ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 192

 

 “ของคุณก็เป็นภาพวาดม้าร้อยชนิดเหรอ? เป็นไปได้ยังไง?”

หั่วกังได้ยินเจียงเฉิงพูด ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นตะลึง ภาพวาดนี้จะต้องมีภาพเดียวถึงจะถูก เป็นไปได้ยังไงที่เจียงเฉิงก็มีด้วย

“คุณชายหั่ว นี่ยังดูไม่ง่ายเหรอ ภาพนั้นของเขาต้องของปลอมแน่นอน”สวี่จื้อกั๋วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 “ก็ใช่ คนจนอย่างนี้ จะต้องทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้แน่นอน”หั่วกังทอดถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาเสียเงินตั้งสิบล้าน จะเป็นของปลอมไปได้ยังไง

 “เจียงเฉิง ภาพวาดนี้ของลูก…..”

 สวี่จื้อจุนได้ยินเจียงเฉิงพูดว่าภาพวาดของเขาก็เป็นภาพวาดม้าร้อยชนิด ก็รู้สึกตื่นตะลึงในใจ ถึงยังไงเขาก็มั่นใจแล้ว ว่าภาพวาดของหั่วกังนั้นเป็นของจริง อย่างนั้นภาพนี้ของเจียงเฉิงเป็นได้แค่ของปลอมแล้ว

 “พ่อครับ พ่อวางใจเลย ภาพนี้ของผม เป็นของแท้แน่นอน”เจียงเฉิงพูดปลอบสวี่จื้อจุน

 แน่นอนว่าสวี่จื้อจุนชื่อลูกเขยของตัวเองอยู่แล้ว เขารีบเดินมาดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นพูดด้วยความตื่นเต้นว่า”ของจริง เป็นของจริง”

 “หมายความว่ายังไง? อันนั้นเป็นของจริง แล้วอันที่ผมเอามาเป็นของปลอมเหรอ?”หั่วกังพูดขึ้นด้วยความดุดัน

 “ไม่เชื่อเหรอ? อย่างนั้นคุณก็มาดูด้วยได้นะ”เจียงเฉิงยิ้มบางๆพูดขึ้น

 “เหอะ ผมอยากจะดูนักว่าภาพวาดของคุณมันคืออะไร” หั่วกังหัวเราะเหอะๆ แล้วลุกเดินไปทางภาพวาดที่เจียงเฉิงเอามา

 ตอนหั่วกังเห็นภาพวาดภาพวาดม้าร้อยชนิดของเจียงเฉิง สายตาเขาเปล่งประกายทันที ภาพวาดภาพวาดม้าร้อยชนิดนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ รูปแบบการวาดภาพโดยรวมมีพลังและงดงาม เต็มไปด้วยความสวย หมึกน้อยแต่หนา วางเค้าโครงยอดเยี่ยม และเต็มไปด้วยท่วงทำนองบทประพันธ์ที่เต็มเปี่ยม

 “เป็นยังไง?เมื่อภาพนี้เทียบกับภาพของคุณแล้ว สวยกว่ามากเลย”สวี่จื้อจุนพูดด้วยความภาคภูมิใจ

 “เจียงเฉิง ภาพนี้ของลูกเอามาจากไหนเหรอ?”

 สวี่จื้อจุนถามเจียงเฉิงขึ้นด้วยความแปลกใจ

 “ภาพนี้เพื่อนของผมคนหนึ่งให้มาครับ เป็นของแท้แน่นอน พ่อครับ ของเขาเป็นของปลอม พ่ออย่าเอาเลยครับ”เจียงเฉิงยิ้มแล้วพูดขึ้นมา

 “ตอแหล ของฉันไม่ใช่ของปลอม ฉันดูของนายภาพมันง่ายๆธรรมดาแบบนี้ หยาบโลน อันนี้สิถึงเป็นของปลอม”หั่วกังพูดตะคอกด้วยความโมโห เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนจนแบบเจียงเฉิง จะมีเพื่อนรวยให้ภาพวาดล้ำค่าแบบนี้ได้

 “นั่นสิ จื้อจุน ภาพวาดสองภาพนี้ ของใครจริงของใครปลอม ยังไม่แน่ใจเลย”สวี่จื้อกั๋วรีบพูดขึ้น

 “น้องท่านนี้ ภาพของคุณ ให้ผมดูได้ไหม?”

 จู่ๆก็มีเสียงของชายชราผมขาวดังมาจากด้านหน้าประตู ตามด้วยชายชราคนหนึ่งสวมใส่แว่นเดินเข้ามาด้านใน

 “คุณคือ?”

 เจียงเฉิงถามขึ้นด้วยความแปลกใจ

 “อ้อ ผมเป็นผู้อำนวยการของสถาบันวิจัยจิตรกรรมโบราณ เมื่อกี้มองเข้ามาในห้องแวบหนึ่ง พอดีกับได้เห็นคุณเปิดกล่องภาพวาดม้าร้อยชนิด”ชายชราหยิบนามบัตรออกมา แล้วยื่นให้กับเจียงเฉิง

 เจียงเฉิงหยิบนามบัตรมา พบว่าเป็นผู้อำนวยการของสถาบันวิจัยจิตรกรรมโบราณจริงๆด้วย หั่วกังรีบแย่งนามบัตรไปจากมือของเจียงเฉิง หลังจากดูแล้ว รู้ตื้นลึกหนาบางทันที เขาพูดกับชายชราว่า”ผู้อำนวยการ คุณมาก็ดีแล้ว ผมก็มีภาพวาดม้าร้อยชนิดหนึ่งแผ่น คุณช่วยผมดูหน่อยครับ สรุปว่าใครคือของปลอม ใครคือของจริง”   

 “ภาพวาดม้าร้อยชนิดสองแผ่นเหรอ?”

 ผู้อำนวยการขมวดคิ้วเป็นปม จากนั้นก็ได้เห็นหั่วกังเอาภาพภาพวาดม้าร้อยชนิดมา

 “ใช่ครับ ภาพวาดม้าร้อยชนิดในสองภาพนี้ จะต้องมีอันหนึ่งเป็นของจริง อันหนึ่งปลอมแน่นอน”หั่วกังไม่เชื่อหรอกว่าของตัวเองจะเป็นของปลอม เขามองไปทางเจียงเฉิงด้วยความกำเริบเสิบสาน และรอผู้อำนวยการเปิดโปงของปลอมของเจียงเฉิง

 “ได้ รอผมตรวจสอบดูก่อน”ผู้อำนวยการพูดแล้วก็หยิบแว่นขยายใหญ่ที่มีความละเอียดออกมา และศึกษาภาพวาดม้าร้อยชนิดสองแผ่นอย่างละเอียด

 ผู้อำนวยการคนนี้คุ้นชินกับการออกไปข้างนอกจะต้องพกแว่นขยายนี้แล้ว เพราะมีบางครั้งเวลาที่เขาเดิน ก็อาจจะเจอภาพวาดโบราณได้ เลยจำเป็นต้องตรวจสอบดูอย่างละเอียด

 “อืม ม้าของภาพวาดม้าร้อยชนิดนี้ลักษณะท่าทางแตกต่าง สภาพมีชีวิตชีวา ลักษณะการวาดภาพโบราณเรียบง่าย เป็นภาพวาดของหลางซื่อหนิงจริงๆไม่มีผิดพลาด”ผู้อำนวยการศึกษาดูภาพวาดม้าร้อยชนิดของเจียงเฉิงอยู่สักพักหนึ่ง แล้วพูดอย่างจริงจังออกมา

 “ผู้อำนวยการ อย่างนั้นคุณว่าภาพวาดของผมล่ะครับ?”

   หั่วกังเห็นผู้อำนวยการยอมรับภาพของเจียงเฉิง ก็พูดขึ้นด้วยความร้อนใจ

 “ภาพวาดม้าร้อยชนิดของคุณ ส่วนประกอบในภาพเรียบง่าย ลักษณะการวาดภาพชำนาญ ม้าในภาพแต่ละตัวคึกคักร่าเริง แทบจะการันตียอมรับได้เลยว่าเป็นงานของ หลางซื่อหนิง”หลังจากผู้อำนวยการศึกษาดูแล้ว จึงพูดขึ้นอย่างจริงจัง

 “แบบนี้สามารถพูดได้ว่า ภาพวาดของพวกเราทั้งสองต่างเป็นของจริงเหรอครับ”หั่วกังรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เห็นอยู่ชัดเจนว่าภาพของตัวเองเป็นของจริง ทำไมถึงได้มีภาพวาดของแท้ถึงสองแผ่นได้

 “วุ่นวายอยู่ตั้งนาน ที่แท้ภาพวาดม้าร้อยชนิดสองแผ่นนี้ต่างก็เป็นของจริง”สวี่จื้อกั๋วถอนหายใจอย่างโล่งอก

 “น้อง ก่อนหน้าคุณมั่นใจว่าของคุณเป็นของจริง ภาพของเขาเป็นของปลอม คุณดูออกได้ยังไง?”ผู้อำนวยการหรี่ตามองเจียงเฉิงแล้วถามขึ้น

 “เขาซี้ซั้ว ภาพนี้ของผมก็เป็นของจริง”หั่วกังพูดอย่างไม่พอใจ

 เจียงเฉิงไม่ได้สนใจหั่วกัง แต่มองไปทางภาพของหั่วกัง พูดขึ้นว่า“ผู้อำนวยการเมื่อกี้คุณก็พูดแล้ว ภาพนี้ของเขาแทบจะการันตียอมรับได้ว่าเป็นงานของหลางซื่อหนิง แต่ยังแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ก็คือคุณภาพของภาพวาด”

 “ตอแหลอีกแล้ว ภาพวาดนี้ของฉันได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาชี้ขาดแล้วว่าจริงหรือปลอม ไม่ว่าจะเป็นกระดาษหรือหมึกพู่กัน ทั้งหมดเป็นวัตถุดิบของยุคสมัยนั้น ไม่ได้มีปัญหาผิดปกติ”หั่วกังหัวเราะเยาะออกมา ถ้าเรื่องแบบนี้คิดไม่รอบคอบล่ะก็ เขาจะซื้อภาพนี้ได้ยังไง

 “เหรอ? อย่างนั้นคุณดูว่านี่คืออะไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง