กู่ต้าเส้า ขบขันอย่างมาก

“พ่อหนุ่ม นายเพิ่งมาทำงานใหม่เหรอ?” กู่ต้าเส้า พูดพร้อมกับเยาะเย้ย

“ใช่ครับ มาได้เดือนเดียวเท่านั้นครับ” พนักงานเสิร์ฟพูด

“ถ้าอย่างนั้นนายไสหัวไปได้เลย แล้วตามผู้จัดการของพวกนายมา แล้วให้เขาแนะนำว่าฉันเป็นใคร และฉันสามารถนั่งตรงนี้ได้หรือไม่” กู่ต้าเส้าเอื้อมมือออกไปและตบหน้าพนักงานชายและพูดอย่างโกรธเคือง

หยางหมี่ก็อารมณ์เสียเพราะกู่ต้าเส้า นี้จนไม่อยากจะกินข้าวแล้ง " ช่างเถอะ เราเปลี่ยนโต๊ะแล้วกัน น่ารำคาญมาก”

"ไม่ หมี่เอ๋อร์ คุณรู้ไหมว่าความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับสัตว์คืออะไร? นั่นก็คือมนุษย์รู้ต้องต้องปฏิบัติตามกฎ แต่สัตว์ไม่ทำ" เจียงเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา

“ไอ้สารเลว นายด่าใคร?”

กู่ต้าเส้าฟังออกว่าเจียงเฉิงกำลังด่าตนว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน เขาชี้ไปที่เจียงเฉิงด้วยความโกรธ

เจียงเฉิงเอื้อมมือออกไปและคว้านิ้วของกู่ต้าเส้า เอาไว้และกดลงอย่างแรงจนกู่ต้าเส้านอนลงบนโต๊ะ

“เจ็บเจ็บ นิ้วของฉันกำลังจะหักแล้ว” กู่ต้าเส้าตบโต๊ะและตะโกน

“หักน่ะสิดีแล้ว คนอย่างนายจะได้จำซะบ้าง” เจียงเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา

"เกิดอะไรขึ้น?"

ชายอ้วนในชุดสูทที่มีตราผู้จัดการติดอยู่ก็เดินเข้ามา

“กู่ต้าเส้า?”

ผู้จัดการผางดูออกทันทีว่าคนที่เจียงเฉิงกดอยู่บนโต๊ะคือใคร เขารีบก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า "คุณผู้ชายครับ มีเรื่องอะไรเราคุยกันดีๆก็ได้ครับ”

หยางหมี่ไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่ เธอก็เลยดึงเจียงเฉิง เจียงเฉิงจึงได้ปล่อยเขาไป

“ผู้จัดการผาง คนที่ไม่มีมารยาทแบบนี้ คุณปล่อยเข้ามารับประทานอาหารได้ยังไง?” หลังจากที่กู่ต้าเส้าหลุดออกมาแล้ว เขาก็ตะโกนอย่างโกรธจัดทันที

“ครับครับ กู่ต้าเส้าพูดถูก”

เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้จัดการผางก็รีบตะโกนว่า “ผมจะไล่สองคนนี้ออกไปเดี๋ยวนี้ครับ”

ในร้านอาหารระดับไฮเอนด์แบบนี้ สิ่งพื้นฐานที่สุดคือการรักษาความปลอดภัยของแขกที่นี่ ดังนั้นจะมีการติดตั้งกองกำลังรักษาความปลอดภัยไว้ แต่จะไม่ใช้จนกว่าจะเป็นทางเลือกสุดท้าย

“ผู้จัดการผาง ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ เขากำลังจะแย่งที่นั่งของสองท่านที่จองเอาไว้ก่อนครับ” พนักงานเสิร์ฟรีบพูด

เพี๊ยะ!

ผู้จัดการผางตบหน้าพนักงานเสิร์ฟ “นายจะพูดมากทำไม? เป็นพนักงานเสิร์ฟของนายไปก็ดีแล้ว”

“ผู้จัดการผาง ทำแบบนี้มันไร้เหตุผลเกินไปหรือเปล่า?” เจียงเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา

“คุณผู้ชายครับ ผมต้องขอโทษจริงๆ หุ้นส่วนมากเป็นของคุณพ่อของกู่ต้าเส้า โปรดเห็นใจผมด้วยเถอะ” ผู้จัดการผางพูดกับเจียงเฉิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“คุณหมายความว่า คุณไม่อยากให้พ่อของเขาโกรธเคือง?”

เจียงเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา “แล้วนายรู้ได้อย่างไรว่าคนอย่างผมนายสามารถทำให้โกรธเคืองได้?”

เมื่อผู้จัดการผางได้ยินคำพูดของเจียงเฉิง เขาแทบจะกลั้นหัวเราะไม่ได้ ผู้จัดการร้านอาหารระดับไฮเอนด์อย่างเขามักจะต่อสัมพันธ์กับคนรวย เขาสามารถดูออกได้ทันทีว่าใครรวยหรือไม่รวย คนอย่างเจียงเฉิง เป็นผู้ชายที่ซ้อเลี้ยงดูไว้อย่างแน่นอน

“ต้องขออภัยจริงๆนะครับ ขอเชิญคุณออกไปเดี๋ยวนี้เลยครับ” เห็นได้ชัดว่าผู้จัดการผางไม่อยากพูดมากกับเจียงเฉิง

“ไม่ได้ วันนี้ฉันจะนั่งที่นั่งนี้!” เจียงเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

“ในเมื่อคุณผู้ชายเมินเฉิยเช่นนี้ ก็อย่าหาว่าผมใช้กำลังนะครับ รปภ.!”

ผู้จัดการผางตะโกนเสียงดังทันที

มีรปภ.จำนวนมากเข้าร้านมาตามเสียงที่ผู้จัดการผางเรียก

ลูกค้าที่อยู่รอบๆก็มองมาทางนี้ด้วยความสงสัยเช่นกัน

“ไอ้หนุ่มคนนี้ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเสียจริง กล้าที่จะมาหาเรื่องในสถานที่แบบนี้”

“ไม่ดูเลยว่าตัวเองกำลังทำให้ใครโกรธเคืองอยู่ แม้แต่กู่ต้าเส้า ก็กล้าที่จะต่อต้าน ปล่อยที่นั่งไปก็จบแล้ว?”

คนรอบข้างก็ส่ายหัว

“ใช่ คนที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงแบบนี้ ต้องตบปากแรงๆซะสองสามที” หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่ชี้ไปที่เจียงเฉิงและด่า

“เธอบอกว่าจะตบปากใครนะ?”

แววตาที่ดุร้ายของเจียงเฉิงมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น

หญิงสาวตกใจกับแววตาของเจียงเฉิง แต่เธอก็ได้สติทันที และตะโกนใส่เจียงเฉิงด้วยความใจกล้าว่า "ตบปากนายไง ปากดีนัก!"

ปกติเจียงเฉิงไม่ตีผู้หญิง แต่ผู้หญิงแบบนี้ สมควรโดนตี

เจียงเฉิงเหยียดมือออกและดึงคอเสื้อของผู้หญิงคนนั้นมา จากนั้นก็ง้างมือออกและตบเข้าที่หน้าของผู้หญิงคนนั้น

“รปภ. เข้าไปจัดการ!” กู่ต้าเส้าตะโกนอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเช่นนี้

แต่รปภ.สู้เจียงเฉิงไม่ได้เลย ในชั่วพริบตา พวกเขาทั้งหมดถูกเจียงเฉิงจัดการจนล้มอยู่กับพื้น ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกเจียงเฉิงโยนลงกับพื้นเช่นกัน คราวนี้จมูกและคางของเธอก็เบี้ยวไปหมด

“ไอ้สารเลว รอพ่อฉันมา แล้วฉันจะให้ท่านจัดการนายให้ตาย” กู่ต้าเส้าตะโกนใส่เจียงเฉิงอย่างโกรธจัด

“ดูเหมือนว่ายังต้องสั่งสอนนายอยู่ใช่ไหม?” เจียงเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา และเขากำลังเข้าใกล้กู่ต้าเส้าทีละก้าว

กู่ต้าเส้าตกใจมากจนก้าวถอยหลังทีละก้าว ในขณะนั้น ก็มีเสียงที่น่าเกรงขามดังขึ้น “ใครกันใจกล้าขนาดนี้ แม้แต่ลูกฉันก็กล้าที่จะสั่งสอน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง