“คุณชายเจียงซาน แพทย์แผนจีนซับซ้อนและลึกซึ้ง ก็จริงที่จำเป็นต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์นานหลายปี คุณพูดถูก ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่าชายหนุ่มคนหนึ่งจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้นได้ คนมากมายต่างบอกว่าเขาเป็นหมอที่เก่ง ได้ยินว่าแม้แต่ปรมาจารย์เชวี่ยยังยอมรับว่าสู้เขาไม่ได้” ต่งเหล่ยยิ้มเอ่ย
ก่อนหน้านี้เจียงเฉิงเคยช่วยแม่ของต่งเหล่ย ต่อมาต่งเหล่ยเองก็สืบเสาะเกี่ยวกับคนคนนี้ เขาบรรลุการผ่าตัดมากมายที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้ แม้กระทั่งปรมาจารย์เชวี่ยเองก็ชื่นชมเองกับปาก
“ชิ เห็นได้ชัดว่าก็แค่อวยเกินความเป็นจริง คุณดูหมอแพทย์แผนจีนชื่อดังพวกนั้นสิ มีใครบ้างที่อายุน้อย” เจียงซานเองก็เคยเรียนเกี่ยวกับแพทย์แผนจีนมาก่อน เพียงแต่เขาไม่มีพรสรรค์อะไร จึงล้มเลิกกลางคัน
ตอนนี้ได้ยินคนอื่นชมว่าชายหนุ่มคนหนึ่งว่าเก่งแพทย์แผนจีน เขาก็ย่อมต้องรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่แล้ว
“ซานเอ๋อร์ เหนือฟ้ายังมีฟ้า นายทำไม่ได้ไม่ได้แปลว่าคนอื่นทำไม่ได้ คนเราต้องอ่อนน้อมถ่อนตน อย่าเย่อหยิ่งเกินไป” เจียงหวู่พูดสอนหลานชายตัวเอง
“รู้แล้วครับ คุณปู่” แม้เจียงซานปากจะพูดแบบนี้ ทว่าเขาไม่เชื่อหรอกว่าจะมีชายหนุ่มคนไหนที่สามารถเชี่ยวชาญแพทย์แผนจีนได้
“ท่านเจียง ยังไงซะปรมาจารย์เชวี่ยก็จะมาแล้ว ลองให้อาจารย์ดูก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆค่อยหาชายหนุ่มคนนั้น” ต่งเหล่ยเอ่ย
เจียงหวู่ไอสองที แล้วพยักหน้าพูดว่า “ถ้ามีชายหนุ่มที่เก่งขนาดนี้จริงๆ ฉันก็อยากจะเจอเหมือนกัน”
สวี่ฉิงกับเจียงเฉิงมาถึงโรงพยาบาล
“หมอสวี่ คณบดีเสิ่นเรียกคุณไปห้องทำงานเธอค่ะ” หลินหยุนเอ๋อร์มาถึงห้องทำงานของสวี่ฉิงแล้วเอ่ย
“ฉันเข้าใจแล้ว” สวี่ฉิงตอบแล้วพักงานในมือ จากนั้นก็มาถึงห้องทำงานของเสิ่นปิง
“คณบดีเสิ่น คุณเรียกฉันเหรอคะ” สวี่ฉิงเคาะประตูเดินเข้าไปในห้อง
“สวี่ฉิง คือแบบนี้ หมอที่เดิมทีถูกโรงพยาบาลเราส่งไปทำงานที่เมืองหลวงไปไม่ได้ชั่วคราวแล้ว เพราะฉะนั้นฉันอยากให้เธอไปแทน เธอน่าจะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?” เสิ่นปิงยิ้มเอ่ยกับเจียงเฉิง
“ไม่มีปัญหาค่ะ ไปตอนไหนคะ?”
“คืนนี้”
“คืนนี้?” สวี่ฉิงทวนถามอย่างตกตะลึงเล็กน้อย
“ใช่ เพราะงานสัมมนาที่นั่นน่าจะเริ่มพรุ่งนี้ งานสัมมนานี้จะส่งผลกระทบกับการประเมินของโรงพยาบาลเรา เพราะฉะนั้นก็เลยค่อนข้างเร่งด่วน” เสิ่นปิงเอ่ย
สวี่ฉิงลังเลเล็กน้อย พยักหน้าเอ่ยว่า “ไม่มีปัญหา ฉันไปเอง”
“ดี รบกวนเธอแล้ว ยังมีคนที่ไปกับเธอคือเสี่ยวหลิง” เสิ่นปิงยิ้มเอ่ย
“เข้าใจแล้ว” สวี่ฉิงพยักหน้า ก่อนจะออกไปจากห้องทำงานของเสิ่นปิง
เสิ่นปิงเห็นสวี่ฉิงจากไป ก็รีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาทันที
“เรื่องจัดการเรียบร้อยแล้ว” เสิ่นปิงเอ่ยเสียงเย็นผ่านโทรศัพท์
“ดี รบกวนคณบดีเสิ่นแล้ว” น้ำเสียงได้ใจของสวี่จื้อกั๋วดังลอดออกมาจากโทรศัพท์
“คราวหลังเรื่องแบบนี้อย่ามาหาฉันอีก ฉันยังมีเรื่องของฉันที่ต้องทำ” เสิ่นปิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“คณบดีเสิ่น อย่าพูดแบบนี้สิ ตราบใดที่เราคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผมเองก็จะไม่พูดความลับของคุณออกไป” สวี่จื้อกั๋วเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะ
“ศาสตราจารย์สวี่? นี่คุณกำลังขู่ฉันเหรอ?” น้ำเสียงของเสิ่นปิงเย็นเยือกลงในทันที
“ผมไม่กล้าหรอกนะ คณบดีเสิ่นมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่ง ผมก็แค่แสดงความขอบคุณก็เท่านั้น ครั้งนี้ขอบคุณคณบดีเสิ่นมากครับ” สวี่จื้อกั๋วพูดแล้วก็วางสาย
หลังจากที่เสิ่นปิงวางมือถือลง ดวงตาเองก็พลันฉายแววเย็นเยือก ทว่าไม่นานก็หายไป ยังไงซะเรื่องของเธอเองก็จะจัดการเสร็จแล้ว
ไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงาน เจียงเฉิงก็ไปรับสวี่ฉิงเตรียมจะกลับบ้านด้วยกัน
“นายกลับก่อนเถอะ คืนนี้ฉันต้องเดินทางไปเมืองหลวง” สวี่ฉิงเอ่ยกับเจียงเฉิง
“แม่ฉันเจอคนไข้ที่รับมือยากอีกแล้ว หล่อนจัดการไม่ได้” หลินหยุนเอ๋อร์เอ่ยกับเจียงเฉิงอย่างร้อนรน
“โอเค ฉันไปดูกับเธอเอง” เจียงเฉิงตอบรับทันที
“งั้นฉันก็จะไปหาเสี่ยวหลิงแล้ว พวกนายไปเถอะ” สวี่ฉิงพูดแล้วก็เดินจากไป
เจียงเฉิงกับหลินหยุนเอ๋อร์เองก็ไปที่คลินิก
ภายในห้องผู้ป่วยของเจียงหวู่ เจียงซานกับต่งเหล่ยต่างเฝ้าอยู่หน้าเตียงของเจียงหวู่
“ทำไมปรมาจารย์เชวี่ยถึงยังไม่มา?” เจียงซานเอ่ยอย่างร้อนรนใจเล็กน้อย
“เดาว่าน่าจะเพราะเครื่องบินดีเลย์” ต่งเหล่ยพูดอยู่ข้างๆ
“ไม่เป็นไร ฉันก็ยังดีๆอยู่นี่ไม่ใช่หรือไง” เจียงหวู่เอ่ยอย่างไม่ค่อยใส่ใจมากนัก “พวกนายอย่าร้อนใจกันเลย ไม่เป็นไร”
เจียงหวู่เพิ่งพูดคำนี้เสร็จ จู่ ๆก็พลันไออย่างรุนแรง ถึงขั้นเกือบจะไอเลือดออกมาแล้ว
“เร็ว เอายามา” ต่งเหล่ยรีบพูดกับพยาบาลที่อยู่ข้างๆ
พยาบาลรีบเอายาแก้ไอที่เตรียมเอาไว้ออกมาให้เจียงหวู่กินทันที ทว่าเจียงหวู่กินลงไปแล้วกลับไม่มีท่าทีจะดีขึ้นเลยสักนิด
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? แต่ก่อนปู่กินแล้วยังเห็นผลดีอยู่เลย” เจียงซานเห็นสถานการณ์แบบนี้ ในใจก็พลันกระวนกระวายถึงขีดสุด ไม่รู้เลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ทำได้แค่ไปหาเจียงเฉิงที่ผมพูดแล้ว” ต่งเหล่ยรีบเอ่ยทันที
“ไม่ได้ ผมไม่เชื่อเขา” เจียงซานเอ่ยปฏิเสธเสียงเย็น
“ปรมาจารย์เชวี่ยมาแล้ว” จู่ ๆพยาบาลคนหนึ่งก็บุกเข้ามา พลันเอ่ยเสียงหอบแฮ่ก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง