อากาศตอนเช้าหนาวเย็นเล็กน้อย หุบเขาชานเมือง ณ เวลานี้มีหมอกบางๆ กระจกรถลัมโบร์กินีหรูเองก็มีหยดน้ำค้างเกาะพราว กระจกรถด้านในมีรอยฝามือคู่หนึ่งที่ชัดเจน
แสงอาทิตย์ส่องผ่านรอยฝ่ามือลอดเข้าไปรถ เห็นเพียงบนเบาะรถมีร่างกายของชายหญิงคู่นี้ที่กำลังกอดก่ายกันแน่น ซึ่งก็คือสวี่ฉิงและเจียงเฉิงนั่นเอง
สวี่ฉิงซบศีรษะบนแผงอกของเจียงเฉิง แสงอาทิตย์ที่แยงตาส่องบนใบหน้าเธอ ขนตายาวบนดวงตาคู่สวยสั่นระริกเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้น
สวี่ฉิงพลันเห็นแผงอกกำยำปรากฏในสายตา หน้าอกอวบอิ่มของเธอเองก็กดทับแผงอกของเจียงเฉิงโดยปราศจากสิ่งกีดขวางใดๆ
หลังจากอึ้งชะงักครู่หนึ่ง สวี่ฉิงก็พลันนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เธอเจอกับอันตรายที่ร้ายแรง เจียงเฉิงปรากฏตัวช่วยเธอ จากนั้นเธอก็สติเลือนรางเพราะฤทธิ์ยา จำไม่ได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ทว่าเมื่อสวี่ฉิงเห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเอง ก็เดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ครั้งก่อนอยู่ที่บ้านเธอดื่มยาบำรุงนั่น ก็แค่เป็นฝ่ายจูบเจียงเฉิงเธอก็รู้สึกอับอายขนาดนั้นแล้ว ครั้งนี้เธออยู่ต่อหน้าเจียงเฉิงด้วยสภาพแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกอับอายเข้าไปใหญ่
“ภรรยา ตื่นแล้วเหรอ?”
ในขณะที่สวี่ฉิงกำลังคิดฟุ้งซ่าน จู่ ๆเสียงของเจียงเฉิงก็ดังขึ้นที่ข้างหูเธอ
สวี่ฉิงรีบตะเกียกตะกายนั่งตัวตรง ก่อนจะจับเสื้อที่ฉีกขาดมาบดบังไว้ด้านหน้า เธอไม่ค่อยกล้าสบตาเจียงเฉิงมากนัก เพราะเธอนึกว่าเธอกับเจียงเฉิงมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว อีกทั้งยังอยู่บนรถอีกต่างหาก
“เมื่อวาน......”
สวี่ฉิงนึกถึงเรื่องเมื่อวานแล้วพูดไม่ออกเล็กน้อย
“ภรรยา อย่าโกรธไปเลยนะ ถึงเธอจะเป็นแบบนี้แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น” สวี่ฉิงรีบอธิบาย
สวี่ฉิงได้ยินดังนั้นก็อึ้งชะงัก ยังไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นเหรอ?
คราวนี้เจียงเฉิงยิ่งอธิบายอย่างร้อนรนว่า “เมื่อวานเธอถูกป้อนยา ยาแบบนั้นต้องใช้น้ำเย็นที่เพียงพอลดอุณหภูมิร่างกาย ผนวกกับฝังเข็มก็สามารถดูดยาออกมาได้ แต่เมื่อวานไม่มีน้ำเย็น ฤทธิ์ยาเธอก็ออกฤทธิ์รุนแรงขนาดนั้นอีก ฉันก็เลยต้องถอดเสื้อเธอออก จากนั้นค่อยใช้เข็มเย็นกำจัดพิษให้เธอ”
ได้ยินเจียงเฉิงอธิบาย สวี่ฉิงจึงจะรู้แล้วว่า ที่แท้ระหว่างพวกเขาสองคนก็ยังไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นนี่เอง ทันใดนั้น เธอก็พลันรู้สึกสลดใจเล็กน้อย ทั้งที่เธอก็เป็นถึงขนาดนั้นแล้ว เขาก็ยังสามารถควบคุมตัวเองไว้ได้ เขาเป็นมนุษย์ท่อนไม้หรือไง
“ทำไมรู้สึกว่านายดูประหม่ากว่าฉันอีก?” สวี่ฉิงมองเจียงเฉิงแล้วถาม
“ฉันกลัวเธอเข้าใจผิด เข้าใจผิดว่าฉันฉวยโอกาสเอาเปรียบเธอ เธอวางใจเถอะ เมื่อวานมืดเกินไป ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” เจียงเฉิงเอ่ยอย่างเขินอายเล็กน้อย อันที่จริงเมื่อวานตอนที่เขาฝังเข็ม เขาเองก็มีความคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เขาไม่อยากฉวยโอกาสเธอ
“งั้นนายจับหมดแล้วใช่ไหม?” สวี่ฉิงกลอกตามองบนใส่เจียงเฉิง หมอนี่ซื่อบื้อชะมัด สถานการณ์แบบนั้นแล้วทั้งที ยังสามารถอาศัยความสามารถที่ยอดเยี่ยมแก้ฤทธิ์ยาในร่างกายเธอได้อีก
“จับ นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ฉัน......”
“ฉันล้อเล่น” สวี่ฉิงยิ้มขำทีหนึ่งเอ่ยว่า “ดูนายประหม่าสิ”
แม้ระหว่างทั้งสองคนจะไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทว่าเมื่อวานเจียงเฉิงสามารถช่วยเธอออกมาจากสถานการ์แบบนั้นได้ก็ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งใจมากแล้ว
สวี่ฉิงโผกอดเจียงเฉิง ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย เอ่ยว่า “สามี ดีจังที่มีนาย”
เจียงเฉิงรู้สึกได้ถึงความอุ่นนุ่มบนตัวสวี่ฉิง ในใจพลันรู้สึกล่องลอย ไม่อาจไม่พูดได้ว่าเมื่อได้สัมผัสแล้วรู้สึกดีมากๆ
“ไม่ได้กลับบ้านมาทั้งคืนแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะ” สวี่ฉิงลุกตัวขึ้นแล้วพูด
“อืม” เจียงเฉิงเองก็ตอบรับทันที
เสื้อผ้าของสวี่ฉิงฉีกขาดจนมีแต่รู เธอใส่ต่อไม่ได้แล้ว ดังนั้นจึงทำได้เพียงต้องใส่เสื้อของเจียงเฉิง เพราะเจียงเฉิงเป็นผู้ชาย แม้จะไม่ใส่อะไรก็ไม่มีปัญหาอะไร
เจียงเฉิงกับสวี่ฉิงกลับมาถึงบ้าน พบว่าสวี่จื้อจุนและเย่จู้ผิงต่างอยู่บ้านกันทั้งคู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง