ทั้งคลินิกยังไม่ทันได้เปิดกิจการใหม่โดยสมบูรณ์ ดังนั้นจึงมีพื้นที่ว่างไม่น้อย แวบเดียวก็มีผู้ชายอายุน้อยและแข็งแรงยี่สิบกว่าคนกรูกันเข้ามา ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าก็คือชายผอมบางคนนั้นที่ก่อนหน้านี้ไปทวงหนี้ที่บ้านเหยียนปิงหรู
เวลานี้หน้าของชายผอมบางคนนั้นกับลูกน้องหลายคนยังไม่หายบวม ร่องรอยที่เจียงเฉิงตบบนหน้าครั้งก่อนยังคงหลงเหลืออยู่
“ทำไมนายถึงมาหาที่นี่กันแล้ว?” เหยียนปิงหรูมองเห็นชายผอมบางที่เดินเข้ามา รีบขมวดคิ้วเดินเข้ามาสอบถาม เธอนึกไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะสามารถหาที่นี่เจอจนได้
“ปิงหรู ไม่เลวนี่ หาเจ้าของคลินิกใหญ่โตขนาดนี้เลยนะ” ก่อนหน้านี้ชายผอมบางโดนตบก็ไม่พอใจมาก คิดวิธีหาตัวเจียงเฉิงเพื่อมาแก้แค้นโดยตลอด ดังนั้นจึงจ้องหน้าประตูบ้านเหยียนปิงหรูไว้ตลอด จากนั้นสะกดรอยตามมาเจอที่นี่เข้า
“แกมาทำอะไรอีก? ก่อนหน้านี้ตบแกไปยังตบไม่สะใจ ใช่ไหม?” เจียงเฉิงมองชายผอมบางด้วยสายตาเย็นชาแล้วถามขึ้น
สวี่ฉิงและสวี่จื้อจุนมองเห็นสถานการณ์นี้แล้ว ชั่วขณะหนึ่งมองทางเจียงเฉิงแบบเป็นห่วงอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อีกฝ่ายพามาเยอะเหลือเกินจริงๆ
“มันเรื่องอะไรกัน?” สวี่ฉิงขยับมาด้านข้างของเจียงเฉิง ถามด้วยเสียงเบาๆ
“ไม่มีอะไร แค่ปัญหาเล็กน้อย” เจียงเฉิงตอบสวี่ฉิงไปแบบสบายๆ
เดิมทีชายผอมบางรู้สึกพะวงอยู่ในใจที่ไม่ได้เหยียนปิงหรูไปครองอยู่แล้ว เวลานี้มองเห็นข้างกายเจียงเฉิงมีสาวงามคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอีก ชั่วขณะนั้นก็ยิ่งอารมณ์เสียกว่าเดิม
“ไอ้เวรนี่ แกแม่งโชคดีในเรื่องความรักนี่” ชายผอมบางถือกระบองยางไว้ในมือ ชี้หน้าเจียงเฉิงแล้วด่าทอ “เมื่อวานแกตบหน้าฉัน วันนี้คุกเข่าลงบนพื้นคำนับขอโทษฉันแบบจริงใจซะ ฉันสามารถปล่อยแกไปได้ ถ้าไม่อย่างนั้น ร้านนี้ของแกกลัวว่าไม่ทันได้เปิดกิจการ ฉันก็พังจนพินาศหมดแล้ว”
วันนี้ชายผอมบางก็คือมาเพื่อแก้แค้น ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่พาคนมามากขนาดนั้นหรอก
“นายกล้า ถ้านายกล้าทำอะไรมั่วซั่วละก็ ฉันจะแจ้งตำรวจทันที” เหยียนปิงหรูพูดเตือนชายผอมบางด้วยเสียงเย็นเยือก
“แจ้งตำรวจ?”
ชายผอมบางหัวเราะเหอะๆ บอกว่า “แจ้งตำรวจเหรอ เธอดูสิว่ามันได้ผลหรือเปล่า ฉันมีคนอยู่ในสถานีตำรวจด้วยนะ”
ถูกต้อง เหตุผลที่ชายผอมบางกล้ากำเริบเสิบสานขนาดนี้ ก็เป็นเพราะพี่เขยของเขาเป็นรอง ผกก.ในสถานีตำรวจ ดังนั้นเขาถึงปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงมาได้ตลอด ยังมีกดขี่ข่มเหงคนอื่นแบบไม่กลัวเพราะมีคนหนุนหลังด้วย
“แกไม่ขอโทษ ใช่ไหม?”
ชายผอมบางเห็นว่าเจียงเฉิงเดิมทีไม่มีความคิดจะคำนับต่อตนเอง จึงรีบตะโกนบอกด้วยเสียงเย็นชา “ไว้หน้าแล้วยังหน้าด้าน ถุย!”
ชายผอมบางด่าอยู่ก็ขากเสลดไปยังทางเจียงเฉิงตรงนั้นโดยตรง แต่ว่าเจียงเฉิงหลบออกไปทันที เสลดนั้นตกอยู่บนพื้นไปโดยตรง มองเห็นเหตุการณ์ที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ เจียงเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมาทันใด
“เลียให้สะอาด!”
เจียงเฉิงมองชายผอมบางแล้วพูดแบบเสียงเย็นชา
ชั่วขณะนั้นหน้าของซ่งจุ้นชิงเขียวไปหมด เขานึกไม่ถึงว่านักเลงกลุ่มนี้จะไร้สมองถึงขั้นนี้ได้ ชั่วพริบตาเดียวเส้นเลือดตรงหน้าผากเขานูนขึ้นมาแล้ว
ตอนที่ชายผอมบางกำเริบเสิบสานแบบนี้ ลูกน้องคนหนึ่งของเขามองเห็นสัญลักษณ์บนบัตรตำรวจเข้ากะทันหัน ชั่วขณะหนึ่งตกใจจนขาอ่อนยวบ รีบดึงชายผอมบางเอาไว้ทันที ตะโกนพูดด้วยเสียงต่ำ “พี่......พี่ใหญ่ เมื่อกี้ที่พี่ฉีกไปเหมือนจะเป็นบัตรตำรวจ”
“บัตร......บัตรอะไรนะ?”
เวลานี้หัวใจชายผอมบางเต้นตึกตักฉับพลันครู่หนึ่ง
“บัตรตำรวจ” ลูกน้องคนนี้พูดเตือนสติต่อไป
ชั่วขณะนั้นชายผอมบางหยิบบัตรตำรวจบนพื้นขึ้นมาแบบตื่นตกใจ เวลานี้เขาตกใจจนสั่นเทาไปหมดทั้งตัวแบบหยุดไม่ได้แล้ว อย่างไรเสียเขาก็นึกไม่ถึงว่า ที่นี่จะมีตำรวจอยู่ด้วย โดยเฉพาะตำแหน่งที่เขียนชัดเจนด้านบนนี้คือผกก.
แม่งเอ๊ย คาดไม่ถึงตนเองตบหน้าของผกก.?
“เอ่อ...... ผกก.ซ่ง ขอโทษครับ” ชายผอมบางรีบส่งบัตรกลับไปแบบมือสั่นเทา ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ดูให้ละเอียด ไม่อย่างนั้นเขาไม่กล้าลงมือฉีกของชิ้นนี้เด็ดขาด
“ไม่เลวนี่ มีความกล้ามาก แม้แต่บัตรของฉันยังกล้าฉีก?” ผกก.ซ่งหยิบบัตรสองส่วนของตนเองกลับมาแล้ว พูดด้วยเสียงเย็นชาทันที “มาสิ ไม่ใช่อยากเล่นงานฉันให้ตายเหรอ? ทำไมไม่ลงมือแล้วล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง