ในขณะนี้ ชายผอมบางคนนี้มีความคิดอยากร้องไห้แล้ว เผชิญหน้ากับผกก.เขาจะกล้าลงมือได้อย่างไรกัน เขารีบทำหน้าเศร้าสลดตะโกนบอกว่า “ผกก.ซ่งครับ ต่อให้ผมใจกล้าบ้าบิ่นแค่ไหนผมก็ไม่กล้าทำอะไรคุณหรอกครับ ผมไม่ได้พุ่งเป้ามาที่คุณ ผมมาหาไอ้โง่คนนั้น”
“เขาคือเพื่อนของฉัน แกพุ่งเป้ามาที่เขา งั้นก็คือพุ่งเป้ามาที่ฉันด้วย!” ซ่งจุ้นชิงตวาดใส่ชายผอมบางอย่างขุ่นเคือง
ตวาดใส่แบบนี้ ทำเอาชายผอมบางตกใจจนคุกเข่าลงบนพื้นโดยตรง เขานึกไม่ถึงว่าผกก.ซ่งจะเป็นเพื่อนของเจียงเฉิง มิน่าเจ้าหมอนั่นสามารถเปิดคลินิกในทำเลแบบนี้ได้ นั่นเป็นการมีอยู่ที่ตนเองหาเรื่องไม่ได้โดยเด็ดขาด
“พี่ใหญ่ครับ ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้ว ต่อไปผมไม่กล้าอีกแล้วครับ เดี๋ยวผมจะเลียบนพื้นของพี่ให้สะอาดเลย” ชายผอมบางคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของเจียงเฉิง แล้วไปเลียเสลดที่ตนเองบ้วนมาก่อนหน้านี้ด้วยท่าทางอ้อนวอนเต็มที่
สวี่ฉิงและเหยียนปิงหรูมองเห็นฉากแบบนี้เข้า ล้วนรู้สึกสะอิดสะเอียนจนคลื่นไส้ แต่ว่าชายผอมบางคนนั้นกลับกลัวว่าตนเองจะเลียไม่สะอาดพอ จึงพยายามออกแรงเลียเต็มที่
“เสี่ยวหลิว เรียกคนเข้ามา พาตัวเจ้าพวกนี้กลับไปให้หมด ใครกล้าหนีละก็ เพิ่มโทษอีกขั้น” ซ่งจุ้นชิงบอกกับเลขาฯ ที่ตามอยู่ข้างกาย
“ครับ!”
เสี่ยวหลิวตอบรับแล้วจึงเริ่มเรียกกำลังเสริมมา ส่วนชายผอมบางเวลานี้รู้สึกหวาดกลัวจริงๆ ทำไมตนเองต้องหาเหาใส่หัวด้วย
ไม่นานรถตำรวจก็รีบขับเข้ามา นำตัวชายผอมบางและคนที่เขาพามาไปแล้ว ชั่วขณะหนึ่งทั้งคลินิกสงบลงมาไม่น้อย
“คุณเจียงครับ ต่อไปมีธุระอะไร คุณมาหาผมก็พอนะครับ ผมจะคิดหาวิธีช่วยคุณเจียงแก้ไขแน่นอนครับ” ซ่งจุ้นชิงหัวเราะพูดกับเจียงเฉิง
“งั้นก็ขอบคุณผกก.ซ่งมากเลยนะ” เจียงเฉิงเกรงใจซ่งจุ้นชิงนิดหน่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอื่นเขาช่วยตนเองไว้ ขอบคุณมันยังต้องขอบคุณอยู่แล้ว
หลังจากแสดงการขอบคุณ ซ่งจุ้นชิงจึงวางของขวัญที่ตนเองนำมาให้ลงมา แล้วถึงออกไปจากร้านนี้ของเจียงเฉิง
“ลูกเขยแสนดี นายมาที่เมืองเอกไม่เลวนะ รู้จักกับผกก.เร็วขนาดนี้เลย” สวี่จื้อจุนนึกไม่ถึงว่าสายสัมพันธ์คนรู้จักของเจียงเฉิงจะกว้างขวางขนาดนี้ จึงรีบชมเชยขึ้นมา
“บังเอิญรู้จักกันเท่านั้นเองครับ” เจียงเฉิงก็หัวเราะอย่างสบายๆ ตอบไป
“แบบนี้ก็ดีมากเลย สวี่ฉิงก็ไม่มีงานอะไร สามารถอยู่ช่วยงานนายที่นี่ได้หน่อยพอดี” เย่จู้ผิงยิ้มพูดกับเจียงเฉิงอยู่
“แม่คะ หนูไม่ใช่แพทย์แผนจีนสักหน่อย หนูจะช่วยงานเขาได้ยังไงกัน” สวี่ฉิงพูดแบบลำบากใจอยู่บ้าง
“ไม่เป็นไร ฉันสอนเธอเอง เธอฉลาดขนาดนั้น สอนสักหน่อยก็เป็นแล้ว” เจียงเฉิงมองสวี่ฉิงแล้วยิ้มบอกไป
สวี่ฉิงคิดสักครู่แล้วรู้สึกว่าพอได้ โดยเฉพาะเรียนรู้อะไรเพิ่มหน่อยยังจะดีมาก เรื่องหางานทำตอนนี้ก็ไม่รีบร้อน
อารมณ์สวี่จื้อจุนยังค่อนข้างตึงเครียด เขาไม่เป็นห่วงฝีมือการรักษาของลูกเขยตนเอง แต่เขากังวลว่าคนของตระกูลสวี่จะจงใจทำลายเจียงเฉิง
แต่ว่าเพื่อไม่ให้เป็นการบั่นทอนความกระตือรือร้นของเจียงเฉิง สวี่จื้อจุนจึงไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกมา
เช้าวันต่อมา ทั้งครอบครัวเจียงเฉิงต้องไปฉลองวันเกิดที่บ้านคุณปู่ ตอนที่มาถึงหน้าประตูบ้านตระกูลสวี่ มองเห็นที่นี่มีรถหรูจอดอยู่ไม่น้อย เห็นชัดว่าผู้คนไม่น้อยมาฉลองวันเกิดให้คุณปู่ตนเอง
ส่วนทั้งคฤหาสน์จัดเตรียมได้แบบรื่นเริงมาก ทั่วทุกที่เขียนอักษรมงคลและอักษรวันเกิด
“ใช่แล้ว ผมลืมเตรียมของขวัญให้คุณปู่ไปเลย” หลังเจียงเฉิงลงจากรถทันใดนั้นนึกขึ้นได้
“ไม่เป็นไร ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแต่แรกแล้ว” ในมือสวี่จื้อจุนถือกล่องไม้อันหนึ่งไว้ พูดกับเจียงเฉิงไป
พอเจียงเฉิงเห็น ของที่พ่อตนเองเตรียมน่าจะไม่แย่หรอก ดังนั้นทั้งครอบครัวจึงเดินเข้าไปทางด้านในคฤหาสน์ของตระกูลสวี่ เพียงแค่สีหน้าของสวี่ฉิงดูแย่มาก เห็นชัดว่าไม่อยากมา
หลังจากเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ก็มองเห็นสวี่ฉางเชิงที่สวมเสื้อคอจีนสีแดง มีรอยยิ้มเมตตาเต็มหน้า รับของขวัญที่ผู้คนไม่น้อยมอบให้อยู่ พึงพอใจอย่างมาก
แต่ว่าตอนที่เขามองเห็นสวี่จื้อจุน รอยยิ้มบนหน้าหายไปในแวบเดียว ท่าทางดูไม่ปลื้มมากอย่างเห็นได้ชัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง