“นายทำอะไร? ที่คลินิกว่านเชิงเขาตรวจวินิจฉัยโรคด้วยฝีมือการรักษาชั้นเยี่ยม ยาที่ใช้ก็ดี นายไม่ตรวจก็ไปให้พ้น!”
“ใช่ ไม่ง่ายที่คลินิกว่านเชิงจะมาเปิดที่เมืองเอกของพวกเรา ไม่ต้องไปตรวจโรคถึงเมืองหลวง นายเห็นว่าแพงก็ไม่ต้องตรวจสิ”
ผู้คนไม่น้อยต่างตำหนิชายวัยกลางคนกันขึ้นมา เวลานี้ชายวัยกลางคนผู้นี้อับอายจนไม่มีที่ให้ซ่อนตัวแล้ว
“ได้ๆๆ ผมซื้อ ผมซื้อ” ชายวัยกลางคนพูดด้วยหน้าตาขมขื่น เขาไม่มีวิธี คนอื่นเขาเชื่อคลินิกว่านเชิงแห่งนี้ เขาก็ได้แต่เชื่อตามด้วย
“อืดอาดยืดยาด” เปียนหยวนพึมพำแบบเย็นชา แล้วโยนใบสั่งยาที่ยับยู่ยี่ไปด้านหน้าของชายวัยกลางคนอีกรอบ
ถึงแม้ชายวัยกลางคนจะรู้สึกไม่พอใจอยู่ข้างใน แต่ว่าเขาก็ไม่มีทางแสดงออกมา ใครใช้ให้โรคของตนเองร้ายแรงขนาดนั้นจนโรงพยาบาลอื่นรักษาไม่หายล่ะ
“หมอเปียน ก่อนหน้านี้นายเกือบทำคนตายอยู่บนรถไฟ ยังมาหลอกเอาเงินประชาชนคนอื่นแบบนี้อีก ไม่ใช่หลอกลวงกันเกินไปเหรอ?” เจียงเฉิงพูดกับเปียนหยวนที่อยู่หน้าโต๊ะสี่เหลี่ยมด้วยเสียงเย็นชา
เปียนหยวนเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นเจียงเฉิงแล้ว สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปนิดหน่อยทันที ก่อนหน้านี้บนรถไฟความเร็วสูงเขาถูกเจียงเฉิงทำให้ขายขี้หน้ามากพอแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอเจียงเฉิงอยู่ที่นี่อีก
“นายเองเหรอ?”
เปียนหยวนมองเจียงเฉิงด้วยสายตาเย็นเยือกแล้วพูดขึ้น
“นายเป็นใครกัน? คุณชายเปียนของพวกเราเป็นหลานชายของเปียนว่านเชิง นักศึกษาดีเด่นของวิทยาลัยแพทย์จิงซือ จะไปทำคนตายบนรถไฟตั้งแต่เมื่อไรกัน?” หมอคนหนึ่งตวาดใส่เจียงเฉิงแบบไม่พอใจมาก
“จริงด้วย นายจะมาตรวจหรือเปล่า? ถ้าไม่ตรวจก็ไสหัวไป” หมออีกคนหนึ่งตะโกนใส่เจียงเฉิงแบบไม่พอใจมากเช่นกัน
“ฉันไม่ตรวจ!”
เจียงเฉิงพูดอย่างเรียบเฉย
“ไม่ตรวจก็ไสหัวไป!”
หมอสองคนรีบพุ่งเข้าไปทันที อยากไล่เจียงเฉิงออกไป
“ต่อให้พวกเราอยากตรวจ ก็กินยาที่จงใจเพิ่มปริมาณยาของที่นี่ไม่ไหวหรอก ทั้งที่เป็นโรคที่ไม่ต้องกินยาก็หายได้ ผลปรากฏว่าให้กินยาตั้งสองเดือน” เจียงเฉิงถอนหายใจแล้วจงใจพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น
เพียงเรื่องเล็กน้อยก็สร้างผลกระทบรุนแรง คำพูดของเจียงเฉิงดึงดูดการถกเถียงของคนไข้ทั้งหมดขึ้นโดยตรง
“อะไรนะ? ยาของที่นี่จงใจเพิ่มปริมาณยาขึ้นเหรอ?”
“ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องกินยายังให้กินยาตั้งสองเดือน? นี่ไม่ใช่อยากให้คนอื่นกินจนตายรึไง?”
“จริงด้วย ยามันมีผลข้างเคียงด้วยนะ ตอนนี้คลินิกว่านเชิงเพื่อหาเงินแล้ว ทำร้ายผู้คนแบบนี้เลยเหรอ?”
คนไข้โดยรอบต่างวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมาทันที
เปียนหยวนได้ยินคำพูดนี้ของเจียงเฉิง ชั่วขณะหนึ่งโมโหจนหน้าเขียวแล้ว เพราะเขาเพิ่มราคาตัวยาขึ้นไปสามเท่าจริงๆ โดยเฉพาะยังเพิ่มปริมาณยาไปเยอะด้วย อย่างไรเสียก็กินแล้วไม่ตาย แน่นอนว่าตนเองหวังจะหาเงินได้มากเป็นหลัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง