ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 434

“นายทำอะไร? ที่คลินิกว่านเชิงเขาตรวจวินิจฉัยโรคด้วยฝีมือการรักษาชั้นเยี่ยม ยาที่ใช้ก็ดี นายไม่ตรวจก็ไปให้พ้น!”

“ใช่ ไม่ง่ายที่คลินิกว่านเชิงจะมาเปิดที่เมืองเอกของพวกเรา ไม่ต้องไปตรวจโรคถึงเมืองหลวง นายเห็นว่าแพงก็ไม่ต้องตรวจสิ”

ผู้คนไม่น้อยต่างตำหนิชายวัยกลางคนกันขึ้นมา เวลานี้ชายวัยกลางคนผู้นี้อับอายจนไม่มีที่ให้ซ่อนตัวแล้ว

“ได้ๆๆ ผมซื้อ ผมซื้อ” ชายวัยกลางคนพูดด้วยหน้าตาขมขื่น เขาไม่มีวิธี คนอื่นเขาเชื่อคลินิกว่านเชิงแห่งนี้ เขาก็ได้แต่เชื่อตามด้วย

“อืดอาดยืดยาด” เปียนหยวนพึมพำแบบเย็นชา แล้วโยนใบสั่งยาที่ยับยู่ยี่ไปด้านหน้าของชายวัยกลางคนอีกรอบ

ถึงแม้ชายวัยกลางคนจะรู้สึกไม่พอใจอยู่ข้างใน แต่ว่าเขาก็ไม่มีทางแสดงออกมา ใครใช้ให้โรคของตนเองร้ายแรงขนาดนั้นจนโรงพยาบาลอื่นรักษาไม่หายล่ะ

“หมอเปียน ก่อนหน้านี้นายเกือบทำคนตายอยู่บนรถไฟ ยังมาหลอกเอาเงินประชาชนคนอื่นแบบนี้อีก ไม่ใช่หลอกลวงกันเกินไปเหรอ?” เจียงเฉิงพูดกับเปียนหยวนที่อยู่หน้าโต๊ะสี่เหลี่ยมด้วยเสียงเย็นชา

เปียนหยวนเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นเจียงเฉิงแล้ว สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปนิดหน่อยทันที ก่อนหน้านี้บนรถไฟความเร็วสูงเขาถูกเจียงเฉิงทำให้ขายขี้หน้ามากพอแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอเจียงเฉิงอยู่ที่นี่อีก

“นายเองเหรอ?”

เปียนหยวนมองเจียงเฉิงด้วยสายตาเย็นเยือกแล้วพูดขึ้น

“นายเป็นใครกัน? คุณชายเปียนของพวกเราเป็นหลานชายของเปียนว่านเชิง นักศึกษาดีเด่นของวิทยาลัยแพทย์จิงซือ จะไปทำคนตายบนรถไฟตั้งแต่เมื่อไรกัน?” หมอคนหนึ่งตวาดใส่เจียงเฉิงแบบไม่พอใจมาก

“จริงด้วย นายจะมาตรวจหรือเปล่า? ถ้าไม่ตรวจก็ไสหัวไป” หมออีกคนหนึ่งตะโกนใส่เจียงเฉิงแบบไม่พอใจมากเช่นกัน

“ฉันไม่ตรวจ!”

เจียงเฉิงพูดอย่างเรียบเฉย

“ไม่ตรวจก็ไสหัวไป!”

หมอสองคนรีบพุ่งเข้าไปทันที อยากไล่เจียงเฉิงออกไป

“ต่อให้พวกเราอยากตรวจ ก็กินยาที่จงใจเพิ่มปริมาณยาของที่นี่ไม่ไหวหรอก ทั้งที่เป็นโรคที่ไม่ต้องกินยาก็หายได้ ผลปรากฏว่าให้กินยาตั้งสองเดือน” เจียงเฉิงถอนหายใจแล้วจงใจพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น

เพียงเรื่องเล็กน้อยก็สร้างผลกระทบรุนแรง คำพูดของเจียงเฉิงดึงดูดการถกเถียงของคนไข้ทั้งหมดขึ้นโดยตรง

“อะไรนะ? ยาของที่นี่จงใจเพิ่มปริมาณยาขึ้นเหรอ?”

“ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องกินยายังให้กินยาตั้งสองเดือน? นี่ไม่ใช่อยากให้คนอื่นกินจนตายรึไง?”

“จริงด้วย ยามันมีผลข้างเคียงด้วยนะ ตอนนี้คลินิกว่านเชิงเพื่อหาเงินแล้ว ทำร้ายผู้คนแบบนี้เลยเหรอ?”

คนไข้โดยรอบต่างวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมาทันที

เปียนหยวนได้ยินคำพูดนี้ของเจียงเฉิง ชั่วขณะหนึ่งโมโหจนหน้าเขียวแล้ว เพราะเขาเพิ่มราคาตัวยาขึ้นไปสามเท่าจริงๆ โดยเฉพาะยังเพิ่มปริมาณยาไปเยอะด้วย อย่างไรเสียก็กินแล้วไม่ตาย แน่นอนว่าตนเองหวังจะหาเงินได้มากเป็นหลัก

“จริงแน่นอนครับ!”

เจียงเฉิงตอบกลับอย่างจริงจัง

“พูดจาเหลวไหล นายยังไม่ได้จับชีพจรให้เขาเลย แม้แต่อาการของเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำ นายจะรู้สถานการณ์ได้ยังไง?”

เปียนหยวนพูดกับเจียงเฉิงทางนั้นด้วยเสียงเย็นชา

“เขาเป็นโรคขี้หนาว ม้ามและกระเพาะไม่ดี ขอแค่ฝังเข็มเพื่อปรับสักหน่อยก็หายได้แล้ว” เจียงเฉิงมองเปียนหยวนทางนั้นแล้วบอกไป

“ยังพูดโรคถูกจริงด้วย คนหนุ่มผู้นี้มีฝีมืออยู่นะ”

“น่าจะได้ยินคำตอบของหมอเปียนเมื่อกี้นี้แล้ว ดังนั้นถึงรู้ไง? ไม่อย่างนั้นไม่ได้ตรวจดูจะรู้อาการได้ยังไงกัน?”

เปียนหยวนรู้ฝีมือของเจียงเฉิง ก่อนหน้านี้บนรถไฟความเร็วสูงไม่ได้จับชีพจรก็มองอาการของหญิงสูงวัยออกแล้ว ตอนที่เขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ทันใดนั้นได้ยินการถกเถียงของคนด้านข้างเข้า เขาจึงรู้ว่าจะพูดอย่างไรทันที

“ใช่ นายแอบฟังคำวินิจฉัยของฉัน ไม่อย่างนั้นนายจะรู้อาการได้ยังไงกัน?” เปียนหยวนพูดตามอย่างรีบร้อน

“หมอเปียน แพทย์แผนจีนเน้นไปที่มองฟังถามและจับชีพจร การมองก็คือทักษะหนึ่งในการตรวจโรคของหมอ หรือว่านักศึกษาดีเด่นแบบนายนี้ทำไม่เป็นเหรอ?” เจียงเฉิงหัวเราะพูดกับเปียนหยวน

เปียนหยวนสีหน้าเปลี่ยนไป ชั่วขณะนั้นกระอักกระอ่วนขึ้นมา เขารีบพูดว่า “พูดแต่เรื่องเหลวไหลเต็มปาก ใครก็ได้เข้ามาที เจ้าหมอนี่มาก่อกวน ไล่เขาออกไป”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง