ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 170

“เจียงเฉิงกลับมาแล้วเหรอ”

หลังจากที่เจียงเฉิงกลับบ้าน สวี่จื้อจุนทักทายเจียงเฉิงอย่างยิ้มแย้ม

“พ่อครับ ผมไปซื้อเหล้ามา ก็เลยกลับมาช้าครับ” เจียงเฉิงมองดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว เขาเร่งกล่าว

“ดีเลย พอดีเลยเหล้าที่นายเอากลับมาก่อนหน้านั้นใกล้จะหมดแล้ว”

เมื่อสวี่จื้อจุนเห็นเหล้าที่เขาเอากลับมา ก็พยักหน้าชื่นชม ตอนนี้ลูกเขยของตนนับวันก็ยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ เอาเหล้าดีๆปบบนี้กลับมาบ้านทุกครั้งเลย

“ พ่อครับ ผมเข้าห้องไปนอนก่อนนะครับ” เจียงเฉิงกล่าว

“เดี๋ยวก่อน แม่นายทำซุปเอาไว้ให้พวกแกสองคน นายยกเข้าไปด้วยแล้วกัน” สวี่จื้อจุนกล่าว

“ซุปอะไรเหรอครับ?” เจียงเฉิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ซุปของบำรุงดีๆ” สวี่จื้อจุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เจียงเฉิงพยักหน้า แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของสวี่จื้อจุนแล้ว ทำไมมันรู้สึกแปลกไปหน่อย?

“ที่รัก แม่ของเราทำซุปไว้ให้” เจียงเฉิงเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับซุปสองชาม

“ซุปอะไรเหรอ?”

สวี่ฉิงยังมองไปที่เจียงเฉิงและถาม

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เจียงเฉิงกล่าว

สวี่ฉิงรับซุปไปและกินมัน เจียงเฉิงก็กินเช่นกัน แต่หลังจากที่เจียงเฉิงกินมันลงไป ก็รู้สึกได้ความผิดปกติ

“ไม่น่าแปลกใจที่มันเป็นซุปบำรุงดีๆ” เจียงเฉิงส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ฝืนออกมา

"ไปอาบน้ำแล้วนอนซะ" สวี่ฉิงวางชามซุปที่กินจนหมดไว้ที่โต๊ะข้างเตียง

“โอเค” เจียงเฉิงเห็นด้วยและเข้าไปในห้องน้ำไป

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เจียงเฉิงรู้สึกว่าร่างกายตัวเองร้อนรุ่มอย่างมาก แต่ไม่นานมันก็ถูกระงับลงไปอย่างรวดเร็วโดยพลังจิตของเขา

“คราวนี้เราจะได้อุ้มหลานแน่นอน” สวี่จื้อจุนกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง แล้วมองดูเยจู้ผิงด้วยความภาคภูมิใจ

“ซุปนั่นจะใช้ได้ผมเหรอ?” เย่จู้ผิง

“ทำไมถึงใช้ไม่ได้ผลละ หมอบอกแล้วว่า ถ้าไม่มีลูก กฌกินซุปบำรุงนี้ซะ” สวี่จื้อจุนกล่าว

“ฉันหวังว่าจะเป็นแบบนั้น ” เย่จู้ผิงต้องการอุ้มหลานโดยเร็วที่สุด

หลังจากอาบน้ำแล้ว เจียงเฉิงเดินออกมจากห้องอาบน้ำ และเมื่อเขาเห็นภาพบนเตียง เขาแทบจะเลือดกำเดาไหลออกมา

สีหน้าของสวี่ฉิงแดงก่ำ ชุดนอนของเธอค่อนข้างหลุดลุ่ยเล็กน้อย ขาที่ยาวขาวสวยทับซ้อนอยู่ด้วยกัน และสัมผัสไปมาอย่างเป็นธรรมชาติ

“ที่รัก มานี่สิ” สวี่ฉิงชี้นิ้วไปที่เจียงเฉิง

“ที่รัก คุณกำลังทำอะไรอยู่” เจียงเฉิงถามด้วยน้ำเสียงที่รู้อยู่แล้ว

“ฉันให้นายมานี่!”

สวี่ฉิงไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิด เธอร้อนรุ่มอย่างมาก และอยากจะสนิทสนมกับเจียงเฉิง

เจียงเฉิงนั่งข้างสวี่ฉิง สวี่ฉิงมองเจียงเฉิงด้วยดวงตาที่มีหว่านเสน่ห์และพูดว่า "จูบฉัน"

"อะไรนะ?"

เมื่อเจียงเฉิงกำลังมึนงงอยู่ สวี่ฉิงได้จูบเจียงเฉิงไปแล้ว

เจียงเฉิงรู้สึกแปลกทันที ราวกับว่าไฟฟ้าช็อตกระจายไปทั่วร่างกายของเขา

จากนั้นสวี่ฉิงเหมือนปลาหมึกยักษ์ที่พันรอบตัวเจียงเฉิงเอาไว้ เจียงเฉิงเองก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ เขาใช้ฝ่ามือของเขาลูบไปที่หลังขาวดั่งหยกของสวี่ฉิง

“ยังไงก็เถอะ ฉันได้ยินจากฉิงเอ๋อร์ว่า นายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ นายเลี้ยงข้าวเธอสักมื้อแล้วกัน ถือเป็นการขอบคุณ แล้วก็ถือโอกาสแจ้งไปด้วยว่า ถ้าเธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของบริษัทเราด้วย มันจะดีมาก” สวี่จื้อจุนกล่าว

“ใช่ นายไปพร้อมกับฉิงเอ๋อร์แล้วกัน” เย่จู้ผิงก็พูดเช่นกัน

“ฉันไม่ไปแล้วกัน ฉันมีงานที่โรงพยาบาลอีกมากมาย” สวี่ฉิงพูดอย่างรวดเร็ว

“ก็ได้ครับ” เจียงเฉิงรู้สึกว่าสีหน้าของสวี่ฉิงแปลกไป หรือว่าเป็นเพราว่าเมื่อคืนตนไม่จู่โจมเธอ เธอโกรธเหรอ?

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว สวี่ฉิงขับรถไปทำงานด้วยตัวเอง เจียงเฉิงติดต่อหยางหมี่ และนัดเธอไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์

"ฉันอยู่นี่"

หลังจากลงจากรถ เจียงเฉิงก็ตะโกนกับคนที่อยู่ไม่ไกลนัก เขาเห็นขาขาวยาวสวย สวมเสื้อสีขาวตัวเล็ก และสวมกระโปรงสั้น ผมเธอประบ่า และสวมหน้ากากไว้เช่นเคย แต่เจียงเฉิงดูออกในทันทีว่าเธอคือดาราดังคนนั้นหยางหมี่นั่นเอง

“ฉันแต่งแบบนี้นายก็ยังจำฉันได้เหรอ?”

หยางหมี่มองไปที่เจียงเฉิงด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอสวมหน้ากากเอาไว้

“แน่นอน ฉันจำได้ลักษณะทางกายของเธอได้ มันชัดเจนเกินไป” เจียงเฉิงกล่าว ดวงตาของเขากวาดไปที่หน้าอกของหยางหมี่ที่อวบอิ่ม หากไม่ใช่เพราะคุณภาพของเสื้อมันดี ตอนนี้เสื้อคงจะพังแล้ว

“ไปกันเถอะ ฉันจองที่นั่งไว้แล้ว”หยางหมี่พาเจียงเฉิงเข้าไปในร้านอาหาร

หลังจากนั่งลงที่ตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในร้านแล้ว หยางหมี่ มองไปที่เจียงเฉิงและถามว่า “ทำไมนายถึงมีเวลาชวนฉันข้าวกับฉันแล้วละ”

“เป็นเพราะคุณเป็นพรีเซนเตอร์ของเครื่องสำอางของเรา แล้วยอดขายพุ่งสูงขึ้น ก็เลยมาขอบคุณเธออย่างเป็นทางการ” เจียงเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นั่นเป็นสิ้นค้าของคุณดีต่างหาก อีกอย่าง ครั้งที่แล้วตอนอยู่ในธนาคารคุณช่วยชีวิตฉันไว้ด้วยซ้ำ เรื่องที่ฉันช่วยแค่นี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย”หยางหมี่ยิ้มและกล่าว

“ช่วงนี้คุณยุ่งหรือเปล่า” เจียงเฉิงถาม

“ไม่ยุ่งนะ หลังจากเป็นพรีเซนเตอร์ของสิ้นค้าบ้านนายแล้ว ฉันก็ไม่มีงานถ่ายเลย”หยางหมี่กล่าวอย่างผิดหวังเล็กน้อย

ในขณะที่เจียงเฉิงกำลังคุยกับหยางหมี่ ชายวัยกลางคนก็เดินไปพร้อมกับผู้หญิงที่สวมกระโปรงกลวงสีเงินและพูดด้วยท่าทางไม่พอใจว่า "ใครกันไม่ลืมหูลืมตา กล้าดียังไงมาแย่งที่นั่งประจำของฉัน?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง