ถึงแม้ซุนเส้าหลงจะรู้สึกอับอาย แต่ตอนนี้จะไม่จ่ายเงินก็ไม่ได้ เขาจึงพูดเสียงต่ำว่า“พูดบ้าอะไรกัน?ไม่ได้เอาเงินสดมา ในมือถือก็ไม่มีรึไง?”
คนพวกนี้ถึงแม้จะไม่กล้าล่วงเกินซุนเส้าหลง แต่ก็ไม่อยากจ่ายเงิน ถ้าไม่บอกว่ามือถือแบตหมด ก็บอกว่าในบัตรไม่มีเงิน
พนักงานมองดูซุนเส้าหลงด้วยความแปลกใจ จนทำให้ซุนเส้าหลงเขินอาย
ซุนเส้าหลงไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เขาไม่มีทางแล้วจริง จึงหันไปพูดกับเจียงเฉิงว่า“เจียงเฉิง ฉันจ่ายเงินแค่บิลก่อนหน้านั้น อีกห้าขวดที่นายดื่มนายจ่ายเองนะ”
เจียงเฉิงกำลังดื่มอย่างเพลิดเพลิน เมื่อได้ยินแบบนั้นจึงรีบกล่าวว่า“คุณชายซุนครับ ไม่มีเงินก็ไม่มีเงินสิครับ มาเสแสร้งทำท่าทางเป็นคนรวยทำไมล่ะ”
คำพูดของเจียงเฉิงทำให้ซุนเส้าหลงหน้าแดงก่ำในทันที เขาตะคอกออกไปว่า“ถ้านายมีเงิน นายก็จ่ายเองสิวะ?”
“จริงด้วย พูดเหมือนกับว่านายมีเงินอย่างงั้นแหละ วันนี้ถ้าไม่เป็นเพราะคุณชายซุนล่ะก็ แม้แต่ประตูของโรงแรมนายก็เข้ามาไม่ได้หรอกนะ”หยูตานมองเจียงเฉิงด้วยสายตาเหยียดหยาม
“ไอ้บ้านนอกเศษสวะ ไม่เคยกินเหล้าดีๆแบบนี้ ก็เอาแต่กินไม่หยุด แกมันหน้าไม่อาย”
“ไม่รู้จริงๆว่าสวี่ฉิงดาวมหาลัยของเราทำไมถึงชอบคนแบบนายได้ เป็นแมงดาไม่ว่า ยังไม่ยอมจ่ายเงินแม้แต่แดงเดียว”
คนอื่นๆอาศัยจังหวะนี้ช่วยซุนเส้าหลง กดขี่เจียงเฉิง
สวี่ฉิงได้ยินแบบนั้นจึงหันไปมองซุนเส้าหลง“ซุนเส้าหลง นายมันน่าขยะแขยงจริงๆ”
ถึงแม้ว่าซุนเส้าหลงจะถูกสวี่ฉิงดูถูก แต่ตอนนี้จ่ายเงินเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เขาไม่สนใจเรื่องอื่น
สวี่ฉิงกำลังจะหยิบกระเป๋าของตัวเองออกมา ทันใดนั้นเจียงเฉิงก็จับมือของสวี่ฉิงไว้ แล้วกล่าวว่า“คุณไม่ต้องหรอก ผมจ่ายเอง”
สวี่ฉิงมองไปที่เจียงเฉิงด้วยสีหน้าแปลกใจ เธอรู้ว่าเดือนๆหนึ่งเจียงเฉิงได้เงินเดือนเท่าไร แค่ไม่กี่พันเท่านั้นเอง จะจ่ายบิลราคาสูงขนาดนี้ได้อย่างไร
“นายตอแหลเหมือนจริงๆ?ฉันไม่เชื่อว่าขยะอย่างแกจะมีปัญญาจ่ายค่าเหล้าห้าขวดนี้”ซุนเส้าหลงพูดอย่างเย้ยหยัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง