วันรุ่งขึ้น โจวหลินมารอที่หน้าบ้านของเจียงเฉิงตั้งแต่เช้า เมื่อเห็นเจียงเฉิงออกมา รอยยิ้มประจบสอพลอจึงเผยออกมาบนใบหน้าทัน เขาตะโกนว่า “พี่เจียงเฉิง ในที่สุดพี่ก็มาเสียที ผมรอพี่อยู่ตั้งนาน”
ตั้งแต่กินยาตามใบสั่งยาของเจียงเฉิง สุขภาพของโจวหลินก็ฟื้นตัวเกือบจะเต็มที่ และตอนนี้เขาก็ใช้ชีวิตอย่างเริงรมย์ทุกค่ำคืน ถึงอย่างไรการฟื้นคืนความกระปรี้กระเปร่าก็เป็นเรื่องที่ยากจะเกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยสำหรับเขาที่จะเรียกเจียงเฉิงว่าเป็นพ่อแม่ที่ให้ชีวิตเขาใหม่
ด้วยเหตุนี้โจวหลินจึงมาเอาใจเจียงเฉิงและตอนนี้เขาก็ไม่กล้าดูหมิ่นเจียงเฉิงอีกต่อไป
ทว่าเจียงเฉิงเพียงแค่เหลือบมองโจวหลินอย่างเฉยเมยและเอ่ยเบาๆ ว่า “ไปกันเถอะ ไว้ค่อยเล่าอาการคร่าวๆ ให้ฉันฟังระหว่างทาง”
โจวหลินตอบรับซ้ำๆ จากนั้นจึงรีบเดินไปเปิดประตูรถของเขาที่ด้านหนึ่ง ทั้งยังใช้มือข้างหนึ่งบังไว้เหนือประตูรถและบอกว่า “ระวังนะครับ ระวังอย่าให้หัวกระแทก”
หลังจากเจียงเฉิงเข้าไปในรถ โจวหลินจึงปิดประตูอย่างระมัดระวังและไปนั่งลงตรงที่นั่งคนขับ ท่าทีของโจวหลินตอนนี้ดูไม่ต่างอะไรกับขันทีหนุ่มผู้คอยรับใช้จักรพรรดิ กลัวว่าจะทำให้เจียงเฉิงไม่พอใจ
เจียงเฉิงรับฟังคำบอกเล่าของโจวหลินระหว่างทาง คราวนี้คนที่ต้องไปตรวจอาการคือจ้าวฉางเจี๋ย ลูกชายของจ้าวฝูหลิน หนึ่งในผู้นำไนต์คลับของเมืองหลูหยาง เขามีภาวะหัวใจล้มเหลวซึ่งเป็นโรคที่หาได้ยากมาแต่กำเนิด
ตอนนี้จ้าวฉางเจี๋ยยังมีชีวิตอยู่ได้เพราะอาศัยยาและเครื่องมือทางการรักษา แม้จะตามหาหมอที่มีชื่อเสียงมารักษาก็รักษาไม่ได้ เพื่อเอาใจตระกูลจ้าว โจวหลินจึงแนะนำเจียงเฉิงให้มาที่นี่
บ้านของจ้าวฝูหลินตั้งอยู่ในเขตที่พักปี้ไห่ซ่างเฉินทางตะวันออกของชานเมืองหลูหยาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักอาศัยของเจียงเฉิงมากนัก ดังนั้นในไม่ช้าโจวหลินก็พาเจียงเฉิงมาถึงในบ้านของจ้าวฝูหลิน
“ฉางเจี๋ย ลูกเป็นอะไรฉางเจี๋ย”
ยังไม่ทันเข้าไปในห้อง เจียงเฉิงกับโจวหลินก็ได้ยินเสียงตะโกนอย่างเร่งร้อนดังมาจากด้านใน
หลังจากเข้าไปในห้องเจียงเฉิงจึงมองเห็นโซฟาหนังแท้ตัวหนึ่ง ชายวัยกลางคนผมสีดอกเลาสวมชุดนอนหรูหราคนหนึ่งกำลังเขย่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล
เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนผู้นี้คือจ้าวฝูหลิน ดูจากใบหน้าที่ซีดเผือดและดวงตาที่ปิดสนิท คนที่เอนกายอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางเจ็บปวดคงเป็นจ้าวฉางเจี๋ย
“ลุงจ้าว ฉางเจี๋ยเป็นอะไรไปครับ” โจวหลินวิ่งเข้าไปหาจ้าวฝูหลินและเอ่ยถาม
จ้าวฝูหลินเงยหน้าและเอ่ยอย่างร้อนรนว่า “ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉางเจี๋ยอาการกำเริบ แค่กินยาก็จะดีขึ้น แต่คราวนี้เขาดูไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลยสักนิด”
เจียงเฉิงมองออกว่าตอนนี้สีหน้าของจ้าวฉางเจี๋ยเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สองมือกำชุดที่อยู่ตรงตำแหน่งของหัวใจไว้แน่น เขายังมองออกอีกว่าตอนนี้พลังชีวิตของจ้าวฉางเจี๋ยกำลังจางหายไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง